การทำงานยุคใหม่ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เข้าสู่ทศวรรษใหม่ ในปี 2020 เงยหน้าจากการก้มหน้าก้มตาทำงานในแบบเดิมๆ มาเปิดใจ นำเทรนด์การทำงานยุคใหม่ไปปรับใช้กันดีกว่า การทำงานยุคใหม่ หยุดพักบ้างก็ได้ คนรุ่นใหม่ อย่าง Gen Z (เกิดในปี พ.ศ. 2538-2558) และ Millennial (เกิดในปี พ.ศ.2523-2537 ) มีมุมมองเกี่ยวกับนิยามของการทำงานต่างจากในอดีต คนรุ่นนี้ส่วนใหญ่มองว่าการทำงานหนักไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ยิ่งปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยที่เปิดเผยว่าการทำงานหนักส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต เพราะฉะนั้นหยุดพักบ้างก็ได้ ไม่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา ทำหลายงาน เพิ่มประสบการณ์และเงิน งานและอาชีพที่มั่นคงยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนรุ่นใหม่ที่โตมาในยุคทองของการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ ทำให้โอกาสในการทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัย และพวกเขาก็ใช้โอกาสเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ การทำงานประจำก็สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ได้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ได้ทำงานที่หลากหลาย ใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ถ้ารู้สึกแย่ ก็แค่ร้องไห้ออกมา เมื่อรูปแบบการทำงานไม่ใช่แค่มาเช้ากลับเย็น แต่เป็นการใช้เวลาอยู่ที่ออฟฟิศมากขึ้น คนรุ่นใหม่จึงมีการแชร์อารมณ์ ความรู้สึก เอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงานมากขึ้น การร้องไห้ในที่ทำงานจึงไม่ใช่การแสดงความอ่อนแออีกต่อไป เพราะหัวเราะดังแค่ไหนก็ร้องไห้ได้เหมือนกัน เงินเดือนไม่ใช่เรื่องต้องห้าม (พูด) อีกต่อไป การพูดคุยเรื่องเงินเดือนไม่ใช่เพื่อตอบสนองความอยากรู้ แต่ยังเป็นการตรวจสอบความโปร่งใส ความเท่าเทียม และสร้างความเข้าใจในเรื่องการให้เงินเดือนมากขึ้น แม้จะเป็นงานในตำแหน่งเดียวกัน สายงานเดียวกัน แต่อัตราเงินเดือนย่อมแตกต่างกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งหากมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยแล้วรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ยังทำให้สามารถต่อรองได้ สุขภาพใจ รักษาให้ดี ปัญหาสุขภาพใจและการหมดไฟเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในการทำงาน และยังสามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดเผยมากขึ้นในประเด็นนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อเราตระหนักรู้ถึงความเครียดที่เกิดจากการทำงาน จะได้แก้ไขและบรรเทาให้ดีขึ้น ที่มา digiday