พอพูดถึงร้านอาหารย่านทองหล่อ สิ่งแรกที่เรานึกถึงก่อนทุกอย่างเลยคือ…แพงแน่ๆ เลย ยิ่งพอมีเพื่อนไลน์มาชวนบอก “แกๆ…เย็นนี้ไปกินปิ้งย่างแถวทองหล่อกัน” เราแทบจะส่ายหัวปฏิเสธเลยเพราะกลัวว่าราคาที่ออกมาตอนเช็คบิลจะทำเราช็อก แต่! ทองหล่อก็มีร้านปิ้งย่างที่ตอบโจทย์ของเราทุกอย่างตั้งแต่ป้ายชื่อร้านไปจนถึงวัตถุดิบ ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 590 บาทก็อิ่มได้ ร้านนั้นคือ ‘Space Q’
ต้องบอกก่อนว่า Space Q เป็นร้านปิ้งย่างที่อยู่ใต้ชายคาเดียวกับ ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ แต่ Space Q เป็นแบรนด์ใหม่ที่ยกระดับการกินปิ้งย่างให้สร้างประสบการณ์ที่ดีแกคนที่รักในการปิ้งย่างอีกเลเวลหนึ่ง ตั้งอยู่บนชั้นสองของตึก THE TASTE THONGLOR หน้าปากซอยทองหล่อ 11 ภายในร้านตกแต่งได้อย่างเรียบง่าย นั่งสบาย สมกับเป็นร้านปิ้งย่างที่ตั้งอยู่ในทองหล่อ และแม้จะเป็นร้านปิ้งย่างที่มีชาบูด้วย แต่กลับไม่ได้กลิ่นควันเลย ทำได้ยังไง!
ส่วนความอร่อยนั้นนักชิมทุกสถาบันออนไลน์ทั้งนายฮ้อย ซ่ารา, Wongnai, ศุภชัย เสมอมิตร (โหน่งโชว์) และปังปอนด์ ออนทัวร์ …ยังไม่เคยมาชิม แต่เราไปชิมมาแล้วต้องบอกว่า เยี่ยม! สำหรับไฮไลท์ของที่ Space Q คืออะไรบ้างนี่คือรีวิวจากเรา! ไปดิคร้าบบบบ รออะไร
สรุปทีเด็ดของ Space Q และ Valcano หมูภูเขาไฟ
- เมนูหมูภูเขาไฟ หรือ ‘Valcano หมูภูเขาไฟ’ นั้นเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษของ Space Q มีหมูสองชนิดราดด้วยซอสลาวาสูตรลับ จัดมาในรูปแบบของภูเขาไฟที่กำลังปะทุออกมาด้วยดรายไอซ์ที่พวยพุ่งได้ อลังการสุดๆ และเมื่อยกเสิร์ฟมาทุกคนต้องหยิบกล้องมาถ่าย ไม่ถ่ายถือว่าบาปมาก
- สำหรับฐานของภูเขาไฟเป็นหมูสันคอสไลด์ทรงกลม ส่วนตัวภูเขาไฟเป็นหมูชาบูหรือหมูส่วนสันไหล่สไลด์ขนาดยาวววว รสชาตินุ่มละมุนลิ้นทั้งสองแบบเลือกได้ว่าจะต้มหรือจะปิ้ง แต่แนะนำว่าหมูสไลด์ทรงกลมเอาไปปิ้งจะฟินมาก กินแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนลิ้น ส่วนหมูสันไหล่ (หรือหมูชาบูขนาดยาวนั่นแหละ) แน่นอนต้องต้มแล้วค่อยกิน อร่อยลิ้นเหมือนละลายหายไปเลย (นี่พิมพ์แล้วยังหิวอยู่เลย)
- น้ำจิ้มมีให้เลือกสามแบบชอบแบบไหนจิ้มแบบนั้นเอาตามสะดวกทั้งน้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่าต้นตำหรับ, น้ำจิ้มปิ้งย่างสไตล์ Space Q และน้ำจิ้มพอนสึสำหรับชาบู
- ‘Valcano หมูภูเขาไฟ’ ราคาน่ารักน่าคบหา 590 บาท ส่วน ‘Valcano เนื้อภูเขาไฟ’ ราคา 700 บาท
- และอีกหลายหลายเมนูที่มีเฉพาะที่ Space Q กับวัตถุดิบที่จัดมาอย่างคุ้มค่าสมกับราคา ไม่ว่าจะเป็นคุโรบุตะสเต๊ก เสิร์ฟพร้อมไส้กรอกหมูพริกไทยดำและบิ๊กไบท์เบคอน, หมูสันคอจัมโบ้ เสิร์ฟพร้อมเยอรมันเบคอน, สเปซ คิว หมูสามชั้นทวิสเตอร์, คอหมูหมักต้นหอม, และชุดหมูชาบูสไลด์เสิร์ฟพร้อมผักสำหรับต้มแบบจุใจ เสิร์ฟมากับซอสพอนสึ
- ส่วนคนชอบเนื้อ พลาดไม่ได้กับเนื้อฮอกไกโด A4, สเปซ คิว เนื้อสันคอไทยวากิว, เนื้อสันในโคขุน และชุดเนื้อชาบู เนื้อสไลด์เสิร์ฟพร้อมชุดผักและซอสพอนสึ
- ถ้าไม่อยากกินปิ้งย่างหรือชาบู เขามีเมนูจานเดียวให้เลือกด้วยนะ เช่น ข้าวหน้าหมูล้นชาม, ข้าวสตูว์ซี่โครงหมู, กะเพราหมูทอด ฯลฯ
- ไม่ใช่แค่วัตถุดิบหรือราคาเท่านั้นที่ใส่ใจลูกค้า แต่ยังคำนึงถึงความรู้ใจลูกค้าระดับขั้นสุดด้วยการทำร้านให้ออกมาโล่งโปร่งสบาย นั่งได้ยาวๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัด จะมากับเพื่อนหรือมากับครอบครัวก็เหมาะในทุกโอกาส
- นอกจากนี้ยังมีระบบดูดควันชั้นเยี่ยม หมดปัญหามีกลิ่นติดตัวเมื่อกินเสร็จ ดังนั้นจะมากินตอนเที่ยง ตอนเย็น หรือตอนดึกก็ได้ กลิ่นไม่กวนตัว กวนใจ
- เตาในร้านนี้ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์หมดปัญหาเถียงกันว่าจะกินปิ้ง หรือกินต้ม เพราะเตาที่นี่มีทั้งหม้อต้ม และกะทะปิ้งในที่เดียวกัน ใครใคร่ต้ม…ต้ม ใครใครปิ้ง…ปิ้ง สามัคคีกันได้
- มีเมนูกินเล่นให้เลือกอีกมากมายไม่ใช่แค่ปิ้งย่าง เช่น หลากหลายเกี๊ยวซ่า ของดีของเด็ดจากบ้านบาร์บีก้อน, เอ็นข้อไก่ทอด, สลัดหมูชาบู (อันนี้อร่อยมาก) และของหวาน Sorbet คือดีงาม
- ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 24.00 น. สำหรับวันศุกร์ – เสาร์ และ 11.00 – 23.00 น. สำหรับวันอาทิตย์ – พฤหัสบดี เอาใจคนเมืองที่เลิกงานดึก
- อร่อยมาก ลองแล้วอยากบอกต่อ!