กาลาปากอส ซินโดรม (ガラパゴス化) คือคำที่ชาวญี่ปุ่นใช้ล้อเลียนชาติตัวเองซึ่งเหมือนเกาะที่อยู่ห่างไกลจนมีวิวัฒนาการผิดแผกจากไปจากชาวบ้าน โดยเฉพาะวัฒนธรรมโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาพูดคุยกันผ่านอีเมล เล่นเกม เขียนบล็อก แม้แต่เขียนนิยาย ด้วยการพิมพ์แป้นตัวเลข 0-9 มานานก่อนที่สมาร์ทโฟนจะเริ่มเป็นที่นิยมที่อื่นในโลกด้วยซ้ำ
โซเชียลเน็ตเวิร์กเองก็เช่นกัน เฟซบุ๊กอาจจะเป็นสื่อสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของคนทั่วโลก แต่ไม่ใช่ที่ญี่ปุ่น แล้วพวกเขาใช้อะไรกันบ้างล่ะ?
Line
ไลน์กลายเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กอันดับ 1 ในญี่ปุ่นได้ด้วยเวลาเพียงไม่นานหลังเปิดตัวครั้งแรกหลังเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในปี 2011 ปัจจุบันมีผู้ใช้เดือนละกว่า 50 ล้านคน หรือถึงร้อยละ 40 ของประชากรญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ตัวเมสเซนเจอร์แอปพลิเคชันเท่านั้น ไลน์ในญี่ปุ่นยังครอบคลุมไปถึงบริการหลายๆ อย่าง ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง ซื้อของ จ่ายเงิน เดินทาง อีกด้วย
ที่ญี่ปุ่นนั้นค่าโทรศัพท์ค่อนข้างแพง สวนทางกับอินเตอร์เน็ตซึ่งมีให้ใช้ทุกที่ ฉะนั้นไลน์ซึ่งให้โทรหากันผ่านอินเตอร์เน็ตได้ฟรีจึงเป็นที่นิยมขึ้นมา นอกจากนั้นไลน์ยังเข้ากับไลฟ์สไตล์คนญี่ปุ่นที่ชอบคุยกันแบบส่วนตัวกับคนรู้จัก โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอะไรมาก ที่สำคัญยังมีสติกเกอร์น่ารักๆ ให้ใช้ ก็ยิ่งเหมาะกับวัฒนธรรมอีโมติค่อนของคนญี่ปุ่นเข้าไปอีก
พูดถึงความเป็นกาลาปากอส ญี่ปุ่นอาจจะเป็นประเทศเดียวที่ผู้คนนิยมทวิตเตอร์มากกว่าเฟซบุ๊ก วัดจากยอดผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 26 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ของจำนวนประชากร เมื่อเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ หรือข่าวดังๆ ชาวญี่ปุ่นนับแสนก็มักจะทวีตเรื่องเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย มีแม้แต่มือถือที่ออกแบบมาเพื่อเล่นทวิตเตอร์โดยเฉพาะจำหน่ายด้วย
จุดเด่นที่สุดของทวิตเตอร์นั้นก็คือความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถแสดงความเห็นต่อข่าวสารต่างๆ ได้โดยแทบจะไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ที่สำคัญคือข้อจำกัดเรื่อง 140 ตัวอักษรของทวิตเตอร์นั้นอาจจะน้อยมากสำหรับภาษาอื่น แต่ในภาษาญี่ปุ่น 140 ตัวอักษรนั้นแทบจะเขียนนิยายได้เลย
คนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้งานเฟซบุ๊ก หรือถึงใช้ ก็น้อยคนที่จะใช้เฟซบุ๊กแบบส่วนตัว นโยบายของเฟซบุ๊กที่บังคับให้เปิดเผยชื่อจริงนามสกุลจริงทำให้พวกเขารู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะใช้ในการแสดงความคิดเห็น หรือโพสต์เรื่องสัพเพเหระในชีวิต ซึ่งค่อนข้างจะขัดกับลักษณนิสัยของคนญี่ปุ่น พวกเขาไม่อินถึงขั้นต้องมีเว็บไซต์ Facebook Navi เพื่อสอนการใช้งานเฟซบุ๊กขึ้นมาเลย
