category เส้นทางของเมล็ดกาแฟ:จากเครื่องดื่มหอมกรุ่นรสขม สู่ปลายทางความสุขมอบให้ชุมชน

Writer : Kreenp

: 23 มกราคม 2561

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-12-04

ประเทศไทยมีร้านกาแฟผุดขึ้นมากมายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ใครๆ ก็ดื่มกาแฟเป็นเรื่องปกติ คนติดกาแฟก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มีใครรู้บ้างว่ากาแฟที่เราดื่มกันมีเส้นทางยังไงจากเมล็ดมาสู่แก้วที่เราดื่มเป็นประจำ เราขอพาทุกคนไปร่วมทริปครั้งนี้ ที่ทำให้เราเห็นกรรมวิธีตั้งแต่ต้น และรู้จักกับสตาร์บัคส์ในมุมมองที่ไม่ใช่ร้านกาแฟกัน

หลังจากที่ได้รู้มาว่าในช่วงกลางเดือนจะต้องไปทริปตามรอยต้นกำเนิดกาแฟ เครื่องดื่มที่ดื่มเป็นประจำจนเข้าขั้นติดเลยทีเดียว การเดินทางครั้งนี้จึงทำให้คนติดกาแฟอย่างเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางขึ้นดอยเพื่อไปสู่ต้นกำเนิดเมล็ดกาแฟในไทยจริงๆ เราจะขอเล่าประสบการณ์การไปตามรอยเมล็ดกาแฟในครั้งนี้กัน โดยทริปในครั้งนี้ชื่อว่า “ม่วนไจ๋ ฟาร์ม ทริป” ซึ่งคำว่า “ม่วนไจ๋” มีความหมายว่า “ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม” ในภาษาเหนือนั่นเอง โดยเราร่วมเดินทางไปกับพาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์เกือบ 20 กว่าชีวิต  มาดูกันว่าแบรนด์กาแฟหรูที่ใครๆ ต้องรู้จักนี้ จะมีมุมมองอะไรที่มากกว่าร้านกาแฟแบรนด์ยักษ์สาขาเยอะกัน

วันที่ 1

เริ่มต้นเส้นทางสู่แหล่งกำเนิดเมล็ดกาแฟ

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-05

เราเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองสู่เชียงใหม่ตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากแวะกินข้าวทานอาหาร และซื้อของใช้ที่จำเป็น เพราะบนดอยจะแทบไม่มีร้านค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวก เราจึงขอตุนทั้งขนมและของใช้ส่วนตัวให้พร้อมไว้ก่อนดีกว่า

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-26

ในทริปนี้โชคดีที่เราได้ผู้ร่วมทริปเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (ITDP) ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งอาจารย์ไมค์เป็นนายฝรั่งใจดีที่พูดภาษาไทยชัดแจ๋ว และคอยช่วยเหลือและตอบคำถามเวลาสงสัยตลอดการเดินทาง

โครงการที่อาจารย์ไมค์ทำอยู่นั้นเรียกง่ายๆ ว่าโครงการ ITDP (Integrated Tribal Development Program) ซึ่งได้ร่วมมือกับสตาร์บัคส์สนับสนุนการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ชุมชนบ้านขี้มูกน้อยและบ้านกองกาย ซึ่งเป็นที่พักที่เราจะใช้พักแรมกัน 2 วันในทริปนี้ โดยโครงการของอาจารย์ไมค์ยังมุ่งพัฒนาโครงการด้านการศึกษา, สุขอนามัย และโครงกาลชลประทานต่างๆ เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยให้มีความยั่งยืนอีกด้วย

หลังจากเตรียมข้าวของและเติมพลังกันเรียบร้อยก็เริ่มออกเดินทางสู่หมู่บ้านแม่ขี้มูกน้อย อ.แม่แจ่ม ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงที่เดินทางด้วยรถกระบะขึ้นดอยนั้นทางคดเคี้ยวชวนเวียนหัวแต่ระหว่างทางขึ้นดอยวิวทิวทัศน์ข้างทางโดยรอบทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งและใกล้ชิดขึ้นกับธรรมชาติทำให้เส้นทางสุดโหดไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ในการเดินทางนัก อีกทั้งระหว่างทางก็มีสถานที่น่าแวะชมอย่างน้ำตกวชิรธารที่ให้เราได้แวะพักยืดเส้นสายและสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังจุดหมาย

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-02

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-03

เมื่อผ่านเส้นทางเลี้ยวมาได้ ถนนจะเริ่มเป็นถนนลูกรังให้เราต้องโยกหัวตลอดทาง ถ้าใครไม่ชำนาญเส้นทางจะค่อนข้างอันตรายเป็นอย่างมาก ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านแม่ขี้มูกน้อยเป็นเวลาเกือบ 5 โมงเย็น

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-04

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-06

เมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นภูเขาหัวโล้นเป็นบริเวณกว้างหลายหุบเขา เกิดจากการที่ชาวบ้านส่วนใหญ่หันมาปลูกข้าวโพด ซึ่งข้าวโพดเป็นพืชที่จะดูดแร่ธาตุในดินไปเสียหมด เมื่อปลูกเสร็จที่ดินจึงนำไปเพาะปลูกต่อไม่ได้ พอเห็นแล้วก็น่าเสียดายที่พื้นดินที่เคยขึ้นเขียวชอุ่มถูกทิ้งให้รกร้าง โดยอาจารย์ไมค์ได้เข้ามาเสริมว่าต้องการพัฒนาชุมชนให้ชาวบ้านมีความรู้และหันมาปลูกพืชชนิดอื่น เช่น กาแฟ เพื่อเป็นการเพิ่มแร่ธาตุให้ดินเพื่อไม่ให้พื้นที่เพาะปลูกต้องสูญเปล่า

หลังจากลงจากรถและเตรียมที่นอนซึ่งเราได้พักที่ศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านขี้มูกน้อย โรงเรียนบ้านสองธารเรายังได้ชมบรรยากาศโรงเรียนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และชมหมู่บ้านข้างๆ ก่อนที่จะเตรียมตัวไปดูแหล่งกำเนิดกาแฟในวันพรุ่งนี้

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-07

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-34-39

วันที่ 2

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-08

ตอนแรกในวันที่ 2 นี้เราตั้งใจว่าจะตื่นกันให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นในเวลา 6.00 น แต่ก็หลับกันเพลินและสู้ฟังนอนเสียงไก่ขันจนกว่าจะลุกก็เป็น เวลา 7.00 น. เช้าเข้าไปแล้ว เลยถ่ายภาพมาทันตอนที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้นไปบ้างแล้ว

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-09

 

ดื่มให้ถูกคือ สูดแล้วซด Smell + Slurp

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-32-35

ที่ต้องตื่นเช้าขึ้นมาขนาดนี้เพราะเช้าวันนี่มีกิจกรรมการชิมกาแฟ Coffee Tasting ที่ทางสตาร์บัคส์เขาจะให้เรามาชิมกาแฟ ม่วนไจ๋ เบลนด์ ในแบบถูกวิธีให้ได้รับรสชาติสัมผัสกาแฟ และรู้สึกถึงกลิ่นไอดินจากธรรมชาติ

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-12

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-01

Coffee Tasting ในครั้งนี้ได้มีการจับคู่ขนมที่ทานคู่กันคือ คุ้กกี้ช็อกโกแลตชิปและวาฟเฟิลน้ำผึ้ง จากพาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์ชาวมาเลเซีย ที่เดินทางร่วมกับเราในทริปนี้ด้วย

การชิมกาแฟทางสตาร์บัคส์แนะนำให้สูดกลิ่นหอมๆ ของกาแฟก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มดื่มกาแฟแบบเสียงดัง ซึ่งเป็นการสูดแบบเอาอากาศเข้าไปด้วยขณะดื่มเพื่อระบายความร้อนของกาแฟซึ่งการดื่มแบบนี้ยังทำให้ลิ้มรสกาแฟได้เต็มที่มากขึ้นด้วย คล้ายกับการสเปรย์กาแฟเข้าปาก

