7 สัญญาณที่บอกว่าเราเป็นคนบ้างาน วิธีรับมือการเป็น Workaholic ใครที่กำลังทำงานอย่างหนักหน่วง มาเช้ากลับดึก ทุ่มเทหามรุ่งหามค่ำ มีเรื่องงานวนอยู่ในหัวทั้งวัน รีบเช็กอาการด่วน! เพราะบางทีเราอาจจะกำลังรับบท “คนบ้างาน” หรือชาว Workaholic โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งอาการติดงานในลักษณะนี้ก็ส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด โดยนิสัยเสพติดการทำงานของชาว Workaholic แม้จะไม่ถูกจัดเป็นโรคหรือความผิดปกติทางจิต แต่ก็อาจนับรวมอยู่ในกลุ่ม “ย้ำคิดย้ำทำ” (Obsessive-Compulsive Disorder) ที่ไม่สามารถหยุดความคิดและพฤติกรรมได้ ซึ่งถ้าไม่รีบแก้ไข ไม่เพียงแต่จะกระทบถึงสภาพจิตใจ แต่อาจส่งผลไปถึงสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ แถมพ่วงโรคอันตรายได้เช่นเดียวกัน Mango Zero ชวนทุกคนมาเช็กอาการกับ 7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นคนคลั่งงาน พร้อมวิธีจัดการตัวเอง รับมือการเป็น Workaholic อย่าลืมว่างานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต อย่าเอาทั้งชีวิตมาทุ่มเทให้กับงาน ถึง..คุณคนที่ทำงานหนัก เหนื่อยก็พัก และอย่าลืมหันไปเติมพลังใจพลังรักกับสิ่งรอบตัว ส่องอาการ คนคลั่งงาน Workaholic เริ่มที่ทำงานอย่างหนักหน่วงโดยรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องทำ เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกในด้านลบต่างๆ จนงานได้กลายเป็นเวลาส่วนมากของชีวิต โดยที่เมื่อไม่มีงาน หรืองานเสร็จแล้วก็จะคิดถึงงานตลอดเวลา ยิ่งถ้าไม่ได้ทำก็จะรู้สึกผิดและเครียด ขณะที่มีงาน แม้จะไม่ใช่งานรีบ แต่ก็อดหลับอดนอนเพื่อทำให้เสร็จ จังหวะอันตราย เมื่อผู้ทำงานเริ่มยึดติดคุณค่าของตัวเองไว้กับงาน เมื่อไหรที่ตัวเองเกิดความผิดพลาดจะรู้สึกว่าไม่เก่งหรือไม่มีคุณค่า ยังคงทำงานหนัก ไม่ลดระดับการทำงานหนัก แม้จะมีเสียงของผู้คนรอบข้างเป็นห่วงและตักเตือน สภาพร่างกาย(และจิตใจ) เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ทำงานหนักจนรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา, รีบทาน, เลือกอาหารไม่มีประโยชน์เพื่อความรวดเร็ว โดยหวังว่าจะประหยัดเวลาให้ได้มากที่สุด ท้ายที่สุดคือไม่สามารถรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวได้ จนกลายเป็นปัญหาที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ทั้งครอบครัว คนรัก เพื่อน ไปจนถึงเพื่อนร่วมงาน Workaholic กับผลข้างเคียงทางสุขภาพ Burnout ภาวะหมดไฟในการทำงาน Stress ความเครียดเรื้อรังและความวิตกกังวล Sleep Disorder ปัญหาด้านการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ, หลับไม่สนิท Hypertension ความดันโลหิตสูง Cardiovascular Disease โรคหัวใจและหลอดเลือด วิธีรับมือกับการเป็น Workaholic กำหนดเวลาเริ่ม – เลิกทำงานให้ชัดเจน เพื่อให้ทำงานเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ จัดลำดับความสำคัญของงาน สำคัญกว่าทำก่อน สำคัญน้อยทำหลัง ที่สำคัญ! ไม่นำกลับไปทำต่อที่บ้าน มีช่วงเวลาผ่อนคลายระหว่างทำงาน เช่น พักสายตา, ขยับตัว, เข้าห้องน้ำ ลองใช้เวลาพักประมาณ 5-10 นาทีในทุก 1 ชั่วโมง ลดระดับความเป็น Perfectionist อีกนิด ด้วยแนวคิดความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ ออกไปพบปะผู้คนรอบข้างบ้าง ใช้เวลาหลังเลิกงาน – วันหยุด ทำกิจกรรมที่ชอบชวนผ่อนคลาย ดูแลตัวเองด้วยการเลือกทานอาหารดี ๆ สุดท้าย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะพูดคุยกับนักจิตวิทยาและจิตแพทย์