หลังจากรัฐบาลเปิดโปรโมชั่นช้อปช่วยชาตินำรายจ่ายที่ช้อประหว่างวันนี้จนถึงสิ้นปีไปลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุด 15,000 บาท หลายคนที่เห็นตัวเลขจำนวนนี้ก็ตาโตคิดแล้วว่าจะซื้ออะไรดีอยากลดหย่อนภาษีใจจะขาดแล้ว
อ่านผ่านๆ มองเผินๆ อาจจะคิดว่า เฮ้ย! ลดหย่อนภาษีได้ตั้ง 15,000 บาทเป็นตัวเลขที่ยั่วใจ อยากจะออกไปจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีกันให้ไวกับโปรโมชั่นที่รัฐบาลให้มา แต่ทุกโปรฯ ไม่ว่าจะออกโดยใครมี ดอกจันทร์เสมอ มีเงื่อนไขมากมายที่คุณควรรู้ก่อนจะออกไปช้อปช่วยชาติ พร้อมกับมีคำถามหนึ่งที่เราควรจะได้คำตอบว่า จริงๆ เราควรไปใช้โปรฯ นี้ไหม
ผู้ที่จะตอบคำถามเราถึงความคุ้มค่ากับโปรฯ ที่ลุงตู่จัดให้เพื่อเอาไปลดหย่อนภาษี ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีที่สุดคนหนึ่งในโลกออนไลน์ ‘พรี่หนอม’ หรือ ‘ถนอม เกตุเอม’ แห่งเพจ TaxBugnoms และ Aommoney Guru เขาจะมาบอกเราว่าตกลงแล้วมันคุ้มไหมถ้าจะไปถลุงเงินช่วงปลายปีเพื่อให้มีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์
เราอยากลดหย่อนภาษีกันไปทำไม
ไม่มีใครอยากจะเสียภาษีหรอก เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความรู้สึกว่าเสียภาษีไปแล้วมันไม่ได้อะไรกลับมาเลย เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าภาษีที่เสียไปจะถูกนำไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากสักแค่ไหน มันเลยเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเสีย ดังนั้นถ้ามีโอกาสที่เขาจะหาทางจ่ายภาษีให้น้อยลง เขาก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีว่าไม่ต้องจ่ายภาษีเยอะ
ซื้อรถ หรือซื้อของใหญ่ๆ ทำไมไม่ได้ลด
วิธีการคำนวนภาษีของประเทศไทยไม่ได้เกี่ยวกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะกฎหมายไทยมีเกณฑ์การคำนวนภาษีอีกแบบซึ่งในที่นี้เราหมายถึง ‘ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา’ หรือภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่เราเสียกันนั้นจะใช้วิธีคำนวนจาก เงินได้สุทธิ เป็นหลัก ซึ่งหมายถึงรายได้หักด้วยค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้ตามแต่ละประเภทของรายได้ หลังจากนั้นกฎหมายก็จะกำหนดเงือนไขการหักค่าลดหย่อนมาให้อีก ซึ่งวิธีการที่ว่ามันไม่ได้ตรงกับค่าใช้จ่ายจริงๆ ของเรา อย่างเราไปซื้อรถ ไปดูหนัง ไปกินข้าว ไปซื้อมือถือ มันลดไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวนภาษี มันเลยไม่ให้ลดหย่อน รวมไปถึงทรัพย์สินส่วนตัวเขาไม่กำหนดให้เป็นรายจ่ายที่ลดได้ กฎหมายว่าไงก็ต้องเอาตามนั้น
เราเอาการลดหย่อนภาษีไปอ้างกับแฟน เพื่อซื้อของที่อยากได้คิดว่าความคิดนี้ถูกไหม