สำหรับกาแฟม่วนไจ๋ เบลนด์นั้นเมื่อเราได้ลองชิมตามวิธีที่ถูกต้อง จะได้กลิ่นหอมจากซินนามอน และสมุนไพร รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก ทานง่าย ส่วนขนมที่ทางสตาร์บัคส์เลือกมาให้ทานคู่กันก็ช่วยดึงรสของกาแฟให้เข้มข้นและหอมยิ่งขึ้นและช่วยให้ขนมที่ทานคู่กันมีรสอร่อยมาขึ้นอีกด้วย

 

ที่มาของเมล็ดกาแฟ “ม่วนไจ๋”

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-16-11

สตาร์บัคส์ ม่วนไจ๋ เบลนด์ เป็นกาแฟผสมจากหลายภูมิภาค ระหว่างเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้าชั้นดีจากประเทศไทยและหมู่เกาะอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ในภาษาเหนือ ม่วนไจ๋ จะแปลได้ความหมายว่า ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม โดยเป็นกาแฟที่วางขายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่อาจมีขายในช่วงเทศกาลในบางประเทศในเอเชียแปซิฟิก และจำหน่ายในเว็บไซต์ของสตาร์บัคส์อเมริกา กาแฟ ม่วนไจ๋ เบลนด์ เป็นกาแฟที่สตาร์บัคส์ตั้งใจให้ชาวไร่มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างชาวไร่กาแฟ และการซื้อขายกาแฟแบบยุติธรรมรวมทั้งทำไร่แบบกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติโดยไม่ตัดไม้ทำลายป่า

โดยรายได้จากเครื่องดื่มทุกแก้วที่ ร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Starbucks Community Store) สตาบัคส์สาขาหลังสวน จะมอบให้โครงการ ITDP (โครงการของอาจารย์ไมค์) 10 บาท เช่นเดียวกับ เมล็ดกาแฟ ม่วนไจ๋ เบลนด์ ที่รายได้ 5% จะนำมาพัฒนาชุมชนผู้เพาะปลูกกาแฟม่วนไจ๋ เบลนด์ นั่นเอง

ความสุขอย่างเต็มเปี่ยมในทุกแก้ว

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-10

โครงการ ITDP ของอาจารย์ไมค์ได้เข้าร่วมกับสตาร์บัคส์ โดยช่วยเสาะหาและจัดส่งเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้าจากแหล่งต่างๆ ที่ปลูกโดยชาวเขาในแถบภาคเหนือของไทย ไปให้ฝ่ายรับซื้อของสตาร์บัคส์คัดเลือกเพื่อต่อยอดให้ชุมชนมีรายได้แบบยั่งยืน และเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ทั้งด้านสังคม, เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในบริเวณแหล่งเพาะปลูกกาแฟอีกด้วย

หลังจากชิมกาแฟเรียบร้อยหันไปอีกทีพระอาทิตย์ก็ขึ้นเต็มที่ทำให้เราเห็นทะเลหมอกได้ชัดเจนขึ้น เรียกได้ว่าโรงเรียนบ้านสองธารเป็นจุดชมวิวที่ช่วยเสริมรสชาติให้กาแฟถ้วยที่เราชิมพิเศษมากขึ้นไปอีก

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-13

ก่อนออกเดินทางไปชมจุดกำเนิดของกาแฟ เมื่อเพลงชาติดังขึ้นในเวลา 8 โมงเช้า เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านสองธารก็เตรียมตัวมาเข้าแถวตรงด้านหน้าที่อาคาร ‘โครงการส่งเสริมการศึกษาบ้านแม่ขี้มูกน้อยและบ้านกองกาย’ เด็กนักเรียนชาวเขาตั้งแต่รุ่นอนุบาลจนประถมยืนเข้าแถวตรงสวดมนต์ด้านหน้าเสาธงอย่างพร้อมเพียง

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-27

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-14

นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับน้องๆ ทั้งสอนหนังสือ ทาสีอาคาร นับว่าเป็นกิจกรรมสุดอบอุ่นที่ช่วยสร้างรอยยิ้มในการเริ่มต้นวันได้เป็นอย่างดี

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-15

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-16

เอาล่ะ มารู้จักเส้นทางของเมล็ดกาแฟ กว่าจะมาเป็นเครื่องดื่มรสขมที่เราคุ้นเคยกัน

กรรมวิธีแบบล้าง (แบบเปียก) ซึ่งกาแฟม่วนไจ๋ เบลนด์ ก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน

  1. เก็บผลเมล็ดกาแฟที่สุกแล้ว

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-18

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-19

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-20

2. คัดแยกเมล็ด โดยใช้น้ำเป็นการคัดเลือกกาแฟในขั้นแรกผลกาแฟที่ยังไม่สุกจะลอยน้ำขึ้นมาและถูกตักออกไป

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-21

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-22

3. แยกเมล็ดกาแฟ โดยเมล็ดจะถูกแยกออกจากเนื้อ แต่จะยังเหลือเยื่อหุ้มเหนียวคล้ายน้ำผึ้งอยู่

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-23

4. ส่งไปยังถังหมัก 18 – 48 ชั่วโมงระหว่างหมักจะเกิดปฏิกิริยาทำให้เยื่อหุ้มหลุดออก

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-24

หลังจากหมักเสร็จกาแฟจะถูกตากแห้งหลังจากแห้งแล้วต้องนำไปเก็บพักหลายสัปดาห์ ก่อนนำไปคัดแยกไซส์และชั่งน้ำหนักบรรจุถุงก่อนนำส่งไปคั่วต่อไป

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-25

นอกจากเราจะได้ชมกรรมวิธีอย่างละเอียดในทริปนี้เรายังได้สัมผัสวิถีชาวบ้านอย่างใกล้ชิดที่นับเป็นไฮไลท์ของทริปนี้มีทั้งขนมพื้นบ้านรสชาติสดใหม่, การดำเนินชีวิต และการอยู่แบบพึ่งพาธรรมชาติ นับเป็นข้อคิดคนเมืองที่อยู่แต่กับหน้าจออย่างเราให้ได้หยุดพักและลองหันกลับมามองสิ่งที่มีอยู่รอบๆตัวเราบ้าง

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-28

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-34-36

ก่อนหมดวันในตอนกลางคืนเราได้ชมการแสดงพื้นบ้านที่หาชมได้ยากจากเด็กๆ ที่โรงเรียน และปาร์ตี้ย่อมๆ รอบกองไฟในอากาศหนาว นับเป็นบรรยากาศแสนประทับใจ

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-34-38

วันที่ 3

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-34

เช้านี้เราไม่พลาดแบบเมื่อวานตื่นมาทันดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ทัน ท้องฟ้าสีส้มไล่เป็นเฉดสวยงามเป็นสัญญานว่าวันนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว

ก่อนเดินทางกลับเราได้เดินทางไปดูขั้นตอนการคั่วกาแฟ ซึ่งก็คือการให้ความร้อนกับเมล็ดกาแฟ โดยยิ่งคั่วนานน้ำก็จะยิ่งออกจากเมล็ดกาแฟไปเรื่อยๆ ทำให้กาแฟยิ่งเข้มขึ้นนั่นเอง

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-30

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-31

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-34-37

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-33

starbuck-muanjai-farm-trip-route-of-coffee-33-32

หลังจากดูขั้นตอนคั่วกาแฟเสร็จก็ถึงเวลาบอกลาผู้ร่วมทริปบางคนที่ไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ไปด้วยกันก่อนเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ

ทริปนี้ทำให้เราเห็นความตั้งใจของคนทำงานที่กระตุ้นให้เราเห็นถึงการทำงานด้วยการเป็นผู้ให้ทั้งยังได้มิตรภาพและความรู้ต่างๆ มากมาย รวมทั้งทำให้เราได้เห็นว่าแบรนด์ระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์ก็มีมุมมองการช่วยเหลือชุมชนเล็กๆ ให้ยั่งยืนด้วยสิ่งที่แบรนด์ถนัดที่สุดก็คือ การใช้กาแฟเข้ามาเติมเต็มความสุขสู่ชุมชน การเดินทางในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เราได้เห็นการให้จากคนหลายรูปแบบที่เราหวังว่าต่อไปเราจะได้มีโอกาสเป็นผู้ให้ที่ส่งต่อความสุขให้ผู้อื่นด้วย 🙂

ดื่มด่ำความหอมและสดใหม่ของกาแฟสตาร์บัคส์ได้ง่ายๆ -> แคปซูลกาแฟสตาร์บัคส์


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save