Mango Movie Review : Strange World (2022)
Walt Disney ส่งท้ายปลายปีกับภาพยนตร์แอนิเมชันน้ำดีที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี สำหรับ “Strange World ลุยโลกลึกลับ” ที่ชวนแฟนแอนิเมชันทุกคนเดินทางไปกับครอบครัว Clades เพื่อสร้างตำนานบทใหม่ ในดินแดนของเหล่าสัตว์วิเศษในจินตนาการ โลกลับที่เหนือความคาดหมาย
โดยได้เจค จิลเลนฮาล (จาก “Spider-Man: Far from Home”) มากพากย์เสียง Searcher Clade ลูกชายของนักสำรวจผู้แน่วแน่ ซึ่งมุ่งมั่นสร้างเกียรติยศแห่งครอบครัวอย่าง Jaeger Clades
นำทีมสร้างโดยดอน ฮอลล์ จาก Big Hero 6 / Raya and the Last Dragon และกำกับร่วม/เขียนบท โดย คิว เหงียน จาก Raya and the Last Dragon นั่งแท่นอำนวยการสร้างโดย รอย คอนลี จาก Big Hero 6 และ Tangled
นอกจากเนื้อเรื่อง ทีมผู้สร้างที่น่าสนใจ แม้แอนิเมชันเรื่องนี้ จะดูเป็นภาพยนตร์ที่ย่อยง่าย แต่กลับสอดแทรกอะไรไว้มากกว่าที่เราคิด ทั้งประเด็นครอบครัว, LGBTQ+ และสิ่งแวดล้อมที่สะเทือนมาถึงปัจจุบัน
“Like Father Like Son”
น่าจะเป็นคำนิยามที่สะท้อนตัวละครออกมาได้มากที่สุด เมื่อ 3 คาแรกเตอร์ 3 เจนเนเรชันต่างสะท้อนตัวตนของรุ่นสู่รุ่นระหว่าง ปู่ – พ่อ – ลูก ออกมาได้อย่างแสบสัน เพราะความรักและความภาคภูมิใจที่อยากจะมีร่วมกัน ทำให้พ่อต่างกำหนดเส้นทางที่ลูกจะเดิน ซึ่งสะท้อนออกมาแม้แต่ชื่อของตัวละคร (พ่อเป็นนักสำรวจ ลูกชื่อ Searcher)
“โลกกว้างๆ ที่รอให้ทุกคนมาเดินสำรวจ”
บางคนอาจมีฝันที่ยิ่งใหญ่เหมือนคุณปู่เยเกอร์ บางคนอาจต้องการแค่ความธรรมดา เป็น Farmer ไม่หวือหวาผจญภัยเหมือนเซิร์จเชอร์ และบางคนก็ยังเป็นเด็กที่ไม่เคยเผชิญกับโลกกว้าง จึงยังสับสนในความฝัน แต่สิ่งที่ชอบคือตัวละครหลักมีจุดยืนที่ชัดเจน ในการกำหนดเส้นทางที่ตัวเองอยากเลือกเดิน
ทำให้คนดูสามารถตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าวันนี้เราเป็นได้อย่างตัวละครหรือไม่? ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่เคยมีในวันนั้นหายไปตอนไหน? ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ Inspired ให้เราได้กลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเองสักที ซึ่งหลังจากดูหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้เราตระหนักได้ว่าทุกคนต่างก็มี Strange World โลกใบใหญ่ ที่รอให้เราได้ออกเดินทางไปค้นหาตัวเองอยู่
นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ทีมผู้สร้างที่เคยฝากผลงานสุดประทับใจมาแล้วนั้น สิ่งที่คงต้องขอชื่นชมสำหรับ Strange World หนีไม่พ้นงานภาพ การันตีด้วยฝีมือจากดิสนีย์ ในเรื่องนี้ถ่ายทอดโลกเหนือจินตนาการ ครีเอทเหล่าสัตว์วิเศษในโลกลึกลับได้อย่างสร้างสรรค์สุดๆ
ทั้งโทนสี การเคลื่อนไหว ความคิ้วท์ของน้อนๆ ที่นุ้บนิ้บหัวใจทำให้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าของภาพยนตร์ดูเพลินไม่มีสะดุด แค่งานภาพก็คุ้มค่าสำหรับการเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์
สรุป : เป็นแอนิเมชันดูง่าย สำหรับคนที่อยากปล่อยใจ เพลิดเพลินไปกับงานภาพ เนื้อเรื่องเบาสบาย แถมอบอุ่นหัวใจกว่าที่คิด มีมุกตลกพอกรุบกริบมาเรื่อยๆให้อิ่มเอมใจ เด็กๆ น่าจะชอบฮะ
แต่คนที่อยากได้ความหวือหวา หรือเนื้อเรื่องซับซ้อนให้ขบคิดอย่างจริงจัง อาจจะไม่ถูกใจกับแนวนี้ฮะ
สามารถรับชม Strange World จากดิสนีย์ได้ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่