มันก็ดีนะ แต่ถ้าไม่บอกน่าจะดีกว่า (หัวเราะ) อยากได้ก็ซื้อไปดิ แต่ความเชี่ยย คือคนบางคนรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีไง แล้วจะซื้อของในช่วงนี้ไปเพื่ออะไร?? คนไทยหลายคนคำนวนภาษีตัวเองกันไม่เป็น แล้วที่แย่กว่าคือไม่มีใครให้ความรู้กันจริงๆจังๆ รัฐบาลก็ไม่ส่งเสริมสักเท่าไร พอไม่ให้ความรู้ ลองสังเกตดูว่า เมื่อรัฐบาลให้โปรโมชั่นอะไรออกมาที่มีตัวเลขมาล่อว่าลดหย่อนภาษีจำนวนเท่านี้นะ คนก็เฮโลดีใจไปช้อปช่วยชาติ ได้ลดหย่อนสูงสุดตั้ง 15,000 บาท แต่คนเข้าใจว่าซื้อปุ๊บได้ลดเลย หรือได้เงินคืนเลย ซึ่งมันห่วยมาก คนก็ดีใจกับตัวเลขที่ลดได้ ทั้งที่เราไม่ได้ลดภาษีได้จริงๆเสียด้วยซ้ำ ว่าแต่จะไปบอกแฟนว่าจะไปซื้อของให้ตัวเองเพื่อจะได้เอามาลดหย่อนภาษี แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าต้องเสียภาษีไหมแฟนเราอาจจะคิดว่าเราโง่ก็ได้นะ
สมมติว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียแน่ๆ ควรใช้โปรฯ นี้ไหม
ก็ได้ เอามาอ้างแฟนได้เลย (หัวเราะ) อยากซื้ออะไรก็จัดไป แต่ปกติร้านค้าพวกนี้อาจจะมีเซล 10% อยู่แล้วสมมติคุณเสียภาษีที่ฐานภาษี 10% สินค้าที่ซื้อไปก็ไม่ต่างอะไรกับลดแค่ 10% บางที่เซลมากกว่าที่ซื้อๆกันตอนนี้ด้วยซ้ำ คิดดูว่าคุ้มไหม
เรื่องไหนบ้างที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี
เรื่องหลักคือเขาไม่เข้าใจว่าตัวเองต้องเสียภาษีไหม บางคนอยากลดภาษีจนตัวสั่นทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เสียภาษีอยู่แล้วก็ซื้อโดยเอาไปลดอะไรไม่ได้เลย บางคนก็ไม่มีกิน (ไม่มีเงินใช้) แต่อยากลดภาษี ทั้งที่ในความเป็นจริงเงินที่เราเอาไปซื้อของมหาศาลเพื่อที่จะเอาไปลดหย่อนมันอาจจะเอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ หรือสมมติถ้าเอาไปจ่ายภาษีบางส่วน มันก็ยังเหลือพอจะเอาไปทำอย่างอื่นที่เราต้องการจริงๆได้เหมือนกัน ปีที่แล้วนโยบายแบบนี้ก็มีมาแล้ว แต่มันมีปัญหาตรงที่คนไม่เข้าใจเยอะมาก เข้าใจผิดถึงขั้นซื้อของแล้วได้ลดเลย หรือซื้อของแล้วได้เงินคืนเลย อย่างคนหาเช้ากินค่ำที่เขาไม่มีรายได้ถึงฐานที่ต้องเสียภาษีเขาไปซื้อของจากห้างสรรพสินค้า แล้วจะเอาใบเสร็จไปขอเงินคืน หรือบางคนคิดว่าซื้อของแล้วได้เงินคืนเลย ซึ่งคนเข้าใจผิดเยอะมากๆ มันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่
อ่ะ…เอางี้สรุปควรใช้โปรไหม
จะช็อปช่วยชาติหรือไม่ คิดว่าสำหรับบางคนตอนนี้ ช่วยตัวเองก่อนดีกว่า ถ้าเราอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีแต่สิ้นปีเสี่ยงจะไม่มีเงินใช้ ก็ควรประหยัด แต่สำหรับคนมีเงินที่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว บางคนรายได้เยอะเขาก็ชิล แถมเหมือนได้ซื้อของราคาถูก อย่างคนที่เสียภาษีฐาน 30 – 35% นี่ก็ได้ลดหย่อนภาษีเยอะหน่อย แต่กลับกันถ้าเราเสีย 5 – 10% มันคุ้มไหม ถามใจตัวเองดู
อ่ะ…ถามอีกทีควรไปไหม
ก็ถามว่าคุณเสียภาษีหรือป่าว ถ้าเสียภาษีก็ไปซื้อเลย
พรี่หนอมจะไปช่วยชาติไหม
พี่ว่าจะไปซื้อรถเข็นให้ลูก นี่พูดจริงนะไม่มุก (หัวเราะ)
