“ช็อกโกแลตถึง fat ฉันจะทานต่อ แม้ว่าฉันจะทานแล้วโดนล้อ~” เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องเคยกินช็อกโกแลตหรืออย่างน้อยก็ต้องเคยเห็นผ่านตามาแล้วบ้างอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้วช็อกโกแลตนี้มีหลายประเภทที่อาจจะยังไม่รู้จักกัน วันนี้ Mango Zero เลยเอามาแนะนำให้ รู้จักกับช็อกโกแลต ช็อกโกแลตเป็นผลิตผลที่ได้จากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน มีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ช็อกโกแลตถูกทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ เป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิด ท้ังไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้ จะจำแนกได้ดังนี้ โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้ เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้ ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมของเมล็ดและเนยโกโก้ ชนิดของช็อกโกแลต 1. Unsweetened chocolate หรือ ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน คือช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์ มักใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติเข้มข้นและลุ่มลึกของช็อกโกแลตบริสุทธิ์ เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี่ เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้ ถ้าถูกเพิ่มน้ำตาลเข้าไป 2. Dark chocolate หรือ ช็อกโกแลตดำ คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง 3. Milk chocolate หรือช็อกโกแลตนม คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน ซึ่งจะมีการกำหนดว่าต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% (ในสหรัฐ) และต้องมีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25% (ในยุโรป) ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้, นม และมีการเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย 4. Liqueur chocolate หรือ ช็อกโกแลตลิเคียวร์ ได้มาจากเมล็ดโกโก้บดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตที่ได้มานี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ โดยรสชาติที่ได้ออกมาจะเป็นชนิดที่ไม่หวาน และมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53% 5. Semi-sweet chocolate หรือช็อกโกแลตกึ่งหวาน จะอยู่ในรูปของเหลว และมีการเพิ่มความหวานและใส่เนยโกโก้ลงไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีสีเข้ม มาตรฐานของสหรัฐกำหนดให้ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% มีรสหวานเล็กน้อยและกลมกล่อม 6. Sweet chocolate หรือช็อกโกแลตหวาน ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 1 % ถูกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม 7. White chocolate หรือช็อกโกแลตขาว ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน จะประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาเพิ่มลงไปด้วย ลักษณะของช็อกโกแลตขาวจะแตกหักได้ง่ายกว่าชนิดอื่นๆ 8. Liquid chocolate หรือลิควิดช็อกโกแลต เป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน มักจะถูกบรรจุขายเป็นขวด ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบ 9. Couverture หรือช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา มีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อย 32% จะพบอยู่ในรูปของส่วนที่เคลือบอยู่ภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่ 10. Ganache หรือกานาช ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีลักษณะข้น นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต กานาชทำโดยการเทวิปปิงครีมที่ถูกอุ่นแล้วลงไปในช็อกโกแลตสับในปริมาณที่เท่ากัน เมื่อช็อกโกแลตเริ่มละลายก็คนให้เข้ากัน และอาจเติมเนยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาได้ 11. Confectionery Coating เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยจะนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งต่าง ๆ และมีสีสันหลากหลาย ขอบคุณแหล่งข้อมูล : th.wikipedia.org