ผมมี 3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้การดู YouTube ด้วยสัญญาณ 4G ของคุณประหยัดขึ้นมาแนะนำครับ เอาไว้เวลาอยากดู YouTube ในที่ๆ ไม่มี Wi-Fi ก็ยังเพลิดเพลินได้โดยไม่เปลืองสัญญาณ 4G จนเกินไป!
เทคนิคที่ 1 ตั้งค่าการเล่นวีดีโอในแอป YouTube
- เข้าไปที่เครื่องหมายตั้งค่าข้างๆ ช่องค้นหาครับ
- เลือกไปที่การตั้งค่า
เมื่อเข้ามาที่การตั้งค่าแล้วให้เลือกตามนี้ครับ
- เข้าไปที่ “ทั่วไป”
- เปิดใช้งานโหมด “จำกัดการใช้ข้อมูลมือถือ” เมื่อเปิดโหมดนี้จะทำให้เราสามารถดูวีดีโอแบบ HD ได้เฉพาะตอนเปิด Wi-Fi เท่านั้นครับ ซึ่งถ้าเราไม่เปิดไว้ แล้วเผลอไปเล่นวีดีโอระดับ HD ผ่านสัญญาณ 4G รับรองว่าเปลืองจนต้องร้องขอชีวิตแน่นอน!
- ปิด “การเล่นอัตโนมัติ” ครับ อันนี้เป็นการช่วยทางอ้อมครับ คือถ้าเราเปิดดูวีดีโอด้วยสัญญาณ 4G แล้วไม่ได้ปิดการเล่นอัตโนมัติ วีดีโอก็จะเล่นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ รับรองว่าเปลืองไม่แพ้การดูวีดีโอแบบ HD เลยละครับ
เทคนิคที่ 2 เปิดดู YouTube จากแอป Google Chrome (สำหรับ Android)
อันนี้จะเป็นเทคนิคสำหรับชาว Android ครับ เพราะ Google Chrome เวอร์ชั่นล่าสุดในฝั่ง Android นั้นมีโหมดประหยัดอินเทอร์เน็ตมาให้ด้วย ซึ่งทาง Google บอกว่าสามารถประหยัดได้สูงสุดถึง 20% เลยทีเดียว!
- เปิดแอป Google Chrome ขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ตั้งค่า
- เลือกการตั้งค่า
เมื่อเข้ามาในเมนูตั้งค่าแล้วให้เลือกตามนี้ครับ
- เลื่อนลงไปด้านล่างจะเห็น “โปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ต”
- กดเข้าไปแล้วให้เลือก “เปิด” ง่ายๆ แค่นี้ก็ช่วยให้เราดู YouTube แบบประหยัด 4G ไปได้มากทีเดียวครับ!
เทคนิคที่ 3 โหลดวีดีโอมาดูแบบออฟไลน์
ต้องบอกว่าเทคนิคนี้เป็นการดู YouTube ที่ประหยัด 4G ที่สุดแล้วครับเพราะว่าไม่ต้องใช้เลย! แต่ว่าเราต้องโหลดวีดีโอมาเก็บไว้ในเครื่องก่อนครับ อันนี้แนะนำสำหรับคนที่อยากดูวีดีโอยาวๆ นอกบ้าน ให้ใช้งาน Wi-Fi โหลดวีดีโอออฟไลน์มาเก็บไว้ในเครื่องก่อนจะได้ดูแบบยาวๆ โดยไม่ต้องเปลือง 4G ครับ
- ขั้นตอนแรกให้เลือกวีดีโอที่อยากจะโหลดมาเก็บไว้แล้วกดไปที่ “บันทึก”
- เมื่อกดไปเข้าไปแล้วจะมีให้เลือกความคมชัดของวีดีโอที่โหลดมาครับ สูงสุดจะอยู่ที่ 720P เมื่อเลือกความคมชัดที่ต้องการได้ก็กดตกลงเพียงเท่านี้วีดีโอที่เราต้องการดูก็มาอยู่ในเครื่องเราเรียบร้อยครับ สามารถเปิดแอป Youtube ขึ้นมาดูวีดีโอได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเลย!