Service Charge คำง่ายๆแต่ความหมายสุดลึกล้ำ คำง่ายๆ ที่ ร้านอาหารชอบใช้ประจำ เมื่อเราเข้าร้านอาหาร บางร้านอาหารจะติดป้ายหน้าร้าน “ร้านนี้คิดบริการ Service Charge 10%” หรือ ถึงตอนที่เราจ่ายเงินราคาที่เราต้องจ่ายกลับมีการบวก Service Charge เข้ามาด้วย แถมยังมีคิดภาษีอีก 7% อีก ทำให้เราต้องใช้เงินจ่ายค่าอาหารมากขึ้นไปกันใหญ่ มีข้อถกเถียงกันมากมายว่า “สรุปเราต้องจ่ายมันหรือไม่” หรือ “ถ้าร้านอาหารบริการเราไม่ดี เราต้องจ่ายให้รึปล่าว” วันนี้ขอมาเปิดความจริงเกี่ยวกับ Service Charge ให้ทราบกันชัดๆ ไปเลย “หลายสิ่งที่เราสงสัยจะได้รู้กันวันนี้” กับ ทนายเจมส์ – นายนิติธร แก้วโต มีกฏหมายเกี่ยวกับการเก็บ Service Charge รึไม่ ? ตอบ ตอนนี้ยังไม่มีกฏหมายเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บ Service Charge ในประเทศไทย แต่จะมีกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าและบริการ ในเรื่องการแสดงราคาสินค้าและบริการ ปี 2555 รวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ที่ว่าด้วยเรื่องการแสดงราคาสินค้าและบริการ มาตราที่ 28 และ การจงใจทำให้ราคาต่ำกว่า หรือ สูงเกินควร มาตราที่ 29 ผู้ประกอบการร้านค้าจะมีความผิด ถ้าหน้าร้านไม่ได้ติดป้ายเก็บ Service Charge ลูกค้าปฏิเสธการจ่ายได้รึไม่ ? ตอบ ลูกค้าสามารถปฏิเสธการจ่ายได้ เพราะ ถือเป็นการประกาศเพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้เกิดการตกลงร่วมกันตั้งแต่แรก การเก็บเซอร์วิสชาร์จโดยที่ไม่ได้แจ้งไว้ล่วงหน้าถือเป็นการยัดเยียด ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกค้า เพราะ ลูกค้าจะเข้าใจเพียงว่า ซื้อสินค้าและบริการตามราคาที่ระบุซึ่งรวม VAT 7% ซึ่งมีความผิดในการ ไม่แสดงราคาสินค้าหรือค่าให้บริการ โดยการเขียน พิมพ์ หรือ กระทำให้เห็น ข้อความต้องชัดเจนอ่านง่าย มีข้อความควบคู่กับราคาจำหน่ายและค่าบริการ “ต้องเป็นภาษาไทย” แต่จะมีภาษาอื่นด้วยก็ได้ ฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 28 ให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ซื้อเพื่อ จำหน่ายหรือผู้นำเข้าเพื่อจำหน่ายสินค้าหรือบริการแสดงราคาสินค้าหรือบริการ ฝ่าฝืนระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ร้านอาหารบริการไม่ดี ลูกค้าสามารถไม่จ่ายได้รึไม่ ? ตอบ ลูกค้า”สามารถทำได้” ถ้าเห็นว่าการบริการของผู้ให้บริการไม่สมควรที่จะได้รับเงินในส่วนนี้ ซึ่งเกิดจากการบริการที่แย่ ไม่มีพนักงานมารับออเดอร์ อาหารที่สั่งไม่มา อาหารเสิร์ฟช้า มารยาทของผู้ให้บริการ อาหารปนเปื้อนเล็กน้อย (เช่น เศษผม เป็นต้น) หรือ เหตุการณ์อื่นๆ ที่ไม่เหมาะสม แต่ลูกค้าจะต้องจ่ายราคาของสินค้าและบริการ (รวม VAT 7%) การบริการแบบไหน ที่ลูกค้าสามารถปฏิเสธการจ่าย Service Charge ได้ ? ตอบ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการไม่มารับออเดอร์ อาหารไม่มาตามที่สั่ง อาหารมาช้า มารยาทไม่ดีของผู้ให้บริการ พนักงานไม่มี Service Mind อาหารมีการปนเปื้อนเล็กน้อย (เช่น เศษผม เป็นต้น) หรือ มีเหตุการณ์อื่นที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควรที่จะต้องจ่ายค่าบริการ ที่ควรเป็นการบริการลูกค้าทีมากกว่าการเสิร์ฟทั่วไป การเก็บ Service Charge เก็บเท่ากันทุกร้านหรือไม่ ? ตอบ เก็บไม่เท่ากันทุกร้าน บางร้านไม่เก็บ Service Charge เลยก็มี ถึงจะไม่มีกฏหมายที่เฉพาะเกี่ยวกับการกำหนดการจ่ายในส่วนนี้ แต่ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) มีความเห็นให้ การเก็บ Service Charge ควรอยู่ในอัตราไม่เกิน 10% เพราะ เป็นอัตราที่ผู้บริโภครับได้ แต่ถ้าผู้ให้บริการเก็บมากกว่าที่ระบุไว้ล่วงหน้า ผู้ให้บริการจะมีความผิด ใน “การแสดงราคา จำหน่ายปลีกสินค้า หรือ ค่าบริการที่ให้บริการ ต้องแสดงราคาให้ตรงตามราคาที่จำหน่ายหรือค่าบริการที่ให้บริการ ฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 คือระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และมีความผิดตาม มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคา ต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าลูกค้ายืนยันไม่จ่าย เพราะรู้สึกไม่ได้ความเป็นธรรม จะมีความผิดหรือไม่ ? ตอบ ลูกค้าไม่มีความผิด ถ้าเห็นว่าผู้ให้บริการ ไม่ได้ระบุราคา Service Charge ตั้งแต่แรก ไม่มีการเขียน พิมพ์ หรือ กระทำเพื่อเป็นการบอกว่า “เก็บค่าให้บริการเพิ่มเติม” การให้บริการของผู้ให้บริการ ไม่เหมาะสมที่จะได้รับค่า Service Charge (แต่ลูกค้าต้องจ่ายค่าสินค้าและบริการ รวม VAT 7% เป็นปกติ) จะไม่มีการตั้งคำถาม จนถึงการฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ถ้าผู้ให้บริการ ร้านค้าต่างๆ ให้บริการที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า พนักงานให้บริการมีมารยาท มีความจริงใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น มีใจรักในงานบริการ ให้บริการลูกค้าอย่างดีให้แตกต่างจากการเสิร์ฟธรรมดาทั่วไป ลูกค้าเต็มใจที่จ่ายเงินในส่วนนี้อย่างแน่นอน ลูกค้าสามารถโทร สายด่วน สคบ. ร้องทุกข์ โทร. 1166 อ้างอิงจาก http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%C753/%C753-20-2542-a0001.pdf