เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเรื่องพายุปาบึก ฉบับที่ 18 ระบุว่าขณะนี้พายุปาบึกได้เคลื่อนตัวเข้าฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและจะเคลื่อนเข้าปกคลุมจังหวัดสุราษฎรธานีในระยะต่อไป ทั้งนี้ กรมอุตุฯ ได้เตือนว่า ภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้ ในวันที่ 4 ม.ค. 62 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ในวันที่ 5 ม.ค. 62 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 62 รายงานผลกระทบจากพื้นที่ระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากเหตุเรือล่มบริเวณปากอ่าวปัตตานี (บริเวณแหลมตาชี) ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า เป็นเรือประมง โชคมะนี ขนาด 30 ตัน ซึ่งออกเดินเรือไปตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 61 สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ในกรณีที่ต้องการรายงาน หรือขอความช่วยเหลือ ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทร.1784, 074-617-046, 074-611-652 หรือเบอร์ Hot Line ปาบึก GISTDA โทร. 065-502-7283 ตลอด 24 ชั่วโมง ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา, ข่าวสด