แน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าพูดถึง T-POP นอกจากเสียงร้องอันโดดเด่น ไลน์เต้นอันเฉียบคม และทักษะการเป็นซุปเปอร์สตาร์เบอร์ท็อป (สังเกตได้จาก Chapter ที่แล้ว) อีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่หลายคนต้องนึกถึงนั่นก็คือ “ความหลากหลาย” ต้องยอมรับเลยว่าวงการ T-POP นั้น เต็มไปด้วยความหลากหลายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์แบบไหน แนวเพลงแบบใด ก็เปิดกว้างให้ ฮีเสิร์ฟ ชีเสิร์ฟ ได้ทุกรสชาติ ซึ่งสิ่งนี้เองถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ T-POP ที่ทำให้ผู้คนที่มองมา แม้จะไม่ใช่แฟนคลับหรือติดตามมาก่อน ก็รู้สึกสนุกสนานกับความหลากหลายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปี 2024 นี้ จะสังเกตได้เลยว่า เหล่า T-POP เป็นไวรัลได้ไม่เว้นวัน เพราะว่าความหลากหลายที่กล้าคิด กล้าทำ และเปิดกว้างนี้เอง เพราะฉะนั้นวันนี้ แมงโก้ ชวนมาดูกันดีว่า เหล่า T-POP ฮีเสิฟร์ ชีเสิร์ฟ อะไรให้เราได้สนุกสนานกับรสชาติที่หลากหลายกันบ้าง ! 🌟 ไลน์อัพรายการเพลงสุดแสนวาไรตี้ : ศิลปินแต่ละคนอย่างตึง ทำถึงทั้งวงการ อะไรใหม่ๆ ของรายการเพลง อะไรจะมีค่ามากไปกว่าการมีพื้นที่ให้ได้โชว์ผลงาน แสดงความสามารถให้ผู้คนได้รับรู้ ! เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ เพราะถือเป็นก้าวสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่วงการ T-POP แต่รวมถึงวงการเพลงไทย กับพื้นที่โปรโมตผลงานเพลงของตัวเองที่มีเพิ่มมากขึ้น ในช่วงแรกๆ ต้องยอมรับเลยว่า ศิลปินไทยนั้นมีความสามารถจนล้นตลาด แต่กลับไม่มีพื้นที่ให้ได้โชว์ของ ประกาศให้โลกได้รู้ว่าเรามีดี ! แล้วโอกาสครั้งสำคัญก็ถือกำเนิด กับรายการเพลงที่ดูจะเป็นจริงเป็นจัง เป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินวาดฝันว่าจะได้เข้าร่วมสักครั้งอย่าง “T-POP STAGE” รายการเพลงที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการจะ ”ส่งเสริมและผลักดันวงการ T-POP ในระดับโลก” ซึ่งภายในรายการจะมีคอนเซ็ปต์ง่ายๆ ที่เราคุ้นชินอย่างการให้ศิลปินขึ้นโชว์บนเสตจโปรโมตเพลงที่พึ่งปล่อยออกมา รวมถึงจะมีการจัดอันดับ มอบถ้วยรางวัลให้กับศิลปินประจำสัปดาห์ โดยออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลามเพราะนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของวงการ T-POP และวงการเพลงไทย และแล้ว ในปี 2024 ก็ถือกำเนิดรายการเพลงอีกหนึ่งรายการ ที่เรียกได้ว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เลยทีเดียว กับ “Thailand Music