ใครจะไปคิดว่าการปฏิเสธนี่แหละ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเติบโตได้ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการบริหารเวลา ด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น และด้านหน้าที่การงาน แต่ปัญหาติดอยู่ที่แค่คิดว่าจะปฏิเสธยังไงให้ไม่น่าเกลียดก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว เพราะเป็นอะไรที่ดูเหมือนจะไม่สุภาพและไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่
วันนี้เราจะมาช่วยให้ทุกคนเข้าใจ “การปฏิเสธ” ให้มากขึ้น และชี้ให้เห็นว่าถ้ามีเหตุผลในการปฏิเสธแล้วล่ะก็ ไม่ต้องห่วงเลยว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่ากับคู่มือการปฏิเสธ และเหตุผลที่ควรทำแบบนั้น
ปฏิเสธตรง ๆ พร้อมให้เหตุผล
ถ้าไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง เกร็ง ๆ ไปหมด ก็ให้ลองปฏิเสธด้วยคำว่า “ไม่…” ไปก่อน แล้วตามด้วยเหตุผลที่แท้จริงของเรา เช่น “คงไปกินข้าวเย็นกับพี่ ๆ ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ พอดีว่างานเยอะมาก ๆ เลย ไว้โอกาสหน้านะคะ”
ปฏิเสธด้วยการใช้คำว่าแต่
เรื่องของศิลปะการพูด การเรียบเรียงคำก็มีพลังมากเหมือนกันนะ ต่อไปนี้เวลาให้ปฏิเสธ ให้พูดว่า “พอดีติดธุระกับที่บ้าน แต่อยากไปกับเธอมาก ๆ เลยนะ” แทนการพูดว่า “อยากไปกับเธอนะ แต่ติดธุระกับที่บ้าน” สังเกตดูดี ๆ ว่ามันให้อารมณ์ต่างกันลิบลับ
ปฏิเสธด้วยคำถาม
การใช้คำถามเพื่อปิดท้ายประโยคก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้ในการปฏิเสธได้นะ เช่น “วันหยุดยาวนี้คงไปเที่ยวด้วยไม่ได้จริง ๆ ไว้วันหยุดยาวหน้าเราค่อยไปด้วยกันดีไหม?” แบบนี้ก็จะทำให้คนฟังรู้สึกว่าเราใส่ใจและไม่อยากปฏิเสธเขาจริง ๆ
ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่าเราคงไม่ไปกับเขาแน่ ๆ หรือยังไง ๆ เราก็จะปฏิเสธในที่สุด ก็อย่าลังเลที่จะพูดคำว่า “ไม่” ออกไป เพราะนั่นจะทำให้ทั้งเราและเขาประหยัดเวลาและพลังงานได้อีกเยอะ เช่น “วันนี้คงไม่ทัน พรุ่งนี้จะส่งให้นะคะ” โอเค รู้เรื่อง จบ
ปฏิเสธด้วยคำว่าไม่สะดวก
อีกรูปแบบหนึ่งของการปฏิเสธที่สุภาพกว่าคำว่า “ไม่” ก็คือคำว่า “ไม่สะดวก” นี่แหละ คำนี้ใช้ในกับทุก ๆ สถานการณ์เลย อย่างเช่นถ้ามีเพื่อนมายืมเงิน เราก็ปฏิเสธได้ว่า “เราไม่สะดวกให้ยืมเงินจริง ๆ” ถือว่าจบ เข้าใจกัน สั้น ๆ พอ
ปฏิเสธแล้วปิดท้ายด้วยการขอบคุณ
การปฏิเสธหลาย ๆ ครั้งอาจจะทำให้ทั้งเราและเขาไม่สบายใจ ดังนั้นการใช้คำขอโทษอาจจะช่วยให้ทั้งสองฝ่าย (หรือตัวเราเอง) รู้สึกดีขึ้นก็ได้ เช่น “วันนี้ไปด้วยไม่ได้ ขอบคุณมาก ๆ นะที่ชวน”
การปฏิเสธไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวหรือไม่เหมาะสมที่จะทำถ้าเรามีเหตุผล เพราะการปฏิเสธยังหมายถึงการที่เราเห็นคุณค่าเวลาของตัวเอง แสดงออกถึงการที่เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ได้ แสดงออกถึงความต้องการของเรา และบางครั้ง การปฏิเสธก็ทำให้เราได้ Say Yes กับสิ่งที่ดีกว่าด้วยนะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่ากลัวที่จะปฏิเสธให้มากขึ้นล่ะ!