หลังจากที่รอข่าวดีมากว่า 9 วันกับภารกิจช่วย 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงนางนอน จังหวัดเชียงราย ทีมค้นหาก็ค้นพบผู้สูญหายทั้ง 13 คนแล้วโดยแถลงการณ์เมื่อราวๆ กลางดึกของวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นข่าวดีที่ทุกคนรอมาอย่างยาวนาน และเป็นข่าวดีที่ทุกคนอยากได้ยินคือเจอครบหมดทั้ง 13 คนในจุดที่คาดว่าจะอยู่ ไม่มีใครโดนแก็งค์ค้ายาลักพาตัวไป ไม่มีใครโดนผีบังตา ไม่มีใครหลงในเมืองลับแล แม้วันนี้ภารกิจการนำตัวทั้งหมดออกมาจากถ้ำยันทำไม่ได้ แต่เราจะมาสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนที่ทีมกู้ภัยจะเจอพวกเขา 23 มิถุนายน 2561 จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์รวมพลังใจกู้ภัยระดับชาติเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายสามของวันที่ 23 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ประจำวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนพบจักรยานจำนวน 11 คันจอดอยู่ที่ปากถ้ำ และไม่พบตัวเจ้าของจักรยาน สอดคล้องกับทางผู้ปกครองของหนึ่งในเด็กเจ้าของจักรยานบอกว่าติดต่อลูกไม่ได้ จึงได้มีการแจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเมื่อกลางดึกวันเดียวกัน กระทั่งพบว่ามีคนติดอยู่ในถ้ำแน่ๆ แล้ว 13 ชีวิต 24 มิถุนายน 2561 หน่วยกู้ภัยประจำจังหวัดเชียงราย และพื้นที่ใกล้เคียงพร้อมด้วยนักประดาน้ำลงไปค้นหาในถ้ำเป็นครั้งแรกในช่วงเช้า เจอเพียงรองเท้าแตะของเด็กๆ รวมถึงข้าวของบางส่วนในถ้ำที่น้ำท่วมไม่ถึง เป็นสัญญาณว่ามีคนเข้ามาในนี้แน่นอน ต่อมาภาพนี้ถูกกระจายไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์ค และชาวเน็ตเริ่มที่จะให้ความสนใจสิ่งนี้ พร้อมเกิดแฮชแท็ก #ถ้ำหลวง ขึ้น จากนั้นระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นเกินว่านักประดาน้ำจะเข้าไปได้ เลยมีการแจ้งไปยันหน่วยซีล หรือนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ให้เข้ามาร่วมเป็นแกนหลักในภารกิจการช่วยเหลือทั้ง 13 คนในถ้ำหลวง 25 มิถุนายน 2561 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ‘นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร’ ปรากฎตัวเป็นครั้งแรก และเริ่มทำงานร่วมกันกับทีมกู้ภัย วันเดียวกันหน่วยซีล 17 นาย นำโดย ‘นาวาเอก อนันต์ สุราวรรณ’ เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงราย และเริ่มวางแผนที่จะช่วยเหลือ ในโลกออนไลน์ เกิดแฮชแท็ค #หน่วยซีล เมื่อเดินทางมาถึงหน่วยซีล ดำน้ำเข้าไปในถ้ำตั้งแต่เช้า และพบรอยเท้าของผู้สูญหายที่หนีเข้าไปในถ้ำ เป็นการยืนยันว่าทั้งหมดอยู่ในถ้ำแน่นอน แต่อุปสรรคคือน้ำสูงขึ้นมาก หน่วยซีลจึงต้องออกมาวางแผนใหม่ ระหว่างนั้นก็มีผู้วิเศษและร่างทรงโผล่มาเอาซีน มาเข้าทรงโชว์บ้าง มาทำเป็นผีเข้าแล้วบอกว่าน้องๆ กำลังหนาว หิว และหวาดกลัว ทำเอาญาติใจเสีย สุดท้ายทหารเลยมาไล่ตะเพิดออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงไล่ชาวบ้านที่มาตั้งเต้นต์ขายของด้วย (ซึ่ง…มันใช่เวลาขายของไหม) การมาถึงของหน่วยซีล ทำให้ญาติและกองเชียร์มีความหวังมากขึ้น 26 มิถุนายน 2561 มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นเข้ามาสมทบ พร้อมนำโดรน และหุ่นยนต์ค้นหาที่สามารถดำน้ำได้เข้ามาในถ้ำ แต่ไม่สามารถสำรวจได้เนื่องจากน้ำขุ่นเกินไป ระหว่างนั้นฝนก็ตกมาโดยตลอด ทำให้น้ำจากดอยผาหมีไหลเข้าถ้ำตลอดจนน้ำท่วมสูงขึ้นปิดทาง ถ้าต้องดำน้ำไปจะอันตราย จึงมีการประสานงานเครื่องสูบน้ำมาช่วยสูบน้ำออกจากถ้ำ ส่วนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินราว 200 นาย ก็เดินทางตามหาตาน้ำ หรือแหล่งน้ำที่มีโอกาสจะไหลเข้าถ้ำเพื่อหาทางหยุดชั่วคราว รวมถึงหน่วยค้นหาทางอากาศก็บินสำรวจหาปล่องถ้ำตามที่ชาวบ้านบอกว่ามี เพื่อหาช่องทางเข้าไปช่วยเหลือ และอาจจะส่งเสบียงเข้าไปถึงคนที่ติดอยู่ด้านใน 27 มิถุนายน 2561 มีการคาดการณ์ว่าจุดที่ผู้สูญหายน่าจะอยู่คือจุดที่เรียกว่า ‘พัทยาบีช’ ซึ่งเป็นเนินทรายภายในถ้ำ หน่วยซีล จึงต้องการเร่งที่จะไปให้ถึงยังจุดนั้น แต่ปรากฎว่าฝนตกหนัก และน้ำในถ้ำท่วมสูงมากเกินไปจนถึงจุดที่เรียกว่าห้องโถง 3 ซึ่งเป็นจุดพักระหว่างทางในการค้นหาเจ้าหน้าที่จึงต้องถอยร่นออกมายันห้องโถง 2 อีกรอบ สถานการณ์ดูแย่ลงเพราะฝนก็ตกหนัก น้ำเริ่มท่วมสูงเกินกว่าจะดำเข้าไปได้ จึงต้องระดมเครื่องสูบน้ำที่มีมาช่วยในการระบายน้ำออกจากถ้ำให้ได้มากที่สุด หน่วยซีลบอกว่าอย่างน้อยขอให้น้ำลดลง จนพอจะมีช่องว่างไม่ติดเพดานถ้ำเกินไปก็สามารถเข้าไปค้นหาต่อได้ วันเดียวกันนั้นทีมภาคพื้นดินไม่พบปล่องที่จะลงไปยังภายในถ้ำตามที่ชาวบ้านบอก แต่ก็ยังค้นหาต่อไปเพราะทุกอย่างต้องทำงานแข่งกับเวลาไปพร้อมกัน และมีนักดำน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัยในถ้ำจากอังกฤษ 3 คนจาก Derbyshire Cave Rescue Organisation บินตรงมาที่เมืองไทยเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือในครั้งนี้ 28 มิถุนายน 2561 ฝนยังคงตกตลอดทั้งวันจนน้ำท่วมเข้ามาจนเกือบถึงปากถ้ำ ทีมช่วยเหลือต้องหนีน้ำออกมา การสูบน้ำก็ต้องหยุด แม้สถานการณ์จะดูยากขึ้นไปอีกเพราะอุปสรรคจากน้ำ แต่ทีมช่วยเหลือก็ไม่หยุดที่จะค้นหาทางเข้าทางอื่น และนานาชาติยังส่งทีมกู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือในการทำภารกิจครั้งนี้ด้วยนอกจากนักดำน้ำอังกฤษแล้วก็มีกองทัพสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่ 30 นายพร้อมอุปกรณ์ในการเจาะถ้ำเข้าร่วมภารกิจ ญี่ปุ่นส่งผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมาสองคนเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการระบายน้ำออกจากพื้นที่, จีนส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาและกู้ภัยในถ้ำ 6 คนพร้อมหุ่นยนต์ใต้น้ำ และทีมปีนสำรวจภูเขาอีก 5 คน, ลาว ส่งทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำมาช่วยค้นหา พม่าส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นฝั่งท่าขี้เหล็กเดินสำรวจหาทางเข้านอกถ้ำด้านอื่นที่น่าจะเชื่อมต่อมายังถ้ำหลวง และออสเตรเลียส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัย 6 คนมาร่วมภารกิจเรียกได้ว่าเป็นภารกิจระดับนานาชาติจริงๆ ที่ทุกคนมาที่พื้นที่แห่งนี้ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือช่วยทั้ง 13 ชีวิต 29 มิถุนายน 2561 การกู้ภัยดำเนินต่อ ทุกหน่วยงานทำงานอย่างหนัก และวางแผนการทำงานอย่างรัดกุมเพื่อความปลอดภัยของผู้ค้นหาเอง การค้นหาในถ้ำต้องหยุดลงชั่วคราวเนื่องจากน้ำขึ้นสูง แต่ฝ่ายสำรวจภาคพื้นดินก็ยังคงเดินหน้าหาโพรง