กรณีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 609 แห่ง หลังพบว่า หยุดดำเนินกิจการเกิน 90 วัน โดยไม่แจ้งเลิกกิจการ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550
วันนี้ (27 มกราคม 2564) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า เป็นเพียงการเพิกถอนใบอนุญาตฯ รอบแรก คาดว่าจะมีการอออกคำสั่งเพิกถอนอีกหลายระรอก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและเตรียมเสนอเรื่องให้เพิกถอบใบอนุญาตฯ โรงเรียนเอกขนนอกระบบอีก 500 กว่า แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณียกเลิกหรือเปลี่ยนไปดำเนินกิจกรรมอื่นแล้วไม่แจ้งยกเลิกให้ สช. รับทราบตามกฎหมาย
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ โรงเรียนนอกระบบที่ย้ายสถานที่เปิดกิจการ แล้วไม่แจ้งให้ สช. ทราบ อีกประมาณ 4-5 แห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา กรณีนี้ทางผู้รับใบอนุญาตฯ จะต้องมาเสียค่าปรับตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่โรงเรียนนอกระบบเท่านั้น โดยขณะนี้ สช. กำลังตรวจสอบโรงเรียนในระบบอีก 100 กว่าโรงเรียน ที่ยกเลิกกิจกรรม หรือปรับเปลี่ยนไปดำเนินกิจการรูปแบบอื่นแล้วไม่แจ้งขอปิดกิจการอย่างเป็นทางการกับ สช. คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ โดยในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน วันที่ 27 มกราคม ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานรับทราบต่อไป
“สาเหตุที่ทางสช. ต้องมาจัดระบบครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับ เป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สช.จะประสานขอความร่วมมือ เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรม ก็ไม่สามารถประสานหรือติดต่อผู้รับใบอนุญาตฯ จัดตั้งได้ ดังนั้นจึงถือโอกาสครั้งนี้ในการเคลียร์ข้อมูลโรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบให้มีความชัดเจนและเป็นปัจจุบัน ” นายอรรถพล กล่าวทื้งท้าย
ที่มา มติชน