สหรัฐฯ VS อิหร่าน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ที่มีข้อพิพาทกันมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 1979 หลังเหตุการณ์ปฏิวัติในอิหร่าน ล่าสุดในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นี้ ก็ได้มีข่าวใหญ่ Talk of the town กันไปทั่วโลกรับปี 2563 จากการสั่งยิงขีปนาวุธสังหารนายพลกาเซม โซเลมานี ทหารคนสำคัญ ผู้เป็น”มือขวา”ของ “อยาตอลลาห์อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน นับเป็นเหตุการณ์จุดชนวนสำคัญที่ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศนี้รุนแรงยิ่งขึ้น วันนี้ Mangozero ขอสรุปไทม์ไลน์สถานการณ์สหรัฐฯ VS อิหร่านในขณะนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้างนับตั้งแต่วันที่ทรัมป์ฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านทิ้งและความขัดแย้งในครั้งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร 8 พฤษภาคม 2561 – สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านที่ตกลงกันไว้ในปี 2558 (ตั้งแต่สมัยของประธาธิบดีบารัค โอบามา) ร่วมกับมหาอำนาจอีก 5 ชาติ มีใจความสำค้ญว่าอิหร่านจะไม่สามารถเสริมสร้างแร่ยูเรเนียมเกินระดับ 300 กิโลกรัม และห้ามไม่ให้อิหร่านใช้อาวุธนิวเคลียร์ เป็นเวลา 15 ปี แลกกับการที่ทางสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน 7 สิงหาคม 2561 – สหรัฐฯ สั่งห้ามทำการค้ากับอิหร่าน สหรัฐฯ กลับมาใช้คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่านอย่างทางการเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ถอนตัวจากข้อตกลง โดยการคว่ำบาตรรอบนี้ มีข้อห้ามไม่ให้ทำการค้ากับภาคธุรกิจของอิหร่านในบางประเภท อาทิ การบิน การค้าขายพรม ถั่วพิสตาชิโอ และทองคำ ส่งผลให้อิหร่านสูญเสียรายได้มหาศาล 5 พฤศจิกายน 2561 – สหรัฐฯ คว่ำบาตรด้านธนาคารและค้าน้ำมัน สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบที่ 2 โดยครั้งนี้เน้นที่ส่วนธนาคารและการค้าน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของอิหร่าน 8 เมษายน 2562 – สหรัฐฯ ประกาศ IRGC เป็นกลุ่มก่อการร้าย สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำประกาศให้ กองกำลังป้องกันการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic Revolutionary Guard Corps: IRGC) กองทัพหลักของอิหร่านเป็นองค์กรก่อการร้าย ขณะที่อิหร่านโต้กลับว่า ฝั่งสหรัฐฯ เป็นรัฐที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และเรียกกองทัพสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติภารกิจในภูมิภาคตะวันออกกลางว่า “กลุ่มก่อการร้าย” 20 มิถุนายน 2562 – อิหร่านยิงโดรนสหรัฐฯ ข้อหารุกน่านฟ้า กองทัพอิหร่าน ประกาศว่ายิงโดรนของกองทัพสหรัฐฯ ตก หลังพบว่ามีการรุกล้ำน่านฟ้าอิหร่าน ขณะที่สหรัฐฯ ออกมายอมรับว่าโดรนถูกยิงตก แต่อ้างว่าเหตุเกิดขณะที่โดรนบินเหนือน่านน้ำสากล 25 มิถุนายน 2562 – สหรัฐฯ คว่ำบาตรการเงินผู้นำอิหร่าน สหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตรด้านการเงินต่อผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และคนใกล้ชิด ซึ่งทรัมป์ เพื่อตัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนของผู้นำอิหร่าน 4 กันยายน 2562 – สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทขนส่งน้ำมันอิหร่าน สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจด้วยการขึ้นบัญชีดำเครือข่ายบริษัทขนส่งน้ำมันของอิหร่าน โดยให้เหตุผลว่าเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการภายใต้การควบคุมของ IRGC 11 ธันวาคม 2562 – สหรัฐฯ คว่ำบาตรสายการบินอิหร่าน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรสายการบิน Mahan Air (สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน) และอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าของอิหร่าน โดยให้เหตุผลว่ามีการลักลอบขนส่งอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงให้แก่กลุ่มติดอาวุธในเยเมน 27 ธ.ค. 2562 – ฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรักถูกจรวดขีปนาวุธ ฐานทัพสหรัฐฯ ใกล้เมืองคีร์คูก (Kirkuk) ประเทศอิรัก ถูกโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธกว่า 30 ลูก เป็นเหตุให้พลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ที่ทำงานในฐานทัพดังกล่าวเสียชีวิต โดยการโจมตีในครั้งนี้ สหรัฐฯ สรุปว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม”คาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ (Kataib Hezballah)” กองกำลังติดอาวุธในอิรักที่หน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่านให้การสนับสนุน 29 ธ.ค. 2562 – สหรัฐฯ ถล่มฐานกลุ่มติดอาวุธในอิรัก/ซีเรีย สหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธทางอากาศถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย ได้แก่ กลุ่มคาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ 3 แห่งในอิรัก และอีก 2 แห่งในซีเรีย เป็นเหตุให้กองกำลังของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว 25 คนเสียชีวิต และอีก 51 คนบาดเจ็บ 31 ธ.