Mango Zero

อย่างเนียน! ทฤษฎีการหลอกหม่ำขนมเพื่อน อิ่มฟรีไม่เสียเพื่อน

ขนมของคนอื่นมักอร่อยกว่าขนมที่ซื้อกินเอง เป็นสัจธรรมอันจริงแท้ที่คอยขับเคลื่อนโลกใบนี้ แล้วจะทำยังไงให้ได้กินขนมของคนอื่นได้ จริงๆแล้วมันมีทฤษฎีในการหลอกหม่ำขนมเพื่อนได้ฟรีๆ ไม่เสียเงิน ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียความรู้สึกอยู่ วันนี้เราจะมาแนะนำทฤษฎีเหล่านั้นกัน

ทั้งนี้ภาคทฤษฎีไม่ได้เพียงพอสำหรับภารกิจหลอกกินขนม ภาคปฏิบัติก็ต้องแน่นเช่นกัน ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝน ความใส่ใจในรายละเอียด และทักษะการแอคติ้งอันแยบยลด้วย ฉนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ขอให้ตั้งใจศึกษากันไว้ให้ดีๆ

ทำเป็นไม่รู้จัก

เมื่อคุณเห็นเพื่อนกำลังอร่อยกับขนม ให้ลองทำเป็นให้ความสนใจหรือแสดงความตื่นเต้นกับขนมชิ้นนั้นเหมือนกับไม่เคยเห็นมาก่อน(แม้ว่าจะซื้อกินประจำจนจะถือหุ้นอยู่แล้ว) ให้ถามเพื่อนไปว่า “อะไรอ่ะ?” จะมีโอกาสสูงมากที่เพื่อนของคุณจะยื่นขนมมาให้คุณเพื่อแนะนำให้คุณรู้จักขนมของพวกเค้า

พร้อมกับบอกคุณในเชิงว่า “ไม่รู้จักเหรอ? ลองๆ” เท่านี้ก็จะได้กินขนมเพื่อนแบบเนียนๆ  ถ้าหากเป็นขนมที่ทั่วๆไป ใครๆก็รู้จัก ให้ถามไปได้เลยเหมือนว่าเรายังไม่ทันเห็นว่าเพื่อนกำลังกินอะไรอยู่ พวกเค้าจะยื่นให้คุณก่อนที่จะนึกได้ว่าใครๆก็รู้จัก

ที่สำคัญเมื่อได้กินแล้วต้องแอคติ้งตื่นเต้น “หูย อร่อยจัง” ก็จะสามารถหยิบกินต่อได้อีกเรื่อยๆด้วย เพราะเพื่อนจะรู้สึกดีที่เราทำเป็นชอบขนมที่พวกเค้าแนะนำ แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะรู้จักขนมพวกนี้ดีกว่าพวกเค้าตั้งเยอะ

ถามความคิดเห็นเรื่องรสชาติ

กรณีที่เพื่อนกำลังกินขนมอยู่ ให้เราถามความเห็นเกี่ยวกับรสชาติไปเลยว่า “อร่อยป่ะ?” เมื่อเพื่อนตอบความคิดเห็นกลับมา มีโอกาสสูงที่จะชวนเรากินด้วย เพื่ออภิปรายและแลกเปลี่ยนวามคิดเห็นกัน “ใช้ได้ๆ ลองดู” เราก็จะได้กินขนมเพื่อนแบบเนียนๆอีกแล้ว

อย่าลืมให้ความคิดเห็นกลับไปด้วยล่ะ “อร่อยดีอ่ะ” และจากนั้นสามารถถกเถียงกันว่าคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับรสสัมผัสของมัน ส่วนประกอบ จำนวนแคลอรี่ และทำให้บทสนทนายาวขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะคุยไปหยิบขนมกินไป หลอกหม่ำขนมเพื่อนได้นานขึ้นไปอีก