Countdown” ที่ความพิเศษนอกจากจะเป็นรายการเพลงของไทยแล้ว รูปแบบและคอนเซ็ปต์ของรายการนี้เป็นลิขสิทธิ์แท้จากประเทศเกาหลี ที่รู้จักกันในนาม “M Countdown” นั่นเอง แต่ๆๆ ที่พูดมาทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้แค่ต้องการให้เห็นความเติบโตของวงการ T-POP แต่ถ้าหากได้ติดตามจริงๆ จะพบว่า ไลน์อัพศิลปินที่เข้าร่วมรายการเพลงแต่ละสัปดาห์นั้น สุดจึ้ง สุดปัง หลากหลายวาไรตี้ให้ผู้ชมได้ดูกันอย่างเพลิดเพลิน จะบอยกรุป เกิร์ลกรุป ศิลปินเดี่ยว ศิลปินกลุ่ม จะเป็นแนวเพลงแบบไหน คาแรกเตอร์แบบใดไม่เคยหวั่น แม้จะเป็นมาสคอต ก็สามารถขึ้นรายการเพลงได้ เพราะถ้าศิลปินจัดเต็ม ผู้จัดรายการก็จัดเต็ม ยกความอลังการของเสตจมาแบบทำถึงสุดๆ เพราะจุดนี้เองที่ทำให้วงการ T-POP มีสีสัน ผู้คนสนุกเพลิดเพลินไปกับโชว์หลากหลายรูปแบบ ไม่ต้องจำกัดอยู่แค่กรอบเดิมๆ ที่เกิร์ลกรุปต้องน่ารัก บอยกรุปต้องเท่ เพราะแต่ละคนมีลูกเล่นใหม่ๆ พร้อมเสิร์ฟให้ได้ตื่นเต้นอยู่เสมอนั่นเอง 🌟 ButterBear จากมาสคอตสู่ศิลปิน : มาสคอตพุงเต่ง กลายเป็นตัวเต็งไอดอลสาว ถือกำเนิดชาวด้อมน้องเนย และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นวาระแห่งชาติเลยก็ว่าได้ กับการถือกำเนิด “น้องหมีเนย” หรือ “Butterbear” มาสคอตน้องหมีจากร้าน Butterbear ร้านขนมใจกลาง Emsphere ที่บอกว่าเป็นวาระแห่งชาติ นั่นก็เพราะน้องเนยนั้นดังไกลไปถึงต่างประเทศ ! ด้วยความน่ารักสดใส ไหนจะสกิลการเต้นที่ไม่เป็นสองรองใครแม้เจ้าตัวจะพุงเต่งแค่ไหนก็ตาม เท่านั้นยังไม่พอ แฟชั่นของน้องเนยก็จัดเต็ม เปลี่ยนชุดบ่อยไม่เคยซ้ำ และที่สำคัญคือความน่ารักฮีลใจ คอยส่งพลังบวกให้กับทุกคนอยู่เสมอ ทำให้ถือกำเนิด #ด้อมน้องเนย ที่ใหญ่ไม่แพ้ศิลปินท่านไหนๆ แถมด้วยสกิลต่างๆ ของน้องเนย ทำให้ต้องยอมรับเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งของวงการ T-POP เพราะซิงเกิลแรกของน้องเนยอย่าง “น่ารักมั้ยไม่รู้” นั้น ยอดวิวถล่มหลายเกิน 16 ล้านวิวแล้ว ! เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากซิงเกิลจะได้รับผลตอบรับอย่างถล่มทลาย เจ้าตัวเองก็แมสยิ่งกว่า จนแทบจะเป็นปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้ อย่างการรอแชะรูปหรือพูดคุยกับน้องเนย จนแถวยาวคนล้นห้างต้องสร้างระบบรับคิวกันเลยทีเดียว แถมไม่ใช่แค่แฟนคลับชาวไทย แต่ต่างชาติก็ทนความน่ารักของน้องเนยไม่ไหวจนมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยมาจากต่างประเทศเพื่อเจอน้องเนยที่ไทยโดยเฉพาะ ถ้านี่คือความสำเร็จของน้องเนยแล้ว ยังมีได้มากกว่านั้น เพราะไอดอลสาวยังได้มีแฟมมีตติ้งเป็นของตัวเองและมีผู้เข้าชมหลายพันคน