ค. 2562 – เกิดเหตุประท้วงบุกสถานฑูตสหรัฐฯ ในอิรัก จากเหตุกาณ์โจมตีของสหรัฐฯ ทำให้ชาวอิรักที่สนับสนุนกลุ่มคาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ จำนวนมากไม่พอใจ ทำให้ฝูงชนชาวอิรักและกองทัพอิหร่าน ก่อเหตุประท้วงและบุกสถานทูตสหรัฐฯ ที่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ทำลายประตูและจุดไฟเผาสิ่งของต่างๆ ก่อนที่กองทัพสหรัฐฯ และอิรักจะเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง 2 มกราคม 2563 – สหรัฐ แถลงว่าอิหร่านกำลังวางแผนโจมตีกองทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง “มาร์ก เอสเปอร์” รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าอิหร่านกำลังวางแผนโจมตีบุคลากร-เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง พร้อมเตรียมดำเนินมาตรการป้องกันและปกป้องชีวิตพลเรือนและกองทัพอเมริกัน 3 มกราคม 2563 – ทรัมป์สั่งยิงนายพลกาเซม โซเลมานี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ สั่งโดรนยิงขีปนาวุธสังหารนายพลกาเซม โซเลมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ทหารคนสำคัญและเป็น”มือขวา”ของ “อยาตอลลาห์อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ในขณะกำลังเดินทางออกจากสนามบินในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีรอบนี้อีก 6 คน หนึ่งในนั้นคือ อาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดีส์ รองผู้บัญชาการกลุ่ม คาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ โดยการโจมตีครั้งนี้ สหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า “พลตรี โซเลมานี ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนสังหารชาวอเมริกันมากมาย ขณะที่ทรัมป์ปกป้องการตัดสินใจว่าเขาพร้อมดำเนินการใดๆ ก็ตามที่จำเป็น เพื่อปกป้องชาวอเมริกันจากการถูกคุกคาม” ขณะที่ผู้นำอิหร่านก็โต้กลับทันที ว่าจะแก้แค้นสหรัฐฯอย่างสาสม ทำให้สหรัฐฯประกาศอพยพพลเมืองอเมริกันออกจากอิรักทันที เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย 4 มกราคม 2563 – สหรัฐฯ โจมตีขบวนรถเครือข่ายนักรบชีอะห์ / อิหร่านชักธงรบสีเลือด / ทรัมป์ขู่ล็อคเป้าสถานที่สำคัญของอิหร่าน 52 แห่ง สหรัฐฯเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศรอบใหม่ ประมาณ 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอิรัก เป็นการโจมตีขบวนรถของกองกำลัง “ฮาชิด อัลชาบี” เครือข่ายนักรบชีอะห์และมีความใกล้ชิดกับอิหร่าน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย นอกจากนี้ สหรัฐฯยังส่งทหารไปตะวันออกกลางเพิ่มอีกราว 3,000 ถึง 3,500 นาย ขณะอิหร่าน ชักธงรบสีเลือดบนยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคารานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อแสดงว่าอิหร่านพร้อมประกาศสงครามเต็มรูปแบบแล้ว เริ่มยิงขีปนาวุธถล่มเขตทหาร สถานทูตอเมริกันและแหล่งการทูตจากนานาชาติ “โดนัลด์ ทรัมป์” ออกมาเตือนว่า สหรัฐ “ล็อกเป้า” สถานที่สำคัญของอิหร่าน 52 แห่ง และจะเปิดฉากโจมตีอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง หากอิหร่านโจมตีชาวอเมริกัน หรือทรัพย์สินของสหรัฐ โดยเป้าหมายทั้ง 52 แห่งนี้ เป็นจำนวนเท่ากับชาวอเมริกัน 52 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันในอิหร่านนานกว่า 1 ปี ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1979 หลังจากอิหร่านยึดสถานทูตสหรัฐในกรุงเตหะราน 5 มกราคม 2563 – อิรักโจมตีสถานฑูตสหรัฐฯ ในอิรัก สถานทูตของสหรัฐฯ ในอิรักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยอาวุธหลายลูก แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะที่ชาวอิหร่านร่วมแสนกว่าคน ออกมารวมตัวกันต้อนรับศพของนายพลกาเซม โซเลมานีกลับมา รัฐบาลอิหร่านจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ 6 มกราคม 2563 – อิหร่านฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์ / จีนยื่นมือช่วยรักษาสันติภาพตะวันออกกลาง อิหร่านถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์และจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2015 อีกต่อไป พร้อมเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างเต็มตัว ขณะที่สำนักข่าวซินหัวจากรัฐบาลจีน ออกมารายงานว่า “จีน” จะยื่นมือช่วย “อิหร่าน” เพื่อรักษาสันติภาพในตะวันออกกลางและอ่าวเปอร์เซีย พร้อมทั้งคัดค้านการใช้ความรุนแรงของกองทัพสหรัฐอเมริกา เพราะจะยิ่งทำให้เหตุการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น 7 มกราคม 2563 – สหรัฐส่ง B-52 ไปมหาสมุทรอินเดีย สหรัฐฯ ส่ง “เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52” ไปยังฐานทัพดิเอโกการ์เซีย ซึ่งเป็นดินแดนเกาะหินปะการังภายใต้การปกครองของอังกฤษในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านหลังประกาศจะล้างแค้นสหรัฐฯ อย่างสาสม ซึ่งจากความขัดแย้งในครั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่สังหารนายพลกาเซม โซเลมานีไป ก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ อีก เราจึงยังต้องเฝ้าระวังและติดตามกันต่อไปว่าความขัดแย้งในครั้งนี้ จะมีบทสรุปอย่างไร ที่มา : npr, aljazeera, BBC NEWS, Workpoint news, The Standard, PPTVHD36