“โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเรามาแต่งงานกัน สัญญานะ” ความรักวัยเด็กแสนงดงามกลับกลายเป็นต้นกำเนิดของคำสาประดับสูงสุดแข็งแกร่ง เมื่ออคคทสึ ยูตะ เสียเพื่อนรักอย่างโอริโมโตะ ริกะไปต่อหน้าต่อตาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ริกะกลายเป็นวิญญาณแค้นต้องสาปคอยตามติด อาละวาดทำร้ายทุกคนที่เข้ามารังแกยูตะ เป็นเหตุให้เขาต้องโดดเดี่ยว จมกับความทุกข์ทรมานจนอยากทิ้งชีวิต หนีปัญหาไปให้พ้นๆ แต่แล้วโกะโจ ซาโตรุ ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พายูตะเข้าสู่โรงเรียนไสยเวทเพื่อเรียนรู้วิธีการควบคุมพลัง และหาหนทางปลดปล่อยริกะให้สำเร็จ ภารกิจปัดเป่าคำสาปของผู้ใช้ไสยเวทระดับพิเศษมือใหม่จึงได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับภัยร้ายที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาปกคลุมนครโตเกียว
ช่วงเวลาเกือบสองชั่วโมง เรามองเห็นเส้นทางความพยายามสุดกำลังของยูตะ เด็กชายผู้โดดเดี่ยวที่ดูคล้ายว่าจะไม่มีเป้าหมายใด ด้วยความซื่อ ท่าทีเงอะงะ หวาดระแวงกับทุกสิ่งรอบตัว ดูไปก็ลุ้นไป อดที่จะคอยเป็นกำลังใจ คอยเอาใจช่วยไม่ได้ และในขณะที่เฝ้ามองยูตะเติบโต ก็ได้ทำความรู้จักตัวละครรอบข้างไปด้วย ภูมิหลังที่ค่อย ๆ เผยมาทีละนิด ฉากเล็กน้อยที่ใส่เข้ามาล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่ยึดโยงแต่ละตัวละครเอาไว้ จนรู้สึกอินกับมิตรภาพ และความผูกพันระหว่างตัวละคร
สนุกตื่นเต้น ลุ้นกับเรื่องราวที่น่าติดตาม ประทับใจความสัมพันธ์ ซ้ำยังมีมุกตลกสอดแทรกมาให้ได้หัวเราะอยู่เรื่อย ๆ เรียกได้ว่าหลากหลายอารมณ์ กลมกล่อมครบทุกรสชาติ น่าเสียดายเล็กน้อยที่การดำเนินเรื่องบางช่วงเนิบนาบจนรู้สึกว่านิ่งไปสักหน่อย กลับกันบางช่วงก็ไวไปสักนิด ถ้ามีเวลาในการเล่ามากกว่านี้ ขยี้จังหวะสะเทือนอารมณ์เพิ่มเติม คาดว่าน่าจะได้ลุ้นจนไม่ติดเก้าอี้ หรือเสียน้ำตาให้กับหลายฉากหลายตอน
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากในเรื่อง ขอยกให้กับงานภาพสุดโหด ประกอบกับจังหวะการเล่าและมุมภาพที่มีส่วนช่วยส่งเสริมกันเป็นอย่างดี การันตีด้วยชื่อสตูดิโอ MAPPA ที่เคยฝากผลงานคุณภาพไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวของเหล่าคำสาปสุดสะพรึงเห็นแล้วชวนขนลุกขนพอง สัมผัสได้ถึงความอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง หรือภาพย้อนอดีตวัยเยาว์ก็แสนอบอุ่นนุ่มฟู มีแต่มวลความสุขลอยฟุ้งในอากาศ
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยต้องเป็นขบวนฉากแอ็คชันที่จัดมาให้แบบจุใจ ลุกมาจากโรงภาพยนตร์แล้วก็ยังติดตราตรึงใจไม่หาย นอกจากก๊วนเด็กปีหนึ่งจะได้แสดงฝีมือ ยังยกทัพตัวละครในเรื่องที่หลายคนโปรดปรานมาวาดลวดลายการต่อสู้เฉพาะตัวให้หายคิดถึง ต่อเนื่องลื่นไหล บู๊กันแบบวิต่อวิ รับประกันความตื่นเต้นเร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบ
ใครที่ไม่เคยติดตาม Jujutsu Kaisen มาก่อน สามารถเปิดประตูสู่โลกของผู้ใช้ไสยเวทกับ Jujutsu Kaisen: Zero ได้เลย เพราะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องอ่าน หรือดูอนิเมะมาก่อนก็สามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับเรื่องนี้ได้ เพียงแค่อาจจะมีคำศัพท์มากมายที่ชวนให้ขมวดคิ้ว ฟังดูแล้วงง ๆ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาถึงขั้นกลบอรรถรสของเรื่องไป
และสำหรับแฟนตัวยงที่เคยอ่านมาแล้ว ถึงเนื้อเรื่องจะถอดแบบมาจากมังงะเล่ม 0 แต่ก็ยังสนุกเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ บอกได้เลยว่างานนี้มี Surprise! เตรียมเก็บความประทับใจในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว แสงสีเสียงอลังการกันได้เลย คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน กระซิบว่าดูจบแล้วอย่าเพิ่งรีบลุกไปไหน หลังดื่มด่ำกับเพลงประกอบมี End Credit รออยู่!
แท้จริงความรักเป็นคำสาป หรือพลังอันยิ่งใหญ่กันแน่ ร่วมผจญภัยไปในโลกของผู้ใช้ไสยเวท และหาคำตอบของคำถามนี้ได้ใน Jujutsu Kaisen: Zero กำหนดฉาย 23 มิถุนายนนี้ในโรงภาพยนตร์
#JAM #MPICTURES #JapanAnimeMovieThailand #มหาเวทย์ผนึกมารซีโร่ #JUJUTSUKAISENZERO #JujutsuKaisen0TH #JujutsuKaisen0 #Jujutsukaisen