ให้น้องเนยได้โชว์สกิลทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งเล่นสนุก พร้อมส่งพลังบวกให้ทุกๆ คน ได้รับรอยยิ้มกลับไปตามๆ กัน เรียกได้ว่า น้องเนย ถือเป็นอีกตัวอย่างของความหลากหลายของวงการ T-POP ที่เปิดกว้างจริงๆ เพราะนอกจากจะได้ทำกิจกรรมเดี่ยวแล้ว น้องเนยเองก็ได้ไปร่วมจอยกับศิลปินท่านอื่นๆ อีกเพียบ แถมยังเป็นขวัญใจของวงการ T-POP อีกด้วย 🌟 หมูเด้ง เด้งไกล จนได้เซ็นสัญญาค่ายดัง : เป็นไวรัลตั้งเกิด เฉิดฉายจนได้ดี จะเป็นศิลปินทั้งทีก็ได้เซ็นกับค่ายใหญ่ซะเลย มาต่อกันกับอีกหนึ่งศิลปินที่ไม่ใช่คน ไม่ใช่มาสคอต แต่เป็น “ฮิปโป” ! ฟังไม่ผิด น้องหมูเด้ง คือเจ้าฮิปโปแคระ จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ต้องเท้าความก่อนว่าเจ้าหมูเด้งนั้น เป็นฮิปโปแคระในโครงการอนุรักษ์ฮิปโปแคระของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งระหว่างที่รอคลอด ทางสวนสัตว์ได้มีการเปิดโหวตชื่อของเจ้าฮิปโปแคระเกิดใหม่ตัวนี้ และได้ทำการอัปเดตชีวิตประจำวันของเจ้าหมูเด้งลงโซเชียลอยู่เรื่อยๆ และด้วยความน่ารักของเจ้าฮิปโปแคระตัวนี้ ก็ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจจนเกิดเป็นปรากฏการณ์รถติดตั้งแต่ทางเข้าสวนสัตว์เพราะทุกคนมุ่งหน้าไปหาหมูเด้ง จากนั้นก็เริ่มมีคอนเทนต์เกี่ยวกับเจ้าหมูเด้งออกมาอยู่เรื่อยๆ แต่ที่ทำให้ประหลาดใจที่สุดก็คงเป็นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา GMM MUSIC ได้ประกาศต้อนรับน้องหมูเด้งเข้าสู่ครอบครัวอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการเซ็นสัญญากับศิลปินที่อายุน้อยที่สุดเพียง 4 เดือน ! ซึ่งการเป็นศิลปินของน้องหมูเด้งในครั้งนี้ ถือเป็นโปรเจกต์ที่ทาง GMM MUSIC จับมือร่วมกับ องค์การสวนสัตว์ฯ เพื่อส่งมอบความสุขผ่านเสียงเพลง ให้กับทุกๆ คนผ่าน 2 ซิงเกิล อย่าง “หมูเด้ง หมูเด้ง” และ “หมูเด้ง ลิตเติล ฮิปโป” ที่มีจังหวะน่ารักๆ ตามสไตล์ T-POP แถมทั้ง 2 เพลงยังมีถึง 4 เวอร์ชั่น 4 ภาษา ทั้ง ไทย, จีน, อังกฤษ และ ญี่ปุ่น อีกด้วย บอกเลยว่าชีเสิร์ฟของจริง แม้จะเป็นฮิปโปก็จอยวงการ T-POP ได้ ตอกย้ำความหลากหลายที่ไม่มีสิ้นสุดของวงการ T-POP อย่างที่บอกไปจริงๆ 🌟สอดแทรกความเป็นไทยในความสดใหม่ของ T-POP : เพราะฉะนั้นจะมาเป็น T-POP เหมือนกันไม่ได้ ! เพราะความเป็นไทยอยู่ในเอนเนอร์จี้ ถ้าพูดถึงความเป็นไทย อย่างไรมันก็อยู่ในสายเลือด ! สำหรับประเด็นนี้ คงไม่ใช่ประเด็นใหม่มากนัก แต่ถือเป็นหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจของวงการ T-POP ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายแต่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างดีทีเดียว เพราะว่าหลายต่อหลายครั้ง คอนเซ็ปต์ของ T-POP ก็เลือกที่จะเล่นกับความเป็นไทย หรือหยิบยกเอกลักษณ์บางอย่างเพื่อยังคงกลิ่นไอของความเป็นไทยเอาไว้ และนั่นถือเป็นจุดเด่นในเรื่องของคอนเซ็ปต์ที่ดีทีเดียว เพราะขึ้นชื่อว่าความเป็นไทย ชาติไหนก็คงจะมาสู้ไม่ได้ ยกตัวอย่างตำนานที่มีลมหายใจอย่าง “อุ๊ย คุณพระ! (OMG) – LAZ1 (OST. พระนคร ๒๔๑๐)” ถือเป็นการผสมผสานแนวเพลงได้อย่างลงตัว ด้วยจังหวะน่ารักๆ นำสมัยตามสไตล์ T-POP ปัจจุบัน ร่วมกับเครื่องดนตรีไทยที่แฝงไว้ในเมโลดี้ รวมถึงเสื้อผ้าหน้าผม คอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าไทยแท้ ทำให้แม้จะเป็นแนวเพลงที่ผสมความเป็นไทยโบราณแต่ก็ไม่ได้ดูล้าสมัย กลับกันยังช่วยทำให้โดดเด่น แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร แถมยังชูความเป็นไทยให้ผู้คนได้พบเห็นมากยิ่งขึ้นผ่านคำว่า T-POP หรือจะเป็นความโดดเด่นใน “ด้านภาษา” อย่างเพลง “ปล่อยจอย (Ploi Joy) – bamm feat. Pimma PiXXiE” เป็นอีกเพลงตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของการทำเพลงจริงๆ เพราะนอกจากเรื่องของทำนอง ภาษาที่ใช้ก็สามารถหยิบยกมาเป็นจุดเด่นได้เช่นกัน ซึ่งเพลงนี้ก็ถือว่าเป็นไวรัลอย่างมากและแม้จะผ่านไปถึง 2 ปีแล้ว ก็ยังถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆ ด้วยเนื้อเพลงที่ผสมผสานภาษาถิ่นของไทยไว้ได้อย่างกลมกล่อม ไม่ว่าจะภาคกลาง ภาคอีสาน หรือภาคเหนือ แถมยังดีไซน์ภาษาออกมาให้คล้ายกับสำเนียงของภาษาเกาหลี โชว์ความลื่นไหลทางด้านภาษาออกมาให้ผู้คนได้สนุกสนาน แถมยังเป็นการพรีเซนต์ภาษาถิ่นไปในตัวอีกด้วย และนี่จึงถือเป็นสีสันแห่งวงการ T-POP ที่พัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง ยังไม่รวมถึงเพลงในประเภทอื่นๆ อย่างเช่นเพลงลูกทุ่ง ที่ตอนนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น หลายๆ เพลงก็กลายเป็นไวรัลให้ได้ cover กัน หรือแม้แต่การสร้างบอยแบนด์ เกิร์ลกรุป ของวงการเพลงลูกทุ่งก็เช่นกัน ถือเป็นสีสันให้กับวงการ T-POP ที่พร้อมเสิร์ฟให้กับแฟนๆ ทุกคน 🌟 พื้นที่เปิดกว้างต้อนรับศิลปินทุกรสชาติ : จะสวย จะหล่อ ตัวพ่อ ตัวแม่ T-POP มีให้ทุกคนได้เลือกสรร ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สอดรับกับคำว่า “ความหลากหลาย” กับการเปิดกว้างให้ศิลปินทุกเพศได้แสดงออกถึงตัวตนของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่มีการปิดกั้นหรือต้องคอยจับผิดให้ได้เป็นประเด็น กลับกัน