ทุกวันนี้ที่เราใช้โทรศัพท์มือถือจนแทบจะเป็นอวัยวะที่ 33 เป็นเครื่องมือสื่อสารที่เราอยู่กับมันทั้งวัน ขนาดตื่นนอนยังต้องหยิบมือถือมาเปิดดู Notification ก่อนลุกไปฉี่ซะอีก ซึ่งเราเองก็รู้ดีว่าเมื่อเปิดหน้าจอแล้วจ้องมองลงไป สมาธิของเราแทบทั้งหมดจะถูกดูดไปใช้กับโทรศัพท์จนสิ่งรอบตัวเบลอหายไปแทบหมด หลายคนน่าจะเคยเดินชนบุคคลอื่นในที่สาธารณะเพราะว่าเค้าก้าวเดินในขณะที่ดูโทรศัพท์ไปด้วย ทำให้สายตาและสมาธิทั้งหมดอยู่กับหน้าจอและไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้า ถ้าเราแค่เดินชนกันบนฟุตบาทก็ขอโทษขอโพยกันไป หรือถ้าเป็นหนุ่มสาวก็อาจจะมีแลก LINE กันบ้าง แต่ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกลางถนนขณะขับรถอยู่คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่นอน เพราะไม่ใช่แค่เราจะเดือดร้อน แต่คนที่ร่วมเดินทางกับเรา รวมไปถึงผู้ร่วมใช้ถนนท่านอื่นๆ จะได้รับผลกระทบไปด้วย ลองมาดูสถิติการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถบนถนนบ้านเรากัน **ผลการสำรวจทางออนไลน์จัดทำขึ้นโดย โกลบอลเว็บอินเด็กซ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ในนามของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี โดยมีคนไทยร่วมตอบแบบสอบถาม 500 ท่าน ผู้ทำแบบสอบถาม 38% พยายามจะไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ แต่สุดท้ายก็ยังใช้อยู่ดี ในส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ทราบดีว่าการเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ยังมีผู้ใช้ส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถห้ามใจได้ หยิบโทรศัพท์มาใช้ขณะขับรถอยู่ดี มีผู้ที่ทำแบบสอบถาม 36% ยอมรับว่าเล่น Social Network ในขณะขับรถ ซึ่งการเล่น Social Network นั้นดึงสมาธิไปอยู่ที่หน้าจอค่อนข้างมาก แน่นอนว่าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงมาก ในสัดส่วนตรงนี้ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว 52% ในจำนวนทั้งหมด เคยหรือเกือบจะประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากการขับขี่ที่ขาดสมาธิ สำหรับสัดส่วนดังกล่าวนี้ถือว่ามากพอสมควร ทำให้เห็นได้ชัดว่าสมาธิในการขับขี่นั้นสำคัญมาก การเกิดอุบัติเหตุอันเกิดจากการเสียสมาธินั้นไม่ได้เดือดร้อนเฉพาะเราคนเดียว แต่จะทำให้ผู้ร่วมโดยสารและผู้ใช้รถบนนถนนท่านอื่นเดือดร้อนไปด้วย สาเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่ขาดสมาธิ กว่า 46% มาจากการรับโทรศัพท์หรือส่งข้อความขณะขับรถ ในส่วนนี้ก็อยากให้ระวังกันด้วย ปัจจัยที่จะทำให้วางมือจากโทรศัพท์ในเวลาขับขี่ได้มากที่สุดถึง 69% คือเมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับคนไทยอย่างไรกฎหมายก็ยังได้ผลเสมอ แต่ความจริงแล้วกฎหมายเค้าออกมาเพื่อให้ประชาชนขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ถ้ายังแอบเล่นขณะขับรถแล้วค่อยหลบตอนเจอคุณพ่อ ถือว่ายังไม่ถูกจุดประสงค์เท่าไหร่นัก 42% ระบุว่าจะไม่ใช้โทรศัพท์เมื่อเดินทางกับลูกหรือเด็ก ในส่วนนี้ค่อนข้างน่าตกใจ ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยพอสมควรสำหรับคำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้ขับขี่นั้นยังมีความประมาทอยู่ ถึงแม้ว่ามีลูกสาวที่เพิ่งรับกลับมาจากโรงเรียนอนุบาลก็ตาม 75% คิดว่าโทษของการขับขี่โดยประมาทควรมีความรุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนใหญ่อาจจะเห็นว่ากฎหมายบ้านเรานั้นยังค่อนข้างเบาอยู่ถ้าเทียบกับต่างประเทศที่เค้าจริงจังและมีบทลงโทษที่รุนแรง แต่อย่างไรแล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นส่วนสำคัญ 73% เล่นโทรศัพท์ขณะการจราจรติดขัดหรือรถติดไฟแดง แน่นอนว่าเมื่อรถติดทำให้เราเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งาน อาจจะทำงานหรือเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา แต่อย่าลืมว่าเรากำลังประมาทและทำให้ตัวเองอยู่ในความเสี่ยงแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งความสูญเสีย ผู้ใช้ถนนส่วนใหญ่ยังมีความประมาทค่อนข้างมากอยู่ ถึงแม้เจ้าตัวจะทราบดีว่าการมีสมาธิในการขับขี่นั้นสำคัญ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งตรงนี้ต้องให้ความเข้าใจและให้ตระหนักกันมากยิ่งขึ้น ล่าสุดทางฟอร์ดได้นำสถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความประมาทโดยการใช้โทรศัพท์ในระหว่างขับรถ มาทำเป็นวิดีโอผ่านคอนเซ็ปต์งานนิทรรศการซึ่งจัดแสดงสิ่งของต่างๆ ที่เราใช้ในระหว่างขับรถ แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อให้คนไทยได้รับทราบถึงปัญหาได้ง่ายขึ้น และลดความประมาทลง สามารถชมวิดีโอคลิปเตือนใจกันได้ด้านบนเลย