ถ้าคุณเป็นแฟนการ์ตูนระดับเหนียวแน่น ไม่มีใครไม่รู้จัก One Piece สุดยอดการ์ตูนดังแห่งยุคสมัยที่มีความยิ่งใหญ่ สนุก และซับซ้อนไม่แพ้การ์ตูนดังในอดีต ความที่ One Piece มีตัวละครมากมาย และเดินเรื่องมายาวนานถึง 20 ปี จึงสามารถต่อยอดจากการ์ตูน เป็นอะไรได้อีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือการต่อยอดมาเป็นสวนสนุกขนาดเล็ก ‘Tokyo One Piece Tower’
‘Tokyo One Piece Tower’ เปิดให้บริการไปเมื่อมีนาคม 2015 แต่สองปีที่ผ่านมาก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับการ์ตูนที่มีการพัฒนาเรื่องราวไปเรื่อยๆ
และช่วงที่เราไปนั้นคือสิงหาคมปีนี้ มีการปรับเปลี่ยนคือเพิ่มนิทรรศการต้นฉบับของจริงที่วาดโดยอาจารย์เออิจิโร โอดะ เข้าไปด้วย รวมถึงสิ่งอื่นๆ ด้านในมีอะไรบ้างเราจะมารีวิวกันเลย
ราคาตั๋ว
แม้ Tokyo One Piece Tower จะจัดงานมาร่วมสองปีแล้วแต่ก็ยังมีคนแวะเวียนมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะไปชม Live Show ดังนั้นทางที่ดีควรจะจองตั๋วกันแต่เนินๆ เพราะมีโอกาสสูงที่ Live จะเต็ม โดยสามารถซื้อตั๋วที่คือเซเว่น หรือจะไปซื้อตั๋วที่หน้างานก็ได้ ราคาบัตรมีดังนี้
- 2,000 เยนสำหรับบัตรผ่านหนึ่งวัน (แต่ถ้าซื้อหน้างานราคาบัตรจะอยู่ที่ 2,200 เยน)
- 3,200 เยนสำหรับบัตรผ่านและชม Live Show (แต่ถ้าซื้อหน้างานราคาบัตรจะอยู่ที่ 3,200 เยน)
รายละเอียดโซนจัดแสดง
พื้นที่จัดแสดงของ Tokyo One Piece Tower ใช้พื้นที่ 4 ชั้นของโตเกียวทาวเวอร์ แต่ละชั้นแบ่งโซนออกดังนี้
- 1F ชั้นแรกของโตเกียวทาวเวอร์ แบ่งโซน One Piece ออกเป็นโซนขายของที่ระลึก และร้านอาหารของซันจิ ซึ่งทุกเมนูเราไม่ได้กินเลยเนื่องจากร้านจะปิดแล้ว (จบข่าว) ส่วนหน้าตาของเมนูอาหารนั้นนำเสนอโดยเอาตัวละครในวันพีซ มาเป็นแรงบันดาลใจ
- 3F สวนสนุกวันพีซ เริ่มที่ชั้นสาม เข้ามาถึงเราจะเจอหุ่นลูฟี่ และชอปเปอร์ขนาดเท่าของจริงรอต้อนรับ ด้านขวามือจะเป็นโซนขายของที่ระลึก และด้านซ้ายมือจะเป็นห้องขายตั๋ว ถ้าซื้อตั๋วล่วงหน้าก็เดินเข้าไปได้เลย สวนสนุกชั้นนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่จะมีตัวละครต่างๆ ในวันพีซ ขนาดเท่าของจริงมายืนรอเราไปถ่ายรูปด้วย
- 4F ชั้นนี้เป็นสวนสนุกทั้งชั้น โดยสวนสนุกจะนำคาแรคเตอร์ของ นามิ, โซโล, ชอปเปอร์, แฟรงกี้, บรู๊ค, อุซป, โรบิน มาทำเป็นสวนสนุกที่มีกิมมิคแตกต่างกันไปซึ่งเล่นฟรี ยกเว้นมินิเกมบางโซนที่ต้องซื้อตั๋วเพื่อเล่นเกม ถ้าชนะก็จะได้ของรางวัลด้วย