ทั้งศิลปินและแฟนคลับต่างสนุกสนานไปกับการเป็นตัวของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะในยุคสมัยนี้ มุมมองในเรื่องของ LGBTQ+ นั้นค่อนข้างเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ผู้คนเข้าใจและมองเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ว่าจะสายงานไหน อาชีพใด ก็ไม่มีการแบ่งแยก เช่นเดียวกับ อาชีพศิลปิน ที่เรียกได้ว่าเป็นบุคคลสาธารณะที่มีสายตาจากทั่วทุกหนแห่งคอยจับจ้อง การเป็นตัวของตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่ดีและจริงใจที่สุดที่จะมอบให้กับแฟนคลับได้ และวงการเพลงของไทยเอง ก็ถือเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างพร้อมเปิดรับทุกความหลากหลายเสมอไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แม้แต่เชื้อชาติ รวมไปถึงรูปร่างหน้าตา ก็เปิดกว้างให้ศิลปินได้เป็นตัวของตัวเองและเป็นที่รักในแบบที่ตัวเองเป็น ถ้าหากยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดที่สุด ตัวแทนของ LGBTQ+ ที่ใครหลายคนนึกถึงคงจะต้องเป็น “แก๊งหิ้วหวี” ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้ง 5 คน ได้แก่ มิกซ์-เฉลิมศรี, นัท-นิสามณี, ตูน (alie blackcobra), เอแคล์ จือปาก และ เอิ้ก ชาลิสา เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของ LGBTQ+ ที่โด่งดังและเป็นที่พูดถึง ทั้งความสนุกสนานของคอนเทนต์ที่แต่ละคนได้สื่อสารกับผู้ชม หรือแม้แต่ผลงานเพลงที่แต่ละคนฝากเอาไว้นั้น เป็นไวรัลแทบจะทุกการขยับตัว โดยเฉพาะ มิก-เฉลิมศรี หรือ Badmixy ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นครูสลาของวงการ LGBTQ+ ด้วยผลงานเพลงสุดปัง อาทิ ฟ้ารักพ่อ (DLIF) , ถ้าไม่มีฉัน (Lost), โอ้ละหนอไอ้แฟนเก่า และเพลงอื่นๆ ที่ได้ร่วมแต่งและฟีทเจอร์ริ่ง ต้องบอกเลยว่าไวรัลแทบจะทุกเพลงจริงๆ อีกทั้งล่าสุดก็ได้ขึ้นแท่นเจ้าของค่ายแล้วอีกด้วย แถมเมื่อไม่นานมานี้ แก๊งหิ้วหวี ก็ได้ปล่อยเพลง “โอม (OHM)” ซึ่งเรียกว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ความเป็น T-POP อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นเมโลดี้เพลง หรือท่าเต้น ก็ทำออกมาได้แบบชีเสิร์ฟจริงๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการ T-POP ที่เชื่อว่าไม่ได้พบเห็นกันบ่อยๆ ในวงการเพลง นอกจากนี้ยังมี ศิลปิน LGBTQ+ อีกหลากหลายที่วงการ T-POP พร้อมกอดรับและสนับสนุนผลงานอยู่เสมอ โดยไม่มีการตั้งคำถามหรือก่อประเด็นใดๆ แม้ว่าจะมีการแสดงออกอย่างชัดเจนหรือไม่ แฟนคลับ T-POP พร้อมโอบกอดความหลากหลาย และเป็นพื้นที่สบายใจให้ศิลปิน จึงทำให้การวงการ T-POP นั้นมีสีสันและสนุกสนานนั่นเอง 🌟 กล้าคิดกล้าทำกล้าลองทุกคอนเซ็ปต์ : คอนเซ็ปต์อะไรไม่เคยหวั่น สวย มั่นใจ ไม่กลัว พีเรียด ! สวย มั่นใจ ไม่กลัว พีเรียด ! เพราะนี่คือ T-POP และ T-POP แปลว่าอิสระ ใครอยากจะทำอะไร คอนเซ็ปต์แบบไหนไม่เคยมีใครห้ามใคร มีแต่จะสนับสนุนให้ทำอีก เสิร์ฟอีก ! ถ้าหากพูดถึงเรื่องของคอนเซ็ปต์ T-POP คงจะไม่ได้โดดเด่นเว่อร์วังอลังการในอุตสาหกรรมมากนัก แต่เรียกได้ว่าเราได้เห็นพัฒนาการของวงการ T-POP ค่อนข้างมาก จากกรอบเดิมๆ ที่เคยมีมา ในปัจจุบันก็ได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากขึ้น แล้วเมื่อวงหนึ่งเสิร์ฟ อีกวงก็เสิร์ฟ ไม่มีใครยอมใคร ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งความสนุกสนาน เป็นสีสันใหม่ๆ ของวงการ T-POP ที่ลงลึกไปถึงความครีเอทีฟของทีมงานเบื้องหลัง ยกตัวอย่างแบบสดๆ ร้อนๆ กับ comeback ล่าสุดของ 3 สาว PiXXiE ชื่อนี้การันตีในเรื่องของคอนเซ็ปต์อยู่แล้ว เพราะสาวเจ้าเป็นมาแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภูตน้อยแฟรี่ เป็นแม่มดมนต์ดำ หรือแม้แต่เป็น “เทพ” ตามคอนเซปต์ล่าสุดของเพลง “Pick a Card” ที่ปล่อยมาก็ทำเอาแฟนๆ ตะลึง ด้วยคอนเซ็ปต์ของไพ่ยิปซีที่สาวๆ แต่ละคนเป็นเทพแต่ละองค์บนไพ่ยิปซี ล่อลวงให้พระเอกเชื่อในคำทำนายนั้น คอนเซ็ปต์ว่าจึ้งแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมก็ทำถึงไม่แพ้กัน แม้แต่เซ็ตติ้งต่างๆ ก็ดีไซน์ออกมาได้อย่างสละสลวย เป็นอีกผลงานดีๆ ของคนไทย ที่สร้างชื่อให้กับวงการ T-POP นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายคอนเซ็ปต์ให้ได้เลือกสรร จะสวยมั่นใจ น่ารักสดใส หล่อเท่แบบคูลๆ และอีกมากมาย T-POP ก็ได้หยิบยกมาเล่นให้ได้เป็นสีสันกันอยู่เสมอ ทำให้ผู้คนได้ค้นพบผลงานของทีมงานไทย ไม่ใช่แค่เบื้องหน้า แต่เรียกได้ว่าคนเบื้องหลังวงการ T-POP ก็เก่ง และมีของไม่แพ้กัน จึงทำให้อุตสาหรรม T-POP ตอนนี้ เต็มไปด้วยสีสันที่หลากหลาย พร้อมเสิร์ฟทุกรสชาติ ทั้งหมดที่พูดถึงในบทความนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประเด็นในวงการ T-POP เท่านั้น ยังมีอีกหลายประเด็นให้ได้ลงลึกและค้นพบความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น สำหรับประเด็นในเรื่อง “ความหลากหลาย” ถือว่าเป็นประเด็นหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของไทยในเรื่องของความเปิดกว้างไม่น้อย เพราะเชื่อว่าบนโลกใบนี้มีสีสันอีกมากมาย มีรสชาติอีกหลากหลายให้ได้ถูกค้นพบ ขอเพียงทุ่มเทความตั้งใจส่งผ่านผลงานให้ผู้คนได้รับชม บุคคลเหล่านี้ก็ถือว่าเป็น “ศิลปิน”