Mango Zero

พาชมนิทรรศการ ‘จิ๋วจิ๋ว’ ครั้งแรกของ ‘มุนินฺ’ พร้อมบทสัมภาษณ์แรงบันดาลใจของงานครั้งนี้

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะอายุเท่าไหร่ และเติบโตมาในแบบไหน คุณคิดเหมือนกันไหมว่าความทรงจำวัยเด็กเป็นส่วนหนึ่งที่ติดตัวคุณมาตลอดและประกอบสร้างจนเป็นคุณในทุกวันนี้

นิทรรศการ ‘จิ๋วจิ๋ว’ ครั้งแรกของนักวาดการ์ตูน ‘มุนินทร์ สายประสาท’ เกิดขึ้นมาจากความชอบส่วนตัวในการวาดภาพเด็ก แต่ด้วยงานของ มุนินฺ แล้ว แน่นอนว่าในทุกๆ ภาพจะต้องมีข้อคิดอะไรแฝงอยู่และรอให้ทุกคนมาค้นหา

ทีมงาน Mango Zero ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมนิทรรศการที่จัดขึ้นที่ 10ml gallery (ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นร้านคาเฟ่และแกลลอรี่ของพี่สาวคุณมุนินทร์นั่นเอง) พร้อมทั้งได้สัมภาษณ์ถึงแรงบันดาลใจและสิ่งที่ซ่อนอยู่ในผลงานครั้งนี้กับคุณมุนินทร์ด้วย จะเป็นอย่างไรบ้าง ขอเชิญรับชม

นิทรรศการ ‘จิ๋วจิ๋ว’

เมื่อไปถึง 10ml ทุกคนจะต้องไปที่ฝั่ง cafe ก่อน เพื่อทำกิจกรรมเล็กๆ ก่อนเข้าชมงาน โดยทางทีมงานจะมีกระดาษลากเส้นให้เล่น ถ้าลากออกมาได้เบอร์อะไรก็จะได้ตัวการ์ตูน (ที่จะตรงกับ 1 ในภาพของนิทรรศการ) มาระบายสีกัน

หลังจากนั้นก็มีตัวการ์ตูนให้เสียบเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้มาที่นี่แล้วด้วย

1. ทำไมถึงตั้งชื่องานว่า จิ๋วจิ๋ว และทำไมเลือกตีมเด็กเป็นหัวข้อหลักในนิทรรศการครั้งแรก

มุนินฺ : โดยส่วนตัวชอบวาดภาพเด็กอยู่แล้ว ชอบสัดส่วนของเด็ก เวลาที่จะเขียนการ์ตูนหรือนิยายภาพจะใช้เด็กเป็นตัวเรื่องหลักอยู่บ่อยๆ

จึงอยากเริ่มนิทรรศการครั้งแรกด้วยสิ่งที่เราชอบ งานที่ได้ออกมาจะได้มีความสุขไม่กดดัน เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัด

ชื่อ”จิ๋วจิ๋ว” เวลาคุยเล่นกันกับพี่สาว (เจ้าของแกลเลอรี่) ชอบคุยเรื่องเด็ก, ลูก, หลาน แชร์รูป จะเรียกเด็กกันว่า “คนจิ๋ว” คำว่า “จิ๋ว” ก็เลยเป็นคำติดปากเรา เลยได้ออกมาเป็นชื่อ “จิ๋วจิ๋ว”

 

2. ภาพของเด็กในงานคือเด็กที่ส่งผลต่อตัว มุนิน ใช่หรือเปล่า?

มุนินฺ : จริงๆ ตอนแรกยังไม่ได้คิดว่าจะเป็นเด็กที่มีตัวตนจริงไหม แต่ก่อนที่เราจะสร้างการ์ตูนอะไรขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วไม่มีตัวตนจริงเราต้องสร้างตัวตนของเขาขึ้นมา มันเลยจะกลายเป็นงานยากมาก สมมติเด็ก 10 คน เท่ากับว่าต้องสร้างเรื่องขึ้นมา 10 เรื่องให้พวกเขา ถ้างั้นเราเลือกที่จะเอาคาแรคเตอร์ที่มีอยู่แล้วดีกว่า เพราะเรารู้จักเขาอยู่แล้ว น่าจะสนุกกว่า เด็กที่เราเลือกมาเลยมีคาแรคเตอร์แตกต่างกัน เป็นเด็กที่เรารู้จักรอบๆ ตัว บางทีก็ลูกเพื่อนบ้าง เป็นหลานบ้าง

 

3. ในงานมีคาแรคเตอร์เด็กของมุนินอยู่ด้วยไหม?

