“เป็นสิ่งแรกที่เราสัมผัสเมื่อตื่นนอน และ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เราสัมผัสเมื่อเข้านอน” ปฏิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในยุคนี้ จะเรียกว่า เป็นอวัยวะที่ 33 ของคนยุคปัจจุบันก็ไม่ผิด ไม่ว่าเวลาตื่น สิ่งแรกที่เราทำ คือ จับโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คข้อความแจ้งเตือน หรือ ข่าวสารอะไรต่างๆ ก่อนที่จะลุกไปทำกิจกรรมต่อไป และใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ตลอดทั้งวันในชีวิตประจำวัน ทั้งยังเป็นสิ่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอีกด้วย ปัจจุบันคนทั่วโลกใช้โทรศัพท์ Smartphone มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ข้อมูลปี 2018 ผู้ใช้โทรศัพท์ Smartphone 2.53 หมื่นล้านคน มากกว่า ปี 2017 กว่า 8.3 % และ คาดการณ์ในปี 2019 – 2020 จะมีผู้ใช้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.71 หมื่นล้านคน และ 2.87 หมื่นล้านคน ตามลำดับ โดยเฉลี่ยเราใช้ Smartphone ประมาณ 3-4 ชั่วโมง / วัน และ อีก 16 % ใช้เวลาไปกับ Smartphone ถึง 5 ชั่วโมง / วัน ซึ่งนั้นเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า โทรศัพท์ Smartphone ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์โลก ถ้าจะให้นิยามว่า Smartphone เป็นอะไร ? คำตอบอาจจะ “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” เป็นนาฬิกา , กล้องถ่ายรูป , กระเป๋าเงิน, ธนาคารเคลื่อนที่ , ผู้ช่วยคอยจัดการตารางชีวิต , ติดต่องานหรือธุรกิจ , ให้ความบันเทิง , แสดงถึงไลฟ์สไตล์ของบุคคล รวมถึงเป็นที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้คน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน คนรัก หรือ ผู้ร่วมงาน เราก็ใช้ Smartphone เป็นช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ทั้งนั้น ใกล้กันมากขึ้น มีงานวิจัยมากมายที่ทำขึ้นเพื่อดูว่า “โทรศัพท์มือถือมีผลต่อความสัมพันธ์อย่างไรบ้างของมนุษย์” บ้างก็บอกว่ามีอิทธิพลในเชิงลบกับคนรอบตัว ซึ่งมาจากการที่ขาดปฏิสัมพันธ์กับคนในชีวิตจริง ให้ความสำคัญมากเกินไปจนเหมือนปิดตัวเอง คนใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อเรื่องงาน การเรียน สุขภาพ และ ความสัมพันธ์ แต่โลกใบนี้นั้นมีสองด้านเสมอ การที่รู้ประโยชน์ของเทคโนโลยี และนำมาปรับใช้ในชีวิตก็จะส่งผลในเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ได้ เช่น “ทำให้คนที่อยู่ไกลกัน ใกล้กันมากยิ่งขึ้น” ซึ่งมีผลต่อการรักษาความสัมพันธ์ต่อกันให้ยาวนาน ยกตัวอย่างเช่น คู่รักที่อยู่ห่างไกลกัน , เพื่อนที่อยู่คนละซีกโลก , หรือ รวมถึง การติดต่อเรื่องธุรกิจหรืองานกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่คนละที่กัน ง่ายและสะดวกในยุคที่เพียงนึกถึงกัน ก็กดข้อความหากัน ถ่ายรูป ข้อความเสียง หรือ วิดิโอคอล ได้เพียงปลายนิ้ว เชื่อมต่อตลอดเวลา ข้อดีของ Smartphone ในแง่ความสัมพันธ์ คือ เป็นช่องทางเชื่อมต่อกันตลอดเวลา ในการติดต่อสื่อสาร ส่งข้อความ รูปภาพ เสียง รวมถึง วิดิโอคอลแก่ผู้คน ที่ทำให้รับรู้ได้ว่า ขณะนี้เราทำอะไรอยู่ เราคิดอะไรอยู่ แต่รวมถึงเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อความสัมพันธ์แก่กันด้วย จากทฤษฏีค่านิยมในสังคม เราใช้ประโยชน์จากสมาร์ทโฟน เป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารที่เชื่อมโยงความรู้สึกให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน บ่งบอกไลฟ์สไตล์ เคยได้ยินประโยคหนึ่งที่ว่า “คนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน หรือ มีความชอบอะไรเหมือนๆ กัน มักจะดึงดูดกัน” ในแง่ของความสัมพันธ์ เรามักชอบคนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กับเรา เพราะ มันง่ายแก่การทำความรู้จัก เรามักมองเห็นเรื่องต่างๆ ในมุมมองเดียวกัน ทัศนคติ และ การตัดสินใจไปในทางเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในปัจจุบันและอนาคต ยกตัวอย่างเช่น ฟังเพลงแนวเดียวกัน ดูหนังแนวเดียวกัน ศิลปินที่ชอบเหมือนๆ กัน หรือ ข้าวของเครื่องใช้คล้ายๆ กัน มักจะทำให้จูนติดเข้ากันง่าย พูดคุยแลกเปลี่ยนแล้วเข้าใจกัน ทั้งยังเป็นการแสดงความเป็นตัวเองเพื่อให้เกิดการยอมรับหรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้นๆ แล้วยิ่งถ้าสิ่งนั้นเป็นที่พูดถึง เป็นที่รู้จัก มีคุณภาพ ก็จะเป็นการสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์จากการเป็นเจ้าของสิ่งนั้นอีกด้วย แล้ว Smartphone ที่ดีมีผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น จริงไหม ? อย่างที่รู้ว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นมากกว่าโทรศัพท์มือถือธรรมดาที่ไว้ใช้ติดต่อสื่อสาร เราพกไปทุกที่ ทุกเวลา แม้กระทั่งห้องน้ำ 70 % ของคนใช้สมาร์ทโฟน นำไปด้วยทุกวันเมื่อออกจากบ้าน 24 % ย้อนกลับมาเอาเมื่อลืมไว้ที่บ้าน ซึ่งสิ่งนี้ แสดงให้เห็นว่า “สมาร์ทโฟนมีความสำคัญในชีวิตเราแค่ไหน” เราไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนเพียงเพื่อโทรเข้าและออก หรือ ติดต่อสื่อสาร เราใช้เพื่อสร้างความบันเทิง และ ประสบการณ์ที่ดีร่วมด้วย เช่น การส่งข้อความแชทกับเพื่อน คนรัก , การสร้างกลุ่ม รวมตัวกันใน Events ที่ชอบเหมือนกัน , วิดิโอคอลประชุมงาน รวมถึงวิดิโอคอลเพื่อความสนุกสนาน หรือ ส่งความห่วงใยให้กัน , ถ่ายรูปสวยๆ ส่งให้กัน , สร้าง Qmoji เพิ่มความสนุกให้แก่กัน การมีสมาร์ทโฟนที่ดี ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่กัน “เลือก Smartphone ที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตเราได้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ดีของเรา” Huewei nova 3 และ nova 3i สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ทุกฟังค์ชั่นความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบแชทให้กัน , ถ่ายรูปสวยๆ ส่งให้กัน , วิดิโอคอลหากัน ชอบส่งสติกเกอร์สนุกๆ น่ารักให้แก่กัน ด้วยคุณสมบัติ กล้องความละเอียดกล้องหน้า 24MP + 2MP และกล้องหลัง 24MP + 2MP (รุ่น nova 3) และ กล้องหน้า 24MP + 2MP และกล้องหลัง 16MP + 2MP (รุ่น nova 3i) ระบบสมองกล AI ในชิปเซ็ต NPU รุ่นล่าสุดจาก Huewei Kirin 710 (ในรุ่น Nova 3i ) และ Kirin 970 (ในรุ่น Nova 3 ) เทคโนโลยีกราฟิกลื่นไหล หน้าจอ Huewei FullView Display ขนาดจอใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว และ หน่วยความจำ 128 GB ให้บันทึกเรื่องราวอย่างเต็มที่ ดีไซน์กระจก 3D ไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมกับฟีเจอร์สุดสนุก ที่ทำให้การถ่ายภาพดียิ่งขึ้น 3D Portrait Lighting ปรับแต่งภาพแบบ Studio ได้ถึง 5 รูปแบบในโหมดถ่ายภาพบุคคล ปรับแต่งแสง ปรับสีผิว วิเคราะห์รายละเอียดได้มากถึง 200 จุด , AR Fun , AR Effect ถ่ายภาพนิ่งและวิดิโอสุดสนุก และ 3D Qmoji แสดงอารมณ์ผ่านการ์ตูนที่เราสามารถสร้างได้เอง ซึ่งมาเพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายภาพมากขึ้น Huawei nova 3i ราคา 9,990 บาท ( 3 สี ได้แก่ Black , Iris Purple และ Pearl White ) และ Huawei nova 3 ราคา 16,990 บาท ( 3 สีสุดคูล Black , Iris Purple และ Red ) #Advertorial #Huawei อ้างอิงข้อมูล : Media-Marketing , Statista แนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับตัวแปรเรื่องค่านิยม จากงานวิจัย : Dspace
