การ Like คือการให้ Feedback ในทางที่ดี หรือเป็นการกดเพื่อตอบรับบางสิ่งที่เราสนใจ จากการวิจัย 44% ของผู้ใช้ Facebook กดไลค์โพสต์ในหน้า Timeline อย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน และอีก 29% กดไลค์หลายๆ ครั้งต่อวัน นั้นแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งาน Facebook มีความข้องเกี่ยว และ มีประสบการณ์ต่อการกด “Like” ทั้งนั้น สงสัยไหมว่า ทำไมเราถึงชอบกดไลค์โพสต์นี้ หรือ บทความประเภทนี้ ? มันกำลังแสดงออกถึงอะไร เห่ย ! หรือว่าเราแค่มือลั่นไปเองนะ รวดเร็ว แสดงออกว่าเราเห็นด้วย เมื่อเราเลื่อน Feed หน้า Facebook เรา แล้วเราเห็นข้อความ หรือ บทความอันไหนที่โดนใจ เราก็มักจะกด “ถูกใจ” ได้อย่างรวดเร็ว นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ? เมื่อเราถูกใจ เราถึงกด “Like” เพราะ การกด Like เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และ ไวที่สุดในการแสดงออกว่าเรานั้น “เห็นด้วย หรือ ถูกใจ” ในสิ่งนั้น เป็นสิ่งที่สนใจ ตรงกับ Lifestyle ของเรา แน่นอน เรากด “Like” เพราะเราชอบ เราสนใจ เราสนับสนุนในสิ่งนั้น มันเป็นการยืนยันในสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับตัวเราว่า “เรากำลังสนใจสิ่งนี้อยู่นะ หรือ เรากำลังสนับสนุนสิ่งนี้อยู่” จากการสำรวจในคนจำนวนหนึ่ง การกด Like ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล และ การแสดงออกว่าชอบของแต่ละคน สามารถบอกถึง เพศ ช่วงอายุ เขาเป็นใคร รสนิยม ไลฟ์สไตล์ของเขาได้ ยกตัวอย่างเช่น เรากด Like เพจเกี่ยวกับเพลงสากล ก็เพราะเราสนใจและติดตามในเพลงลักษณะนี้ และ คาดว่า เราก็จะมีความสนใจในสเตตัส บทความ หรือ สิ่งที่เพจนั้นๆ โพสต์ต่อไปด้วยในอนาคต เป็นต้น เป็นสิ่งที่คนพูดถึง ในบางสถานการณ์เรา Like บางสิ่งเพียงเพราะว่า สิ่งนั้นเป็นที่พูดถึงอยู่ ใครๆ ก็รู้ และ พูดถึง อาจเพราะ “เรากลัวที่จะพลาดอะไรบางอย่าง” เรียกอาการนี้ว่า FOMO หรือ Fear of Missing Out การไลค์สิ่งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงออกถึง การรับรู้ในเรื่องราวนั้น เราไม่ได้พลาดในสิ่งนี้อยู่นะ แสดงความมีตัวตน “You’re What You Like” แทนได้ดีในสถานการณ์นี้ “คุณเป็นอะไร ในสิ่งที่คุณเห็นด้วยกับมัน” หมายความว่า สิ่งที่เรากดถูกใจ เป็นการแสดงถึงการมีตัวตนของคุณในสิ่งที่คุณชอบ เช่น คุณชอบ Honne แล้วคุณกดไลค์เพจ หรือ เข้าร่วมกลุ่มลับแฟนคลับ Honne Thailand อะไรแบบนั้น มันก็เป็นสิ่งที่แสดงออกว่า คุณเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งนั้นในสิ่งที่คุณชอบ และ อยากมีตัวตน หรือ ในอีกสถานการณ์คือ คุณกด Like เพราะ คุณอยากให้รู้ว่า “คุณยังติดตามในสิ่งนั้นอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน ตอกย้ำความมั่นใจในสิ่งที่ชอบ” ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น คุณชอบคนๆ หนึ่งอยู่ แล้วคุณกด Like คนนั้นอยู่ตลอดเรื่อยๆ ก็เพื่อให้คนนั้นได้รับรู้ว่า คุณยังคงให้ความสนใจในตัวเขาอยู่ และ เป็นการตอกย้ำความชอบในตัวเองด้วย ต้องการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ข่าวสารเกิดขึ้นได้ทุกวัน ทุกเวลา เราจึงกด Like เพราะ เราอยากที่จะตามข่าวสารเหล่านั้น ไม่ใช่แค่ข่าวสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่รวมถึง เพจที่เราชอบ แบรนด์ที่เรารัก หรือ บางสิ่งที่เราต้องการรับข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น เรื่อยๆ และ ต่อๆ ไป 