มุนินฺ : ในนิทรรศการจะมีรูปทั้งหมด 10 รูป แต่จริงๆ จะมีเด็กที่เป็นวัยนั้นอยู่จริงๆ 9 รูป ส่วนอีกรูป เป็นรูปที่เราวาดตัวเองตอนเด็ก ก็คือจะเป็นรูปสุดท้ายที่เป็นรูปเด็กกอดจระเข้ รูปนั้นเราเขียนจากตัวเอง ซึ่งตุ๊กตาตัวนั้นก็เป็นของเราเองเช่นกัน มีอายุ 25 ปีได้แล้ว เป็นตุ๊กตาที่เราเล่นมาตั้งแต่ 4 ขวบ (หัวเราะ)

จริงๆ ตอนเราเป็นเด็กก็คงเป็นเด็กที่แปลกเหมือนกันที่เล่นของเล่นแบบนี้ เพราะมันอาจจะดูน่ากลัว แล้วก็สงสัยว่าทำไมพ่อถึงซื้อตุ๊กตาตัวนี้ให้เราแล้วทำไมเราถึงไม่กลัว แต่เราก็ไม่ได้สื่อถึงเรื่องความกลัวแต่เราสื่อไปถึงเรื่องที่ว่าเราเป็นเด็กที่เป็นลูกคนที่สองซึ่งเราจะมีพี่สาวที่ห่างกว่าเรา 5 ปี พี่สาวเราจะเป็นคนที่มีบุคลิกผู้หญิงจริงๆ จะออกสวยๆ หน่อย ในขณะที่เราอ้วนๆ หน้าบึ้ง ไม่ค่อยมีใครเอ็นดูเท่าไหร่เมื่อเทียบกับพี่ เราก็เลยพยายามไม่อยากเป็นคนสวย ไม่อยากแต่งตัวสวย เพราะรู้ว่าถ้าทำจะไม่ชนะในสายนั้น (หัวเราะ)

งั้นเราเลยไม่แต่งสวยดีกว่า เลยชอบแต่งตัวสไตล์เด็กผู้ชาย และได้ของเล่นอะไรแปลกๆ จะไม่ได้ตุ๊กตาสวยๆ แบบที่พี่เล่น เราเลยบิดมุมนั้นของเราในวัยเด็ก เพื่อมาสื่อสารว่าเราก็สามารถสวยในแบบที่เราเป็นได้

รูปนั้นชื่อว่า “จระเข้แสนสวย” ซึ่งมันก็ดูสวยแบบไหนก็ได้แบบที่เราจะเป็น

4.พร็อพในงานที่อยู่คู่กับภาพวาดแต่ละชิ้นเป็นของจริงทั้งหมดเลยหรือเปล่า?

มุนินฺ : ของจริงในงานจะมีบางชิ้น เช่น ตุ๊กตาหมา ในรูปที่เป็นเด็กผู้หญิงกอดตุ๊กตาหมาอยู่ ชื่อภาพว่า “คนสนิท” อันนั้นคือตุ๊กตาของเด็กคนนั้นจริงๆ

แต่จริงๆ แล้วตัวที่เขาสนิทจริงๆ จะเป็นอีกตัว แต่เขาสนิทมากจนไม่ยอมให้มาจัดในนิทรรศการ (หัวเราะ) เราเลยได้ตัวที่สนิทรองลงมาแทน ซึ่งหากมาชมแล้วแต่ละคนน่าจะได้คิดถึงตัวเองกับของที่ตัวเองเคยเล่น

ส่วนพร็อพชิ้นอื่นๆ ที่เหลือจะเป็นพร็อพที่เราหามาเพิ่มที่จะมาช่วยเสริมสตอรี่นั้นๆ

 

5.คิดว่าคนดูแล้วจะได้อะไรกลับไปจาก จิ๋วจิ๋ว

มุนินฺ : ส่วนตัวคิดว่าการได้มาเดิน ได้สัมผัส ได้เล่นอะไรที่เราเคยเล่นตอนเด็ก ทำให้คิดถึงตัวเองตอนนั้น มันทำให้เราคิดว่าตอนนั้นเราเป็นเด็กแบบไหนแล้วตอนนี้เราโตมายังมีสิ่งไหนเชื่อมโยงกับตัวเราในตอนเด็กอยู่รึเปล่า เราเชื่อกับสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น หรือถูกหล่อหลอมไว้ในตอนเด็กๆ ว่ามันฝังลึกและอยู่นานจนเกือบจะเป็นครึ่งหนึ่งของตัวตนเราทั้งหมดที่โตขึ้นมา

อย่างพี่เป็นนักเขียนการ์ตูนเมื่อมองย้อนกลับไปก็จะเห็นว่าเราชอบวาดภาพจริงๆ ตอนเด็กๆ เราจะอยู่กับหนังสือการ์ตูนตลอด มันทำให้เรากลายมาเป็นคนๆ นี้ในวันนี้ อยากให้ดูว่าตอนเราเป็นเด็ก เราเป็นเด็กแบบไหน ตอนเด็กเราชอบทำอะไร มีความสุขกับอะไร ลองทบทวนดูว่าตอนนี้เราได้ทำสิ่งนั้นอยู่หรือเปล่าหรือมันได้มีส่วนทำให้เราเป็นคนอย่างทุกวันนี้หรือเปล่า

แล้วคุณล่ะ เมื่อสิบ, ยี่สิบ หรือสามสิบปีที่แล้ว…คุณเคยเป็นเด็กแบบไหน? : )

 

‘จิ๋วจิ๋ว’ นิทรรศการครั้งแรกของ มุนินฺ