เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับกรณีดราม่าหนุ่มไลฟ์โค้ชชื่อดัง “ณอน บูรณะหิรัญ” เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Sean Buranahiran – ฌอน บูรณะหิรัญ ที่กลายเป็น talk of the town มานานต่อเนื่อง เริ่มจากกรณีคลิปพูดถึงความประทับใจในตัวบิ๊กป้อมไปสู่กรณีปริศนาเงินบริจาคไฟป่าเชียงใหม่ ที่สร้างข้อสงสัยให้ชาวเน็ตทั่วโซเชียล แม้หนุ่มณอนจะมีการออกมาชี้แจงแล้ว แต่ก็เหมือนยิ่งจุดไฟให้ลามทุ่งยิ่งกว่าเดิม ส่งผลให้ยอดไลค์แฟนเพจของเขาจาก 4 ล้านกว่าคนลดเหลือ 2.8 ล้านคนภายในเวลาไม่นาน ซึ่งเรื่องราวของ “ณอน บูรณะหิรัญ” ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เป็นอย่างไรมาบ้าง Mangozero ขอสรุปให้ฟังดังนี้ 23 มิ.ย. 63 ฌอน โพสต์คลิปวิดีโอ “ผมได้ปลูกต้นไม้กับท่านประวิตร” พูดถึงความประทับใจที่ได้พบ พล.อ.ประวิตร ในโครงการปลูกต้นไม้ Climate Festival @North จ.เชียงใหม่ พร้อมพูดถึงความประทับใจที่ได้พบ พล.อ.ประวิตร มีใจความสำคัญที่มีส่วนในการจุดประเด็นที่ว่า“ได้เจอท่านประวิตร มันไม่เหมือนที่เราเห็นในรูปภาพที่อยู่ในมีมที่เขาหลับและภาพที่ออกมาดูร้ายหน่อย แต่พอได้เห็นตัวจริง เหมือนผู้ใหญ่ที่น่ารัก มันทำให้ผมนึกออกว่า สิ่งที่เราเห็นในสื่อ เขามีเจตนาที่จะทำให้เราคิดอะไรบางอย่าง อย่าเพิ่งตัดสินใคร จนกว่าเราจะได้เจอเขาจริงๆ ได้คุยกับเขาและสัมผัสกับเขา”พร้อมฝากถึงคนรุ่นใหม่ “น้องๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ อยากให้รู้ว่าข่าวมีเจตนาของเขา อย่าเพิ่งเชื่อ 100% ในสิ่งที่เราดู สิ่งที่เราเห็น ผมไม่ได้พยายามบอกให้ชอบใครหรือไม่ชอบใคร ผมอยากบอกให้น้องๆ อยู่กลาง เพราะว่าสื่อพยายามมีอิทธิพลต่อความคิดของเรา ดังนั้นอย่าให้สื่อมาทำให้เราชอบใครเกลียดใคร ให้เราอยู่กลางแล้วฟังทั้งสองฝ่าย แล้วถ้าเป็นไปได้ เข้าไปหาเขาจริงๆ เลย จึงค่อยตัดสินใจด้วยตัวเอง”หลังจากคลิปนี้ปล่อยออกไป ก็นำไปสู่การเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง มีคนเข้าไปทักท้วงในโพสต์ของฌอนมากมาย 24 มิ.ย. 63 เกิดกระแสตีกลับจากชาวเน็ตในข้ามคืน ยอดผู้ติดตามแฟนเพจของฌอนก็ลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง #ฌอนบูรณะหิรัญ ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ไทย มีคนเอาหนังสือฌอนออกมาเผาและประกาศขาย ฌอนลงคลิป “ประกาศจะเลิกพูด…(และทำให้หนักกว่าเดิม)” ใจความว่าตนเองมีความฝันที่จะอยากพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก หรือสังคมซึ่งตนก็สามารถทำได้ในระดับนึงแล้ว จึงอยากหันมามีส่วนร่วมช่วยสังคมในด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติก อยากจะทุ่มเทชีวิตตัวเองเพื่อที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้… ด้วยการเริ่มลงมือทำ” แต่ก็ยังมีกระแสในเชิงลบหลั่งไหลเข้ามาใต้คอมเมนท์ในคลิป 27 มิ.