Mango Zero

แสนสิริชวนย้อนรอยกว่าจะเป็น “สมรสเท่าเทียม” บ้านหลังใหญ่ที่พักใจชาว LGBTQIAN+ 

GoodChickeN

กว่าจะมาเป็นกฏหมาย”สมรสเท่าเทียม” ที่พร้อมโอบกอดชาว  LGBTQIAN+ มีเส้นทางการเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี

เพราะการมีคู่ชีวิตไม่ได้ต้องการแค่ใบทะเบียนสมรส แต่มีสิทธิอีกหลายประการที่มนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิทัดเทียมกัน ตลอดเส้นทางของกฎหมายสมรสเท่าเทียมนั้น ชาว LGBTQIAN+ คือกลุ่มคนที่มีพลังความหวังและแน่วแน่ เรียกร้องความหลากหลายทางเพศมาโดยตลอด 

เช่นเดียวกับแสนสิริที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยตอบรับความหลากหลายและยืนหยัดเคียงข้างความเท่าเทียมมาตลอด 8 ปี

ธงสีรุ้งโบกสะบัด ในวันที่โลกของสิทธิของมนุษย์เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น บรรยากาศอบอวนไปด้วยความสุข อยากจะชวนทุกคนมาย้อนรอยกว่าจะเป็น “สมรสเท่าเทียม” บ้านหลังใหญ่ที่พักใจชาว LGBTQIAN+ ไปพร้อมๆ กับ Mango Zero ไปดูกันเลย!

เส้นทางกว่า 24 ปีสู่การมี “สมรสเท่าเทียม” การต่อสู้เพื่อสิทธิในความรัก

ย้อนไปเมื่อปี 2544 เนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศแรกในการรับรองให้มีการแต่งงานของเพศหลากหลาย และมีหลายๆ ประเทศเริ่มทยอยผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ตามไปด้วย 

รวมไปถึงประเทศไทยในยุคของ “รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร” ได้เริ่มเสนอแนวคิดให้คนรักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมายแต่แนวคิดนี้ถูกปัดตกไป โดยอ้างว่ากระแสสังคมในเวลานั้นยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้

เวลาผัดผ่านไปเข้าสู่ปี 2555 มีคู่รักเพศหลากหลายต้องการจดทะเบียนสมรส แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย จึงมีการเรียกร้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง และได้เกิดการผลักดันจนกลายมาเป็นพ.ร.บ.คู่ชีวิต

หลังจากนั้นในปี 2556 ก็เกิดร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตขึ้นในสมัย “รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และในปี 2560-2563 ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตผ่านมติครม. หลายครั้ง และถูกนำกลับไปรอแก้ไขเพื่อเข้าสภาใหม่

การมี พ.ร.บ.คู่ชีวิต หลายคนอาจจะมองว่าดีแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนั้น ตัวกฎหมายของพ.ร.บ.คู่ชีวิตไม่ได้ให้สิทธิครอบคลุมถึงสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกหลายอย่าง จึงมีการผลักดันเพื่อแก้กฎหมายสมรสในปัจจุบันให้ครอบคลุมถึงบุคคลทุกเพศแทน

จุดเริ่มต้นของสมรสเท่าเทียม ในช่วงปี 2563 พรรคก้าวไกลยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ต่อสภาสิทธิที่เพิ่มขึ้นในพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม

แม้ในช่วงมีนาคมปี 2565 ครม. ไม่รับร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยให้ความเห็นว่ามีเนื้อความเหมือนพ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่การต่อสู้สำหรับสมรสเท่าเทียมยังคงดำเนินต่อไปช่วงเดือนมิถุนายนในปีเดียวกันนั้นมีการนำ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เข้าพิจารณาในสภาอีกครั้ง

24 กันยายน 2567 “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีผลบังคับใช้หลังจากนี้ 120 วัน หรือตั้งแต่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

และมาถึงวันที่ทุกคนรอคอย วันที่ 23 มกราคม 2568 เป็นวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมหรือ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ 24 พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ มอบสิทธิให้กับบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ว่าเพศใดสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียมภายใต้กฎหมาย 

วันที่โลกสดใส ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 38 ของโลก และเป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่มีกฎหมายรับรองการสมรสให้กับคนทุกเพศ

รอยยิ้มที่หลากหลายความรู้สึกในเวลาเดียวกัน

พูดถึงความอิ่มเอมใจที่รอคอยวันเวลานี้มาอย่างยาวนาน ในที่สุดความรักก็ไร้ขอบเขตและชาว LGBTQIAN+  จะสามารถดูแลกันและกันได้เท่าเทียมกันกับทุกคนในสังคมแล้ว

ซึ่งสิทธิของสมรสเท่าเทียม ได้ทั้งสิทธิในการดูแลคู่ชีวิตของตัวเอง คู่รักสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ให้กันได้ อย่าง การดูแลตัดสินใจเรื่องทางการแพทย์ ทั้งเรื่องเบิกรักษาพยาบาล การตัดสินใจสำคัญในการแพทย์ในกรณีที่คู่ชีวิตไม่สามารถตัดสินใจได้ตัวเอง หรือกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต อีกฝ่ายก็จะมีสิทธิในการจัดการศพได้

สิทธิใน “กฎหมายสมรสเท่าเทียม”

READY, SET, MARRY! “แสนสิริ”สถานที่ที่เป็นมากกว่าบ้าน เคียงข้างความเท่าเทียม

จุดเริ่มต้นของ #SansiriPride ตั้งแต่ปี 2561 กว่า 8 ปีที่แสนสิริเปิดบ้านหลังใหญ่ต้อนรับความหลากหลาย พร้อมยืนหยัดเคียงข้างความเท่าเทียมทุกรูปแบบจนถึงทุกวันนี้

แสนสิริสนับสนุนทุกความเท่าเทียมและสร้างพลังบวกให้กับทุกแคมเปญ

และปีนี้แสนสิริยังคงจับมือความเท่าเทียมไปกับแคมเปญ READY, SET, MARRY! รักพร้อมจด สมรสเท่าเทียม ที่ต้อนรับทุกคู่รัก LGBTQIAN+ ที่จดทะเบียนสมรส สู่การเริ่มต้นชีวิตในบ้านหลังใหม่ ที่โครงการคุณภาพพร้อมอยู่ทั่วประเทศจากแสนสิริ ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม

ขอแสดงความยินดีให้กับทุกความรักที่เกิดขึ้น เพราะทุกความรักสวยงามเสมอ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Live Equally : Ready, Set, Marry! รักพร้อมจด สมรสเท่าเทียม