- 5F ไฮไลท์ของชั้นนี้มี 3 อย่างคือ One Piece Live Attraction ซึ่งตอนนี้เป็นเนื้อเรื่องใหม่ชื่อตอนว่า ‘Phantom : One Piece Live Attraction 3’ ส่วนด้านนอกมีนิทรรศการขนาดย่อมจัดแสดงต้นฉบับ One Piece ของแท้! หาชมยากมากมีที่นี่ที่เดียว (ส่วนด้านล่างมีต้นฉบับขาย แต่เป็นต้นฉบับจำลองไซส์เท่าของจริง) และยังมีห้องที่นำเสนอความทรงจำของลูฟี่ในช่วงสำคัญของชีวิตตั้งแต่ก่อนจะออกเรือจนถึงตอนที่เอส ตาย (ห้องนี้อาจมีคนเสียน้ำตา)
รีวิวสวนสนุก Tokyo One Piece Tower อย่างละเอียด
สำหรับทริปนี้เราไปเพื่อที่จะไปดู Live Show โดยเฉพาะ แต่ก็เดินเลาะๆ โซนอื่นด้วยเพื่อให้คุ้มค่าตั๋ว ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่ติ่งขนานแท้ แม้อ่าน One Piece ใน C-Kids มาตั้งแต่ตอนแรก (…รู้อายุกันเลย) กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่
กระทั่งเดินเข้ามาในสวนสนุกโซนแรกเท่านั้นแหละต่อมความทรงจำในวัยเด็กแตกละเอียด กลับถึงเมืองไทยถึงกับสั่ง One Piece เล่ม 1 – 80 เลย ส่วนรายละเอียดด้านในมีดังนี้
ชั้น 3F
- หลังจากเดินเข้าไปด้านในสวนสนุกโซนแรกที่เราเจอคือ ‘360 Log Theater~ The World of ONE PIECE~’ หรือโรงหนังจอยาว 360 องศา ถือเป็นการอุ่นเครื่องให้เรารู้จักกับเรื่องราวของวันพีซ ผ่านการเล่าเรื่องโดยแมลงโทรสาร ที่เล่าว่ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกำลังจะเดินทางไปเกาะ Tongari น่าเสียดายที่ห้ามถ่ายรูป
- ออกจากห้องไปปุ๊บเราเจอโปสเตอร์ของ Tokyo One Piece Tower ซึ่งอาจารย์โอดะ วาดเองกับมือ เรานี่แทบจะเอาหน้าไปแนบดูรายละเอียดเลยเพราะไม่เคยเห็นงานที่อาจารย์วาดใหญ่ขนาดนี้
- ส่วนตรงข้ามมีเรือเทาซันด์ ซันนี่ ขนาดจำลองไซส์เล็กจอดอยู่เลยไปแซะภาพเป็นที่ระลึกแล้วเดินไปต่อตรงโซนท่าเรือทงการิ
- โซนท่าเรือทงการิ มีสมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวดฟางทุกคนกำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ครบทีมทั้งลูฟี่, โซโล, ซันจิ, นามิ, อุซป, ชอปเปอร์, โรบิน, บรู๊ค และ แฟรงกี้ นี่มันสร้างมาเพื่อถ่ายรูปชัดๆ เราก็ขอไปแจมด้วย
ตัวละครทุกตัวไซส์เท่าของจริงสมส่วน โดยเฉพาะนามิ และคุณโรบินนน อร๊างงงงง~~ ดูเหมือนสาวๆ จะชอบถ่ายคู่กับซันจิ และโซโลเป็นพิเศษ ส่วนหนุ่มๆ ก็แน่นอนคุณโรบิน สิคร้าบบบ
- ชั้นนี้มีโซนขายของที่ระลึกด้วย ถ้าไม่อยากถือของให้เกะกะไม่ต้องซื้อก็ได้ ไปซื้อในร้านขายของที่ระลึกชั้น 1F ของก็เหมือนกัน แถมเยอะกว่าด้วย (มารู้ทีหลังว่าเขาห้ามถ่ายภาพ ผมขอโทษ)
ชั้น 4F
- โซนนี้ขึ้นมาตอนแรกสารภาพว่าไม่กล้าเล่นเพราะคิดว่าเสียเงิน แต่เอาเข้าจริง สวนสนุกโซนที่เอาคาแรคเตอร์ตัวละครมาทำเป็นสวนสนุกนั้นเล่นได้ฟรีหมดเลย ยกเว้นมินิเกมชิงรางวัลน่ารักๆ อันนั้นต้องซื้อคูปอง 300 – 700 เยนความที่เราก็เงินเหลือน้อยก็อดไป
