มารู้จักกับ กาแฟ เครื่องดื่มที่ใครหลายคนขาดไม่ได้ให้ลึกกว่าเดิม ทั้งเรื่องที่ควรรู้และชนิดกาแฟต่างๆ ที่เราสั่งกินกันมันต่างกันยังไง ที่เรียกชื่อกันยากๆ มีผสมอะไรลงไปบ้าง มาดูกัน
เวลาตอนเช้าที่เหมาะจะดื่มกาแฟคือ 9.30 น. – 11.30 น.
จริงๅ หลังตื่นนอนเราไม่ควรดื่มกาแฟในทันที นักประสาทวิทยา สตีเว่น มิลเลอร์ จาก Uniformed Services University of the Health Sciences (USUHS) จากอเมริการะบุว่าช่วงเวลาดังกล่าวระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายจะต่ำ ทำให้คาเฟอีนในกาแฟเข้ากับฮอร์โมนได้ดีที่สุด
กาแฟจะให้คาเฟอีนสูงสุดหลังดื่ม 30 นาที
หากท้องว่างหรือกำลังหิวคาเฟอีนจจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดภายใน 30 นาที ทำให้เรารู้สึกสดชื่น หายง่วงขึ้นมาทันที โดยคาเฟอีนจะกระจายไปยังทุกส่วนของร่างกาย ก่อนจะถูกเผาผลายที่ตับและถูกขับออกทางปัสสาวะนั่นเอง
ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 4 แก้วต่อวัน
การได้รับคาเฟอีนมากเกิดไปอาจส่งผลให้เกิดการติดคาเฟอีน และอาจเกิดโทษแก่ร่างกายได้ เราจึงควรดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม
ผลของกาแฟจะอยู่ในร่างกายนาน 6 ชั่วโมง
ดังนั้นเราจึงไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงบ่ายแก่ๆ จนถึงเย็นเพราะอาจทำให้กลางคืนนอนไม่หลับได้ และกาแฟยังมีผลในการขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้เราต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึกอีกด้วย
กาแฟแต่ละแบบต่างกันยังไง ??
กาแฟมีที่มาจากต้นกาแฟ หรือเรียกว่าเม็ดกาแฟ ผ่านการคั่ว ก่อนนำไปบดและชงในแบบต่างๆ เช่น ใช้แรงดันหรือที่เรียกกันว่าวิธีการ เอสเปรสโซ ,การชงแบบหยด (ดริป) , การชงแบบเฟรนช์เพรส ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบก็ให้เอกลักษณ์รสชาติต่างกัน
- เอสเพรสโซ่ (Espresso)
กาแฟดำที่เข้มข้น ใช้ไอน้ำที่ร้อนจัดที่มีความดันสูงมาซึมผ่านเมล็ดกาแฟ ทำให้ได้รสชาติที่เข้มถูกใจคอกาแฟ เวลาดื่มมักเสิร์ฟเป็ชอต โดยไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม นอกจากนี้เอสเพรสโซยังเป็นพื้นฐานสำหรับกาแฟชนิดอื่นๆ
- อเมริกาโน่ (Americano)
นำกาแฟดำเอสเพรสโซ 1 ชอต ผสมกับน้ำเปล่า 3 ส่วน นิยมดื่มใส่น้ำแข็งโดยไม่เติมน้ำตาล
- คาปูชิโน่ (Capuchino)
กาแฟตัวหลักที่เป็นนิยมอย่างมาก โดยมีส่วนผสมในอัตราส่วนเท่าๆกันของ เอสเพรสโซ นม และฟองนม มักตกแต่งด้านบนด้วยช็อคโกแลตซอสเป็นลวดลายสวยงาม
- ลาเต้ (Latte)
กาแฟยอดนิยมอีกหนึ่งชนิดโดยมีส่วนผสมคือ เอสเพรสโซ 1 ชอต กับนมสองส่วนมักมีการเทนมด้านบนเป็นรูปร่างต่างๆ สวยงามที่เรียกกันวาลาเต้อาร์ท (Latte Art)
- มอคค่า (Mocca)
นำกาแฟดำเอสเพรสโซ 1 ชอต ผสมกับนมร้อนและน้ำเชื่อมช็อคโกแลต ในอัตราส่วนเท่าๆกัน แล้วทับด้วยวิปครีมด้านบน
- มัคคิอาโต้ (Macchiato)
มัคคิอาโตมีส่วนผสมของเอสเพรสโซหนึ่งชอตและฟองนมไว้ด้านบน นอกจากคงความเข้มแล้วยังได้กลิ่นหอมของนมอีกด้วย