41% จากการสำรวจ คนจำนวนหนึ่งต้องการรับข่าวสาร หรือ ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และ 31%เห็นว่าโพสต์ หรือ คอนเท้นต์นั้น เป็นประสบการณ์ที่ดี เหตุผลหนึ่ง ก็คือ เราสนใจในสิ่งนี้ อยากรับข้อมูลเหล่านี้เรื่อยๆ และ จะเป็นการดีมาก ถ้าเรารับรู้ข่าวสารในสิ่งที่ชอบ ก่อนใคร ไม่ตกกระแส รักษาความสัมพันธ์ บางทีเรา Like เราก็ไม่ได้ดูว่าเพื่อนจะโพสต์ข้อความ รูปถ่ายอะไรหรอก แต่เรา Like เพราะว่า “ใครเป็นคนโพสต์มากกว่า” ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน เจ้านาย เพื่อนที่ไม่ได้เจอหน้านาน เพื่อนที่หายไปจากชีวิตแล้ว พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เป็นต้น Like เพราะว่า เห่ยเพื่อนเราเปลี่ยนรูปไฟล์หนิ ไปไลค์ดีกว่า , เจ้านายเรียนจบปริญญาโทแล้ว งั้นกดไลค์หน่อยละกัน , เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน โพสต์ข้อความอะไรบางอย่าง กดไลค์ให้มันเห็นหน่อย เผื่อมันจะนึกถึงกัน เป็นต้น การกดไลค์ในลักษณะนี้ เหมือนเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ แสดงออกว่า เรายังคงเห็นความเคลื่อนไหวในชีวิตของกันและกัน เราแคร์ เราสนใจในสิ่งที่เธอทำอยู่นะ เราเป็นกำลังใจให้เธอนะ เธอเป็นคนสำคัญของฉันเสมอ เป็นต้น เพื่อน “ชอบ” มีโอกาสที่เราจะ “ชอบด้วย” มีคนเคยบอกว่า การที่เราเป็นเพื่อนกันได้ เพราะ เราต้องมีบางอย่างที่คล้ายกันบ้างแหละ หรือ ศีลมันเสมอกัน เราถึงคุยกันรู้เรื่ง และ มาเป็นเพื่อนกันได้ ลองสังเกตว่า เวลาเพื่อนเรา Like หรือ Share อะไรใน Facebook เรามักจะสนใจ และ ชอบด้วยบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนชอบตามเพจตลกๆ คลิปปั่นมากๆ เราก็จะชอบด้วย ไปกด Like จนถึงไป Comment หรือ Share ต้องการ Feedback ที่ดีกลับมา ในบางครั้ง เราอาจจะมีความโรคจิตอย่างหนึ่งคือ เมื่อเรากด Like เพื่อน เราก็หวังให้วันหนึ่ง เขากลับมา Like เรากลับบ้าง หรือ ให้เพื่อนกดไลค์ ในสิ่งที่เราคิด หรือ สิ่งที่เรากำลังจะต้องการทำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ และ สร้างกำลังใจให้กับตัวเราเอง ยกตัวอย่างเช่น เราตั้งว่า เราจะลดน้ำหนักนะ ใน Facebook ของเรา เราก็หวังจะให้เพื่อนมากด Like ในสิ่งที่เราคิดจะทำ หรือ Comment อะไรบางอย่างที่ทำให้คุณมั่นใจในสิ่งนั้นมากขึ้น เหมือสร้างพลังอะไรบางอย่าง คาดหวังสิ่งตอบแทน คุ้นเคยกันดี คำว่า กด Like และ Share โพสต์นี้ แล้วจะแจกของ ได้รับของ เล่นเกมชิงรางวัลอะไรต่างๆ คนส่วนใหญ่ไม่มีใครทำอะไร แล้วไม่หวังผลประโยชน์หรอก เราหวังผลทั้งนั้น จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป 42% ของการสำรวจผู้คนกลุ่มหนึ่ง Like เพื่อต้องการคูปอง หรือ ส่วนลด และ 35% ต้องการมีส่วนร่วมกับคอนเท้นต์นั้นๆ มือลั่นไปเอง ไม่มีเหตุผลของการ Like เพราะว่า มันคือ “อุบัติเหตุจากความมือลั่นไปเอง” ในบางสถานการณ์ เราไม่ได้ชอบอะไรในสิ่งนี้ หรือ คนนี้หรอก แต่เราอยากจะรู้เรื่องราวของสิ่งนั้น หรือของเขา พูดง่ายๆ คือ อยากยุ่งนั้นเอง แต่มือเราดันไป Like นี่อะดิ แล้วทำไงได้ จะให้กด Like ออก มันก็แจ้งใน notification ของเขาแล้ว สรุปสุดท้าย เขารู้เลยนะคะ ว่า “เข้าไปส่องเขามา แผนแตก” เรียกง่ายๆ ว่า “โป๊” ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ปล่อยเลยตามเลย อ้างอิงจาก marketingland.com/psychology-liking-facebook-135599 grafdom.com/blog/12-reasons-why-people-like-your-posts-on-social-media/ marketingoops.com
