category “กูไม่ได้...มึงก็ต้องไม่ได้อะไรเลย” : “วิมานหนาม” แรงแค้นศึกแย่งชิงที่เกิดจากความไม่เท่าเทียม


: 20 สิงหาคม 2567

รีวิวหลังดูจบ “วิมานหนาม”



“กูไม่ได้ มึงก็ต้องไม่ได้อะไรเลย”

ประโยคจากในเรื่องที่สะท้อนถึงแรงแค้นที่ต้องการแย่ง “บ้านและที่ดินสวนทุเรียน” ระหว่าง “ทองคำ” คู่รักของ “เสก” ที่ต้องการบ้านและที่ดินมาครอบครองหลังคนรักของเขาเสียไป และ “โหม๋” ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยงของ “แม่แสง” แม่ผู้ให้กำเนิดเสกนั่นเอง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจาก ทองคำและเสก ร่วมกันปลูกบ้านและสวนทุเรียนที่ติดจำนองหวังมีชีวิตรักที่ดี ทองคำจึงใช้เงินก้อนทั้งหมดที่มีไถ่ที่ดินนี้คืนมาจนเป็นชื่อของของเสกตามกฎหมายได้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเสกจนเสียชีวิต ที่ดินและบ้านทั้งหมดจึงตกมาเป็นของแม่แสงตามกฎหมาย ทำให้เกิดการแย่งชิงวิมานแห่งนี้เกิดขึ้นระหว่าง ทีมแม่แสงผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่มีโหม๋ลูกสาว(ไม่แท้)ร่วมทีมด้วย และลูกเขย(แบบไม่เป็นทางการ เพราะจดทะเบียนสมรสไม่ได้)ที่ได้ทุ่มทั้งเงินทั้งเนื้อตัวและแรงกายก่อร่างวิมานนี้มานานหลายปี หวังจะทวงคืนทุกอย่างที่ตนทำมา

วิมานหนาม เป็นหนึ่งในผลงานของค่าย GDH ผ่านงานกำกับของ บอส นฤเบศ กูโน ที่ได้ฝากผลงานไว้มากมาย อาทิ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงคุณภาพดังเดิมตามมาตราฐานของเขาไว้อย่างดีเยี่ยม ดีเทลของโปรดักส์ชันที่เรียกได้ว่าเก็บละเอียดครบทุกเม็ด ทั้งเรื่องของ Mood & Tone ของเรื่องที่มีเซตติ้งอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็สามารถถ่ายทอดทั้งบรรยากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่นออกมาได้อย่างลื่นไหล การจัดวางองค์ประกอบมุมกล้องที่เล่าเรื่องได้ดี หรือการเลือกเพลงสกอร์ประกอบหนังที่อยากชมเลยว่า มันเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้คนดูอินและเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

ส่วนของบทและพล็อตของเรื่องนี้ ค่อนข้างเป็นส่วนเข้าใจได้ง่าย ซึ่งอาจจะดูเป็นสูตรสำเร็จของหนังดราม่าแย่งชิงกันอยู่แล้ว แต่ความพิเศษของเรื่องนี้คือสามารถพัฒนาเรื่องราวเหล่านั้นให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการเล่นกับอารมณ์ ความรู้สึกของการเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ก็มีหลายด้านได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งบทไดอะล็อกของตัวละครที่เฉียบคม(กว่าหนามทุเรียน) ฟังแล้วถึงต้องตบเข่าฉาด เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้แต่ละตัวละครในเรื่องมันมีเหตุจูงใจและมีมิติมากขึ้น

ด้านของนักแสดงอย่าง เจฟซาเตอร์ และ อิงฟ้าวราหะ ที่ต่างก็ได้รับบทบาทแสดงนำที่ถือเป็นภาพยนตร์ใหญ่เรื่องแรกของทั้งสอง ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เรื่องนี้ทั้งคู่สามารถเข้าถึงและถ่ายทอดตัวละครที่รับบทออกมาให้คนดูอินและเชื่อไปพร้อมๆ กันอย่างชัดเจน ด่าเป็นด่า ร้องเป็นร้อง จนไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของพวกเขา อีกหนึ่งคนที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่เลยคือ แม่สีดา พัวพิมล ที่จัดเต็มในบทบาทแม่แสง อิมแพ็คทุกครั้งที่แม่พูด และอีกหนึ่งคนที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้เลยคือ เก่ง หฤษฎ์ รับบท จิ่งนะ น้องชายของโหม๋ เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ และได้รับการถ่ายทอดจากเก่งได้อย่างทะเยอทะยาน ผสานเข้ากับทุกตัวละครได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองอีกคน.

“วิมานหนาม” ไม่เพียงแค่เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวดราม่าและการแย่งชิง แต่ยังสะท้อนความซับซ้อนของอารมณ์มนุษย์และความขัดแย้งที่เกิดจากความโลภและความเจ็บปวด ภาพของกฎหมายในประเทศแห่งนี้ ความไม่เท่าเทียมของสังคม อำนาจของความเป็นชาย นอกจากนี้หนังก็เต็มอิ่มไปด้วยความทรงพลังทั้งในด้านการแสดง การกำกับ และการเล่าเรื่อง ทุกองค์ประกอบถูกสร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถันจนถึงจุดที่ไม่เพียงแค่เป็นภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นบทเรียนที่ชวนให้เราได้หวนคิดถึงความเป็นมนุษย์ในหลายๆด้าน

#วิมานหนาม, #TheParadiseOfThorns, #เจฟซาเตอร์, #อิงฟ้าวราหะ , รีวิววิมานหนาม


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save