เชื่อเลยว่าตลอดระยะเวลาของการล็อคดาวน์ที่ผ่านมา หลายคนคงคิดถึงการได้เข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์กันไม่มากก็น้อย เพราะบรรยากาศที่เต็มไปด้วย แสง สี เสียง ที่ยังไงก็ไม่เหมือนกับการนั่งดูอยู่ที่บ้าน และตอนนี้ก็มีข่าวดีสำหรับคอหนัง ถึงเรื่องสถานการณ์การกลับมาเปิดของโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ทีมงาน Mango Zero ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณมิ้นท์ พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ Marketing Director ของ SF Cinema ถึงเรื่องสถานการณ์ที่ผ่านมา และการได้เปิดโรงภาพยนตร์ในครั้งนี้ SF Cinema แอบเตรียมเซอร์ไพรส์อะไรไว้บ้าง โรงหนังโดนสั่งปิดไปกี่วัน ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง และการกลับมาเปิดคราวนี้ ทาง SF มีมาตรการอย่างไร คุณมิ้นท์ พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ เล่าให้ฟังว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดปรากฏการณ์ปิดโรงหนังเป็นครั้งแรกทั่วโลก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยระลอกที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ปิดโรงหนังนานที่สุดตั้งแต่ที่ เอส เอฟ เคยทำโรงหนังมา ถ้านับจากกรุงเทพฯ เป็นหลัก เราปิดตั้งแต่ 26 เมษายน และถ้าได้เปิด 1 ตุลาคม ก็จะเป็นเวลา 158 วัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก เพราะโรงหนังเป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ต้องหยุดให้บริการ และมักจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้เปิดอยู่เสมอ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นจากโรงหนังเลย เรายอมรับว่าเราได้รับผลกระทบหนัก เพราะโรงหนังไม่เหมือนธุรกิจอื่น หนังแต่ละเรื่องมีโอกาสเข้าฉายได้แค่ครั้งเดียว เมื่อกรุงเทพฯ ต้องปิด ค่ายหนังจำเป็นต้องพิจารณาเลื่อนการเข้าฉายของหนังออกไป ทำให้สาขาที่ยังเปิดได้ก็ไม่มีหนังใหม่ฉายไปด้วย ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศดีขึ้น และมีหนังที่รอเข้าฉายเยอะมาก แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะได้เปิดเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับทั้งโรงหนังและค่ายหนัง หลังจากมีการประกาศให้สามารถกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์ได้อีกครั้งทาง เอส เอฟ ได้มีมาตราการในการเตรียมพร้อมรับมือหลาย ๆ เรื่อง โดยยังคงใช้มาตรการ “ดูแลด้วยใจ” ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยอย่างดีที่สุด เช่น การติดตั้งเครื่องฉายแสง UVC ภายในระบบปรับอากาศ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเติบโตและลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ในส่วนของพนักงานที่ให้บริการก็ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีการคัดกรองด้วย ATK ก่อนปฏิบัติงาน และมีการประเมินผ่านมาตรฐาน THAI STOP COVID PLUS (TSC+) ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และตัวพนักงานเองด้วย ที่ผ่านมาโรงหนังมีหน้าที่ในการดูแลความสุขของลูกค้าเมื่อลูกค้าชมภาพยนตร์ที่โรงหนัง แต่ในยุคนี้ไม่ใช่แค่มอบความสุขหรือความสะดวกสบายระหว่างชมภาพยนตร์ แต่เราต้อง Keep Caring, Keep Entertaining มอบความห่วงใย เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุขเมื่อมาที่ เอส เอฟ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องมาดูหนังที่โรงหนัง มิ้นท์คิดว่า โรงหนังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉายหนัง การดูหนังที่สมบูรณ์แบบที่สุดคือดูที่โรงหนัง ทั้งระบบภาพ ระบบเสียง และเทคโนโลยี ทำให้เกิด Experience หรือประสบการณ์ที่แตกต่างจากการดูหนังที่บ้าน นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การได้ใช้เวลาในโรงหนังร่วมกับเพื่อน กับคนในครอบครัว หรือคนพิเศษ ซึ่งก็เป็นความสุขที่หาจากที่อื่นไม่ได้แน่นอน และในช่วงที่ผ่านมาเราแทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้เลย เพราะต้องอยู่บ้าน แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น โรงหนังจะยังเป็นสถานที่ที่ทุกคนคิดถึง เพราะโรงหนังเป็นพื้นที่ที่ให้ความบันเทิงนอกบ้านที่ทุกคนทุกวัยเข้าถึงได้ และมิ้นท์ต้องขอบคุณที่ทุกคนแทนชาว เอส เอฟ ที่ยังไม่ลืมพวกเรา และยังคิดถึง เอส เอฟ ตอนนี้เราพร้อมที่จะกลับมาดูแลทุกคนแล้ว อยากให้ทุกคนมั่นใจว่า เราจะ Keep Caring, Keep Entertaining เพื่อความปลอดภัยและความสุขของทุกคน และขอต้อนรับทุกคน Come back to Cinema พวกเราชาว เอส เอฟ อยากบอกทุกคนว่า “คิดถึงนะ… อยากเจอ” รู้สึกตื่นเต้นไหมที่จะได้กลับมาเปิดอีกรอบ และการกลับมาในครั้งนี้มีเซอร์ไพรส์แอบรอเอาไว้อยู่ หรือโปรโมชั่นต้อนรับการกลับมาไหม จริง ๆ เราตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้ง เราอยากจะบอกทุกคนว่า ‘Come back to Cinema’ เพราะเราเตรียม ภาพยนตร์ โปรโมชั่น ทั้งโปรจาก เอส เอฟ เอง หรือ พาร์ทเนอร์ที่จัดเต็ม พร้อมกิจกรรมมากมาย ซึ่งแอบบอกว่าตอนนี้จัดตารางกันแล้ว โดยแต่ละสัปดาห์มีหนังฟอร์มยักษ์รอเข้าโรงเกือบจะทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น Black Widow, Fast & Furious 9, Eternals, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, The Suicide Squad, Venom: Let There Be Carnage, Spider-Man: No Way Home, No Time To Die, The Matrix 4, The King’s Man ส่วนหนังไทยก็มีหลายเรื่อง โดยเฉพาะ ร่างทรง ที่ทำยอดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ได้เป็นอันดับ 1 ในวันแรกที่เข้าฉายที่ประเทศเกาหลีใต้ หรือ เพราะเราคู่กัน The Movie ที่แฟนคลับหลายคนรอคอย รวมไปถึง BLACKPINK THE MOVIE ที่ชาว BLINK ไม่ควรพลาด โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหนังที่เราจะได้ดูกันที่ เอส เอฟ ในปีนี้ เรียกได้ว่าเราจัดเต็มทุกอย่างเพื่อรอให้ผู้เข้าชมได้หายคิดถึงกันอย่างแน่นอน นอกจากหนังน่าดูแล้ว ตอนนี้ SF มีอะไรใหม่ๆ อีกบ้าง ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับ Experience ในการชมภาพยนตร์มาก ดังนั้นเราจึงพัฒนาโรงหนังให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น The Bed Cinema by Omazz หรือ CINECAFE Cinema ส่วนในช่วงที่ต้องปิดให้บริการ เราก็ไม่ได้หยุดพัฒนา แต่ได้หันไปพัฒนาสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น เอส เอฟ ป๊อปคอร์น ป๊อปคอร์นถุงฟอยล์ที่ผ่านการผลิตแบบพิเศษสามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือน อร่อยฟินเหมือนกินในโรงหนัง โดยที่เราได้ลองจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ อย่าง SF Shop, Shopee, JD Central และก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก คลายความคิดถึงป๊อปคอร์นโรงหนังกันไปได้ส่วนหนึ่ง และเร็วๆนี้ เราจะมีสินค้าใหม่ที่ทำร่วมกับเชฟระดับรางวัลมิชลินสตาร์ให้ติดตามด้วย ช่วยเล่าที่มาที่ไปของคลิป Hero Video ตัวนี้ และอะไรคือแรงบันดาลใจในการทำคลิป Hero Video เป็นเพลง ที่ผ่านมา เอส เอฟ ทำการตลาดแบบตรง ๆ เราสื่อสารจากความรู้สึกของเราจริง ๆ อย่างตอนโควิด ที่ต้องมีมาตรการ มิ้นท์บอกทีมว่า “เราดูแลด้วยใจ” นะ เพราะเราทุกคนดูแลลูกค้าด้วยใจจริง ๆ การกลับมารอบนี้ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วเราก็อยากให้ทุกคน “Come back to Cinema” เพราะเรา “คิดถึงนะอยากเจอ” ดังนั้นคลิปนี้จึงเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของเรา ที่อยากเล่าให้กับลูกค้าฟัง ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ของระบบฉาย ของโรงภาพยนตร์ หนังที่รอเข้า ไปจนถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดเราเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับทุกคนกลับมา แต่ถ้าเราบอกมาตรการเป็นข้อๆ 1-2-3-4 เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่มีโอกาสได้อ่าน หรือไม่เห็นภาพ เราเลยคิดว่าถ้าทำเป็นคลิปที่ดูเข้าใจง่ายๆ ให้ตรงกับ Keep Caring, Keep Entertaining ซึ่งชื่อแรกที่คิดได้ก็คือ พี่เอ็ด 7 วิ เพราะเคยร่วมงานกันมาแล้วจากโฆษณา เอส เอฟ พลัส พอมิ้นท์ปรึกษาพี่เอ็ดไป เล่าไอเดียให้ฟัง พี่เอ็ดก็สนใจ เอาสิ่งที่เราเล่าไปพัฒนากลายเป็นเพลง ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์ และพี่เอ็ดเล่าออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ ตรงกับ Keep Caring, Keep Entertaining ก็ต้องขอขอบคุณพี่เอ็ดมาก ๆ ที่ทำโปรเจ็คนี้กับเรา และหวังว่าทุกคนจะสนุก และได้ความรู้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