เฟซบุ๊กในญี่ปุ่นเติบโตเฉพาะในคนที่ชอบเดินทางหรืออาศัยอยู่ในต่างประเทศ หรือมีไว้เพื่อเป็นโปรไฟล์ทางธุรกิจหรืออาชีพการงานมากกว่า ถ้าจะเปรียบเทียบเฟซบุ๊กในญี่ปุ่นกับโซเชียลเน็ตเวิร์กของชาวโลกก็น่าประมาณ LinkedIn ล่ะมั้งครับ ในขณะที่ LinkedIn ในญี่ปุ่นกลับมีผู้ใช้ไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากร เพราะคนญี่ปุ่นไม่มีค่านิยมในการหางานใหม่กันบ่อยๆ เท่าไหร่
อินสตาแกรมพึ่งจะเริ่มเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นได้ไม่นานนัก ศิลปิน ทั้งดารา นักร้อง นักวาดในญี่ปุ่น พึ่งเริ่มเปิดบัญชีอินสตาแกรมให้แฟนๆ ได้ติดตามกันเมื่อช่วงปีสองปีที่ผ่านมา อินสตาแกรมเองก็มีจุดเด่นคล้ายทวิตเตอร์แถมความสามารถในการแต่งรูปแบบที่ตรงใจชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านคน
Mixi
ลักษณะการใช้งานมิกซี่คล้ายกับเฟซบุ๊ก ที่สามารถเห็นอัพเดตบล็อกและรูปภาพของเพื่อนๆ เราได้ ต่างกันตรงที่เป็นแพลตฟอร์มปิดที่จำเป็นต้องได้รับการเชิญจากสมาชิกก่อนจึงจะสามารถสมัครใช้ได้ มิกซี่เคยเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ก่อนจะถูกรายใหญ่ๆ จากอเมริกาค่อยๆ แย่งอันดับไปทีละนิดๆ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานต่อเดือนประมาณ 14 ล้านคน และค่อยๆ ผันตัวเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโมบายล์เกมมิ่งแทน
Youtube, Niconico
ยูทูบเป็นวิดีโอเน็ตเวิร์กที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น เหมือนกับที่อื่นๆ ในโลก หากวัดจากจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน แต่หากวัดกันที่เวลาที่ผู้คนใช้ในการเข้าชมต่อวัน ชาวญี่ปุ่นจะชอบดูวิดีโอกันผ่านเว็บไซต์นิโกะนิโกะมากกว่าถึง 240%
Google+
กูเกิ้ลพลัสอาจจะเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่แป้กในหลายๆ ที่ ที่ญี่ปุ่นเอง ถึงจะมีผู้ใช้ไม่มากนัก เพียงหลักแสนคน แต่ศิลปินหลายวงก็มักจะมีแอคเคานท์กูเกิ้ลพลัสให้แฟนๆ ได้ติดตามเหมือนกัน
Ameba, Livedoor
ผู้ให้บริการบล็อกรายใหญ่ของญี่ปุ่น ดารา นักร้อง และไอดอลญี่ปุ่นหลายคนก็มักจะเปิดบล็อกของตัวเองไว้เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ เหมือนไดอารี่ ให้แฟนๆ ได้ติดตามด้วย
2Channel
นิแชนเนรุ เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กรูปแบบเว็บบอร์ดที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมญี่ปุ่น มีข้อความถูกโพสต์วันละกว่า 2 ล้านโพสต์ เรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยกันในนี้มักจะกลายเป็นเทรนด์สังคมในเวลาต่อมาด้วย คล้ายๆ Pantip ในประเทศไทย ในปี 2007
Mobage, Gree
โมบาเกะ และกรี เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีเกมให้เล่นออนไลน์มากมายทั้งบนเว็บไซต์และโทรศัพท์มือถือ สามารถเพิ่มเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนและอื่นๆ ได้ มีผู้ใช้กว่า 30 ล้านคน
Pixiv
คอมมิวนิตี้ไซต์สำหรับนักวาด นักออกแบบ เพื่อรวบรวมผลงานเผยแพร่เป็นพอร์ตโฟลิโอ ให้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ง่าย คล้ายกับ DeviantArt
ที่มา – Social Media Today, Fresh Trax