ย. 63 แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น ขณะเดียวกันก็มีเรื่องใหม่ผุดขึ้นมา เมื่อทีมดับไฟป่าดอยสุเทพ แจ้งผ่านเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ไม่เคยรู้ยอดบริจาคและไม่เคยได้รับสิ่งของจากฌอนเลย ฌอน ชี้แจงปมเงินบริจาคดับไฟป่า จำนวน 875,741.53 บาท พร้อมโชว์หลักฐาน ต่อเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 แต่ก็ยังมีความไม่ชัดเจนหลายจุด 28 มิ.ย. 63 เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ทวงถามเพิ่มถึงยอดเงินที่แท้จริง, ไม่มีการโชว์ Statement ที่โปร่งใส, ใช้เงินบริจาคผิดจุดประสงค์ เงินไม่ถึงคนดับไฟป่า แต่นำไปซื้อหน้ากากบริจาค และบูสโพสท์เพจตัวเองในราคา 250,000 30 มิ.ย. 63 “พล.อ. ประวิตร” ให้สัมภาษณ์ ยืนยันไม่รู้จัก-ไม่เคยเห็นหน้าและไม่เคยจ้างฌอนร่วมปลูกป่า 2 ก.ค. 63 “ศรีสุวรรณ” แจ้งความ ปอท.เอาผิด “ฌอน”’ ฐานฉ้อโกงยักยอกทรัพย์-ผิดพรบ.คอมฯ 5 ก.ค. 63 ปลัดอำเภอแม่ริม เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ สอบ “ฌอน” ชี้แจงเรื่องเงินบริจาค หลังเงียบหายหลายวัน “พ่อหลวงอุ๋ย” ทีมดับไฟป่าฯ ยืนยันไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจาก “ฌอน” 7 ก.ค. 63 ฌอนลงคลิปขอโทษโซเชียลและชี้แจงปมเงินบริจาคอีกครั้ง หลังตรวจสอบใหม่ กลายเป็น 1.3 ล้านบาท ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยยอดโอนใน Statement บัญชีบริจาค ถูกโอนไปที่บัญชีส่วนตัว 1 ล้าน, จ่ายบัตรเครดิต 2 แสนกว่า และโอนไปบัญชี เชียงใหม่ เดลต้า 2 แสนกว่าบาท 8 ก.ค. 63 ปลัดแม่ริม ใช้อำนาจเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัญควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 ส่งหนังสือทาง EMS จี้ “ฌอน” ชี้แจงเงินบริจาคอีกครั้ง เรียกตัวให้มาพบและให้ถ้อยคำถึงรายละเอียดการเปิดรับบริจาคเงิน การใช้เงินบริจาค และ การดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดเวลาให้มาพบภายในวันที่ 17 กรกฎาคม นี้ หากยังไม่เคลียร์ส่อเจอหลายข้อหา ทั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายอาญา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรฯ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่หากฌอนไม่ยอมมาพบ ก็ถือเป็นสิทธิ แต่หากฌอนไม่ยอมมาพบ ฝ่ายปกครองแม่ริมจะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังธนาคารที่เป็นบัญชีรับบริจาคเพื่อตรวจสอบในลำดับต่อไป เพจ “CSI LA” แฉทะเบียนบีเอ็มหรูของฌอน สวมทะเบียนปลอม หลังพบขึ้นสถานะ ‘เลิกใช้’ ตั้งแต่ 22 ส.ค.2560 9 ก.ค. 63 ธนาคารกสิกรไทย ส่ง Statement บัญชีบริจาคให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว มียอดเงินคงเหลือ 1,053 บาท ตำรวจออกหมายเรียกตัวฌอน ให้ปากคำ 14 ก.ค.63 นี้ หากพบเข้าข่ายความผิด จะแจ้งความผิดเป็นรายข้อหา ใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.การเรี่ยไร และฉ้อโกงประชาชน จากนี้คงต้องติดตามกันต่อว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางใด
