ปัจฉิมบทแห่งเจได คือชื่อของภาคของภาพยนตร์อภิมหาสงครามอวกาศนี้ ที่แค่เห็นเราก็รู้กันแล้วว่า ถึงเวลาแล้วที่ยุคของเจไดจะต้องปิดฉากลง แต่ใครกันละที่เป็นเจไดคนสุดท้าย? แค่ Logo Lucasfilm ปรากฎขึ้นมา เหล่าพาดาวันในโรงก็ส่งเสียงฮือฮากันออกมาแล้ว ขอบอกว่าหลังจากนั้นตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 32 นาที เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างไม่รู้ลืมเลยทีเดียว สนุก! สนุกมากๆ สนุกจนเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความบันเทิงของปีนี้ ถึงแม้ว่าความรักใน Episode เก่าๆ จะกินพื้นที่ในหัวใจเราไปจนแทบจะหมดแล้วก็ตาม ยอมรับว่าภาคนี้อาจจะไม่ทำให้เรารักขนาดนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Star Wars: The Last Jedi ได้เติมเต็มให้พาดาวันคนนี้มีความสุขที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว Star Wars: The Last Jedi การเล่าเรื่องของ Star Wars ภาคนี้เป็นการผูกโครงเรื่องแบบเรียบง่าย ที่ถึงแม้ว่าคุณจะรู้จักแค่ เจได, BB8, ไลท์เซเบอร์ (ก็ดาบเลเซอร์นั่นแหละ) ก็สามารถตามเนื้อหาและสนุกไปกับหนังได้ไม่ยาก เริ่มจากการที่ฝั่งปฐมภาคี (ฝั่งโหดๆ ใช้ไลท์เซเบอร์สีแดงน่ะ) นำทีมโดยผู้นำสูงสุดสโนค, เจ้าหนุ่มไคโลเรน และนายพลฮัคส์ ไล่ล่าฝั่งกบฏต่อต้านภายใต้การนำทัพของเจ้าหญิงเลอา นายโพ (เจ้านายของหุ่นดรอยด์ BB8) ฟิน และเรย์ โดยตัวเรย์ได้ถูกส่งไปหา ลุค สกายวอล์คเกอร์ ที่เกาะซึ่งเป็นวิหารเจไดแห่งแรกเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ให้ มาสเตอร์ลุค ขัดเกลาฝึกฝนวิชาเจได ดังนั้นเนื้อเรื่องของหนังจะว่าด้วยไล่ล่าของสองฝั่ง สลับกับการฝึกของเรย์ ส่วนของเนื้อเรื่องเรียกได้ว่าแปลกใหม่ ที่ถึงแม้จะทำแบบเคารพขนบธรรมเนียมแต่ยังมีความสดใหม่เข้ามาเพิ่มเติม มีการตีความเกี่ยวกับ Force ทั้งในเรื่องของความหมายและความขัดแย้งได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง คาดเดาอะไรไม่เลย ความมือหนักแบบมีรสนิยมของผู้กำกับ Rian Johnson ผู้นั่งแท่นผู้กำกับอภิมหาสงครามอวกาศภาคนี้ ทำหน้าที่ดึงเสน่ห์ความคลาสสิคในแบบของ Star Wars ออกมาได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังจัดหนักจัดเต็มกับฉากแอ๊คชั่น ทั้งระเบิดยาน ยิงไล่ล่า แม้กระทั้งฉากดวลดาบไลเซเบอร์ก็ทำได้ดีสุดๆ องค์ประกอบดี งดงาม และที่สำคัญมันส์มาก สนุกมากๆ นี่แหละ Star Wars แค่ดาบไลท์เซเบอร์ที่ถูกหนูเรย์เปิดออกมาในตัวอย่างหนังเราก็ฟินกันสุดๆ ไปแล้ว ยิ่งภายในหนังที่จัดเต็มทุกรายละเอียด พร็อบ ฉาก คอสตูม รวมไปถึงตัวละครที่เราคิดถึงต่างก็กลับมาปรากฎตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เรียกได้ว่าอยากเห็นอะไร ได้เห็นหมดครบทุกอย่างเลย นักแสดงรุ่นใหม่กับการเติบโตของตัวละคร พูดถึง ไคโลเรน ที่รับบทโดย Adam Driver