- เนื่องจากเวลาน้อย เราเลยได้ทดลองเล่นแค่ไม่กี่อย่าง เริ่มที่ ‘Shopper’s Thounsand Sunny Tours’ ความน่าสนใจคือเราจะได้เข้าไปทัวร์ในเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางซึ่งไม่คิดเลยว่าด้านในก็จำลองพื้นที่บางส่วนของเรือเทาซันด์ ซันนี เช่นห้องนอนนามิกับโรบิน, ห้องอาหาร, ห้องน้ำ (มีกิมมิคแอบดูนามิอาบน้ำด้วย) และห้องทดลองของชอปเปอร์
- ห้องต่อมา ‘Zoro’s Soul of Edge’ ห้องนี้ด้านหน้าจัดแสดงดาบเล่มต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในวันพีช ทุกเล่ม แค่ได้เห็นดาบจริงใกล้ๆ ก็รู้สึกฟินมาก แล้วส่วนในห้องนี้จะให้เราฝึกวิชาสามดาบของโซโลแล้วทำภารกิจฟันลูกระเบิด โดยจะมีกล้องแอบถายแอคชั่นเท่ๆ ของเราอยู่ ถ้าชอบรูปก็จ่ายไป 1,500 เยนเดี๋ยวเขาปริ้นท์ออกมาให้ ด้านในห้ามถ่ายรูป จบเลย
- ห้องสุดท้ายที่เราได้เล่นคือ Brook’s Horror House จัดออกมาในสไตล์บ้านผีสิงดูมืดๆ น่ากลัว แต่จริงๆ แล้วเฉยๆ มากๆ ภารกิจของเราในห้องนี้คือตามหาซอมบี้หน้าตาเหมือนในรูป (ซึ่งแน่นอนว่าเขาห้ามถ่ายรูป) แล้วเอาเกลือ (ที่เอาลูกปิงปองมาติ๊งต่างว่าเป็นเกลือ) ไปใส่ปากซอมบี้ให้ได้ ถ้าใส่ได้เราก็จะไม่ได้อะไรเลยนอกจากความภูมิใจ เย่
- ส่วนห้องอื่นๆ ที่มีคนต่อแถวนานๆ ก็คือ ‘Robin’s Finding Ponesliff’ เป็นเกมที่ให้ตามหาโพเนกีฟ 4 อันเพื่อเฉลยปริศนาบางอย่าง คนรอนานมาก เราเลยไม่ได้เข้าไป, ส่วนของ Nami’s Casino House’ ก็สั้นๆ ง่ายๆ เลยคือเข้าไปเล่นคาสิโน กับนามิ ชนะได้เงิน แพ้ก็หมดตูด ส่วนใหญ่หมดตูดหน้าแห้งเดินออกมา
- ห้อง Usopp’s Road to Sogeking มีคนต่อแถวเยอะเหมือนกัน กติกาของโซนอุซป คือให้เรายิงหนังสติ๊กอาวุธของอุซปให้เข้าเป้า ถ้ายิงล้มหมดจะได้รางวัลเป็นของแถม จากการที่ยืนดูคนอื่นๆ เล่นกันนั้น ยังไม่เห็นใครได้รางวัลเลยเพราะยากจัด
- Franky’s Ball Run ต้องหยอดเหรียญ 500 เยนเพื่อเล่นเกมเหมือนพินบอล รางวัลใหญ่เป็นอะไรไม่ทราบ แต่เราเล่นแพ้เลยได้รางวัลกากๆ มากเป็นกาชาปองหนึ่งลูก เล่นยากมากกกกก ถ้าไม่แคร์ก็ข้ามได้เลย
ชั้น 5F
- ไฮไลท์ของชั้นนี้คือ ‘One Piece Live Attraction’ เป็น Live Show ที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากที่สุดเพราะได้เห็นกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทุกคนออกมาเดินกันให้เห็นและเล่นละครเวทีตอนใหม่ชื่อตอนว่า ‘Phantom : One Piece Live Attraction 3’
นักแสดงบนเวทีก็รักษาของลุคตัวละครได้เหมือนราวกับหลุดออกมาจากในการ์ตูนตั้งแต่หัวจรดเท้าระยะเวลาการแสดงอยู่ที่ 20 นาที เนื้อเรื่องถามว่าสนุกไหม ก็ถือว่าทำได้ดี เทคนิคก็ดีในระดับที่ทำให้เราสนุกได้ สามารถถ่ายภาพได้ ยกเว้นถ่ายวิดีโอ ตอนจบมีเซอร์ไพร้ส์เล็กๆ ออกมาด้วย
- ชั้นนี้มีหุ่นขนาดเท่าของจริงของ ‘ทราฟาลก้า ลอว์’ นั่งเท่ๆ ให้ถ่ายรูป สาวๆ กรี๊ดท่านลอว์กันใหญ่
- Log Gallery เป็นโซนใหม่ที่จัดแสดงต้นฉบับที่วาดโดยอาจารย์โอดะของแท้ (จริงๆ เป็นของปลอมทำเหมือนเราก็ไม่รู้หรอก) ไซส์เท่าของจริง ไปจ้องใกล้ๆ ต้นฉบับจะเห็นว่าอาจารย์วาดงานได้ละเอียดมากๆ ไม่ไก่เขี่ยหรือตีนปาด สมกับที่เป็นมืออาชีพ
ตอนเราอ่านบางฉากในการ์ตูนอาจจะดูว่างั้นๆ แหละ แต่พอมาเห็นต้นฉบับไซส์จริง บอกเลยว่าโคตรยิ่งใหญ่ ถ้าเจออาจารย์เดินอยู่แถวนั้นจะขอไปกราบงามๆ สามทีแบบไม่แบมือ
- ยังไม่จบ ยังมีอีกโซนที่ทำเอาต่อมคนรักวันพีซ ของเราตื่นขึ้นอย่างเต็มตัวอีกครั้งหลังจากดับไปนานเพราะเราหยุดอ่านไปตั้งแต่ตอนเอส ตาย โซนนั้นคือ ‘Luffy’s Endless Adventure’ ด้านในเป็นความทรงจำของลูฟี่ตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจเป็นโจรสลัด เริ่มจากตอนที่แซงคูส ไปช่วยลูฟี่จนเสียแขน
ฉากที่แชงคูส มอบหมวกฟางให้ และเรื่องราวสำคัญๆ ต่างๆ ที่เขามีร่วมกับเพื่อนในกลุ่มโจรสลัด ซึ้งมากๆ แต่สารภาพว่าบางจุดก็ลืมว่านั่นเป็นฉากไหนวะ ลืมไปแล้ว เดินแล้วน้ำตาจะไหล ซึ่งนี้เราเดินนานเป็นพิเศษและทำให้เราตัดสินใจกลับมาอ่านวันพีซ อีกครั้ง
สรุปความรู้สึกของการเดินเที่ยว ‘Tokyo One Piece Tower’
หลังจากเดินเที่ยวจนคุ้มค่าตั๋วคิดเป็นเงินไทยสิริรวมก็แค่ 900 บาทเท่านั้นนี่คือการสรุปความคุ้มค่าจากเราว่าที่สุดแล้วคุ้มไหม
- ชอบความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบตัวละคร ดีเทลละเอียดยิบเลย
- รอบตัวในสวนสนุกจะมีสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับวันพีซ อยู่เต็มไปหมด เห็นทีก็กรี๊ดที
- Live Action ทำออกมาดีสนุกตามระยะเวลาที่มีให้ นักแสดงเล่นถึง เทคนิคดี โซโลเท่มากกกก มีโชว์วิชาสามดาบด้วย
- ของที่ระลึกแอบแพงไป คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเราต้องยอมถอย ซื้อไม่ไหวจริงๆ
- ธีมพาร์คที่เอาคาแรคเตอร์มาทำเป็นเครื่องเล่นก็โอเค ทำใจไว้แล้วว่ามันต้องไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ ซึ่งก็จริง ยกเว้นเดินทัวร์เรือเทาซันด์ ซันนี อันนี้ดี
- นามิ และโรบิน สมจริงทุกส่วนทั้งฟิกเกอร์เท่าคนจริง และคนที่แสดงเป็นนามิ ก็แคสติ้งมาดี
- ค่าตั๋ว 900 บาทไทย แต่แลกกับการที่เราได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งก็คุ้มมากๆ แล้ว
วิธีการเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย Toei Oedo มาลงสถานี Akabanebashi แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
- นั่งรถไฟสาย Toei Mita มาลงสถานี Onarimon แล้วเดินต่อไปอีก 6 นาที
- นั่งรถไฟสายTozai Metro Hibiya มาลงสถานี Kamiyacho แล้วเดินต่อไปอีก 7 นาที
- นั่งรถไฟสาย Toei Asakusa มาลงสถานี Daimon แล้วเดินต่อไปอีก 10 นาที
- นั่งรถไฟ JR Yamanote มาลงสถานี Hamamatsucho แล้วเดินต่อไปอีก 15 นาที