หรือปล่องที่สามารถเข้าไปในถ้ำได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ส่วนช่วงเช้านายกฯ ตู่ เดินทางมาถึงถ้ำหลวงเพื่อพูดคุยและให้กำลังใจทีมกู้ภัย รวมถึงมีนายตำรวจท่านหนึ่งชื่อศรีๆ อะไรสักคนนี่แหละมาด้วย แล้วก็โดนชาวเน็ตถล่มด่ายับ และช่วงค่ำวันเดียวกันนั้นมีการนิมนต์ครูบาบุญชุ่ม เกจิชื่อดังจากรัฐฉาน ประเทศพม่า มาสวดมนต์สร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ครอบครัวของผู้สูญหายที่ยังคงรอฟังข่าวดีอยู่ พร้อมบอกว่า ทุกคนปลอดภัยดี อีกสองวันก็จะเจอเด็กๆ 30 มิถุนายน 2561 เริ่มมีกระแสข่าวลือไปต่างๆ นานาว่าจริงๆ แล้วเด็กๆ ทั้ง 13 คนอาจจะไม่ได้ติดอยู่ในถ้ำ แต่บริเวณพื้นที่ผาหมี ซึ่งอยู่ในจุดที่คาดว่าจะเชื่อมต่อกับถ้ำหลวง เป็นพื้นที่สีแดง มีการแอบลักลอบปลูกฝิ่น และเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจึงเกิดการมโนไปว่าหรือเด็กโดนแก็งค์ค้ายาจับไป อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าเด็กน่ะอยู่ในถ้ำ แต่อยู่ในเมืองลับแลโดนบังตาอยู่ พร้อมสร้างเรื่องราวสารพัด แต่ผู้ว่าเชียงรายยืนยันว่าเด็กคาดว่าจะอยู่ในจุดที่เรียกว่า ‘พัทยาบีช’ เหมือนเดิม พร้อมปฏิเสธเรื่องพื้นที่สีแดงว่าไม่เป็นความจริง พร้อมเดินหน้าค้นหาเด็กๆ กันต่อ พร้อมกันนั้นยังมีการค้นเครื่องสูบน้ำขนาดยักษ์ที่มาร่วมภารกิจ และมีการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อระบายน้ำอีกช่องทางหนึ่งด้วย สถานการณ์จึงเริ่มดีขึ้นน้ำลดลง ฝนหยุดตก ทีมกู้ภัยที่ต้องดำน้ำเข้าไปในถ้ำเริ่มต้นวางแผนที่จะทำงานอีกครั้งเพื่อแข่งกับเวลา เรื่องจากขณะนี้จะครบ 1 อาทิตย์แล้วที่ทุกคนอยู่ในถ้ำ หน่วยซีลและนักดำน้ำจากอังกฤษ สามารถเข้าไปใกล้พัทยาบีชมากขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีว่า ใกล้จะเจอผู้ประสบภัยแล้ว 1 กรกฎาคม 2561 เครื่องสูบน้ำที่แรงที่สุดในประเทศไทยส่งตรงจากเพรชบุรี ที่มีกำลังในการสูบน้ำมากกว่าเครื่องสูบน้ำปกติถึง 10 เท่าเดินทางมาถึง และเริ่มสูบน้ำออกจากถ้ำทันที สถานการณ์ดีขึ้นมา หน่วยซีลและนักดำน้ำค่อยๆ เข้าใกล้หาดพัทยาบีช ขึ้นไปเรื่อยๆ คนในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กต่างติดตามข่าวแทบจะนาทีต่อนาที พร้อมรอดูว่าเมื่อไหร่จะมีโพสต์ “พบแล้วทั้ง 13 ชีวิต” จากสำนักข่าวที่เชื่อถือได้สักที 2 กรกฎาคม 2561 วันที่ 9 ของการค้นหาผู้สูญหายส่งสัญญาณอันดีทุกอย่าง ทั้งน้ำที่ลดลงทั้งจาการสูบน้ำ และสร้างฝายชะลอน้ำ นักดำน้ำเข้าไปใกล้มากขึ้นไปอีก ทุกคนทำงานแข่งกับเวลา กระทั่ง 22.40 น. ผู้ว่าราชการเชียงราย ได้แจ้งข่าวดีที่ว่า พบทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 คนแล้ว โดยอยู่ห่างจากพัทยาบีชไป 400 เมตร และทุกคนปลอดภัยดี ไม่ได้ถูกแก็งค์ค้ายาลักพาตัวไป โดนผีบังตา หรือไปเที่ยวเมืองลับแล ซึ่งประกาศนี้ทำให้ทีมทำงานกู้ภัยทุกคนรวมไปถึงญาติของผู้สูญหายดีใจ แม้ยังไม่สามารถพาทุกคนออกมาได้ แต่การได้เจอคนที่พวกเขาตามหาสักทีนั้นทำให้ภารกิจนี้ยืนยันว่า “ความพยายามไม่เคยทําร้ายสักคนที่ตั้งใจ” คลิปแรกที่ถูกเผยแพร่เป็นวงกว้างคือการสนทนาระหว่างนักดำน้ำชาวอังกฤษที่ไปพบทีมหมู่ป่าฯ สั้นๆ แต่กินใจคนที่ติดตามข่าวนี้ ทำให้เช้าวันต่อมา กลายเป็นวันที่ดีของใครหลายคนเลยทีเดียว