ก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจ รวมไปถึงปูมหลังที่ทำให้เค้าเดินมาสู่จุดนี้ได้ ยอมรับเลยว่าการแสดงในภาคนี้ดูมีมิติ ทรงพลังเป็นสุด น้องเรย์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่จะไม่อวยเลยก็ไม่ได้ Daisy Ridley สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ดูเพลิน ดูไปดูมาตกหลุมรักในความแกร่งของเจ้าหนูอย่างถอนตัวไม่ขึ้นไปซะแล้ว ทั้งนี้ก็ยังมีตัวละครใหม่ๆ ที่มาเพิ่มมิติให้กับหนังเรื่องนี้อยากคับคั่งทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันและมุมมองหลากหลายรูปแบบ และดาวใหม่ต่างๆ นับว่าเป็นการเปิดกาแล็กซี Star Wars ที่สมบูรณ์อีกหนึ่งภาค การกลับมาของสองพี่น้องสกายวอล์คเกอร์ การปรากฎตัวของ Mark Hamill ในบทบาท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ปรมาจารย์เจได ในภาคนี้เราจะได้เห็นลุคแบบเต็มๆ สร้างความประทับใจให้กับเหล่าพาดาวันตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งยังมีการนำเสนอวิชาเจได้ได้อย่างถึงแก่นลึกซึ้งเป็นที่สุด ทางด้านของเจ้าหญิงเลอา Carrie Fisher สง่างามมาก ทุกฉากที่เธอปรากฎตัวออกมา ทำให้เรารู้สึกปริ่มๆ ตลอดเวลา จะถือว่า Star Wars: The Last Jedi เป็นการ Tribute ให้กับ Carrie Fisher ที่ได้รับบทนี้เลยก็ไม่ผิดนัก ต้องยอมรับว่าเจ้าหญิงเลอาเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องเลยก็ว่าได้ เหล่ากองทัพตัวละครสมทบ ยอมรับว่าดรอยส์ในภาคนี้ทำออกได้น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ อย่าง BB8 ที่ครองใจคนดูไปเมื่อภาคที่แล้ว กลับมาในภาคนี้ก็แสดงความสามารถออกมาให้เราว้าวอยู่เรื่อยๆ และการกลับมาของ R2-D2 กับหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ให้กับลุ๊คและเลอา ก็ทำเอาเราน้ำตาคลอด้วยความปลื้มปริ่ม และบรรดาตัวขโมยซีนต่างๆ ทั้งหมาป่าคริสตัส ที่ยอมรับเลยว่าอลังการสวยงามมาก แต่บอกเลยว่าไม่ตัวไหนเด็ดไปกว่าเจ้า Porg นกหรือไก่ทะเล ที่โผล่มาสร้างความน่ารักให้เราเห็นเป็นระยะๆ รู้นะ ว่าจะขายของเล่นล่ะสิ เอาเงินไปเลยจ้าา มาถึงตรงนี้แล้ว คงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า Star Wars: The Last Jedi สนุกมาก ครบในทุกมิติที่หนังดีๆ เรื่องนึงจะต้องมี นอกเหนือไปจากเนื้อเรื่อง การแสดง ฉากแอ๊คชั่น เทคนิคพิเศษต่างๆ ที่เราได้บรรยายเอาไว้ในข้างต้น เหนื่อสิ่งอื่นใดที่เราจะได้รับก็คือ ความสนุกสนานที่น่าประทับใจ เป็นความบันเทิงที่ควรค่าแก่การเป็นภาพยนตร์ส่งท้ายปลายปีเลยจริง ขอเสริมอีกนิดนึง การได้ชม Star Wars: The Last Jedi ท่ามกลางเหล่าพาดาวันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก ขอบคุณเหล่าพาดาวันทุกท่านที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าประทับใจมากขึ้นไปอีก และสุดท้าย May the force be with you. ขอบคุณภาพจาก : IMDB