ถามถึงที่มา

ถามถึงที่มาของขนมชิ้นนั้น “เอามาจากไหนอ่ะ” หรือ “ซื้อมาจากไหนอ่ะ” จะทำให้เพื่อนรู้สึกว่าคุณกำลังมองหาขนมชิ้นนั้นอยู่ แต่ยังไม่สามารถหามากินได้ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะยื่นขนมมาให้คุณเพราะความเห็นใจและอยากแบ่งปัน

พร้อมกับบอกคุณว่าซื้อมาจากที่ไหน “ร้านป้าติ๋มมีขาย กินของเราก่อนป่ะ” แค่นี้ก็ได้หม่ำฟรีแล้ว และอย่าลืมตอบรับความหวังดีของเพื่อนด้วยการขอบคุณและตอบกลับด้วย “มีขายด้วยเหรอ ดีเลยเดี๋ยววันหลังไปซื้อบ้าง”

แล้วยังสามารถยื่นมือหยิบชิ้นต่อไปด้วยความกระหายเหมือนว่ากำลังตามหาขนมชิ้นนี้มานานต่อได้อีก แม้ว่าจริงๆแล้วแม่คุณจะซื้อตุนไว้ให้ที่บ้านเยอะแยะก็ตาม

พูดถึงความแปลกใหม่

คือการที่เพื่อนกำลังกินขนมรสใหม่ หรือไม่ก็การแอคติ้งทำเป็นคิดว่าสิ่งที่เพื่อนกินอยู่คือของใหม่ ให้ถามออกไปว่า “รสใหม่เหรอ?” จะทำให้พวกเค้าคิดว่า กำลังนำหน้าคุณหรืออยู่เหนือกว่าคุณในห่วงโซ่อาหาร เพราะพวกเค้ากำลังกินขนมรสใหม่ที่คุณยังไม่เคยกิน

หากคุณสวมบทคนก้าวไม่ทันโลกได้ดีพอ พวกเค้าจะไม่รีรอที่จะแบ่งปันนวัตกรรมใหม่นี้ให้คุณ “ยังไม่เคยกินเหรอ? ชิมๆ” หรือในกรณีที่แม้ว่าจริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรแต่คุณทำเป็นไม่รู้จักขนมรสนั้น

ก็ยังสามารถทำให้เพื่อนแบ่งขนมให้คุณได้อยู่ดี “มีนานแล้วนะ ลองกินมั้ย?” อย่าลืมเอาไปเปรียบเทียบกับรสที่เคยกินมาเพื่อหาเรื่องคุย จะได้กินของเพื่อนต่อได้

เปรียบเทียบกับอย่างอื่น

เปรียบเทียบกับขนมอีกอย่างที่คล้ายกัน หรือเพื่อนน่าจะเคยกินมาก่อน เป็นการดึงเพื่อนไปสู่ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกันทำให้มีโอกาสสูงมากขึ้นที่เพื่อนจะยื่นขนมอันล้ำค่ามาให้คุณ ให้ลองถามเชิงว่า “มันเหมือนอีกยี่ห้อนึงป่ะ?” 

การดึงเข้าสู่ประสบการณ์ร่วมจะทำให้รู้สึกใกล้ชิดกัน และทำให้เพื่อนเชิญชวนให้คุณเข้าไปร่วมลองชิมขนมของพวกเค้า จากนั้นคุณก็ให้ความเห็นว่าอันไหนอร่อยกว่า โดยทั่วไปสามารถให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมาได้

แต่ทางที่ดีให้ดูทิศทางของเพื่อนก่อนว่าชอบอันไหนมากกว่ากัน แล้วค่อยอวยตามเพื่อนไปไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะมันสามารถต่อยอดเป็นประเด็นสนทนาระหว่างที่คุณกำลังหลอกกินขนมเพื่อนชิ้นต่อๆไปได้ จะได้หลอกหม่ำแบบเนียนๆต่อไป