เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 วันที่ 7 ของการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการ 6 กิจการและกิจรรม ระยะที่ 1 (14 วัน) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงระหว่างสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 9 พ.ค. 2563 ว่ามาตรการผ่อนปรนระยะที่สองในวันที่ 17 พ.ค. 2563 จะมีการยกร่างกลุ่มตัวอย่างที่จะทดลองเปิด (Sandbox) เช่น ห้างสรรพสินค้า ในวันที่ 14-15 พ.ค. และจะประเมินผลวันที่ 16 พ.ค. ก่อนจะประกาศปลดล็อกในวันที่ 17 พ.ค.
โดยจะแจ้งให้ทราบเพื่อให้ธุรกิจมีการเตรียมพร้อม
สำหรับ 3 มาตรการที่ประชาชนในฐานะผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการในฐานะผู้ให้บริการ และภาครัฐที่จะเข้าไปติดตาม ตรวจสอบ มี 3 ระดับ ได้แก่
1.มาตรการหลัก ของคณะตรวจการประกอบกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)
2.มาตรการเสริม
3.คู่มือปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันว่า ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ไม่ติดโรค โดยกำลังจัดทำแอปพลิเคชัน ติดตามตัวผ่านโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าและผู้ใช้บริการ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. ต้องการให้เสร็จก่อนผ่อนปรนเฟสสองในวันที่ 17 พ.ค.นี้
คาดว่าธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐ ในเรื่องการไม่ใช้เงินสด จ่ายเงินผ่านคิวอาร์โค้ด โดยให้เช็คอินและเช็คเอาท์ในการใช้บริการ ประเมินร้านค้าและชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด สามารถใช้ได้กับทุกธนาคาร
ที่มา prachachat