ช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัย หลายคนคงผ่านการฝึกงานกันมาบ้างใช่ไหมล่ะ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้มาใช้ชีวิตในฐานะเด็กฝึกงานที่ Mango Zero เป็นเวลาถึง 3 เดือนเต็ม! ใครกำลังลังเลหาที่ฝึกงานอยู่ ถ้าไม่เข้ามาอ่านระวังจะพลาดของดีนะ สวัสดีค่ะ เราชื่อมายด์ มาจากภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 4 วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ฝึกงานในฐานะ Content Creator ประจำ The Zero Junior รุ่นที่ 4 ให้ทุกคนได้รู้กัน เพราะหลายคนคงสงสัยใช่ไหมล่ะ ว่าการฝึกงานในตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง บรรยากาศเป็นยังไง เอาล่ะ เตรียมขนมมากินแกล้มและฟังเราโม้ยาวๆ ไปเลย! บรรยากาศการทำงาน อย่างที่บอกว่าเรามาฝึกงานฝ่าย Content Creator หลายคนคงคิดว่าเราจะต้องนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมจนเป็นออฟฟิศซินโดรมใช่ไหม? ข้อนี้ขอตอบว่าใช่ค่ะ แต่! การทำงานที่นี่ไม่ได้มีแค่นั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าคอมรอเวลาพักกลางวันอย่างเดียว เพราะทุกคนจะลุกไปหาแรงบันดาลใจเพื่อจุดประกายความคิดในการเขียนคอนเทนต์ ไม่ว่าจะลุกไปทักทายเพื่อนโต๊ะอื่น เดินแจกขนม ตีปิงปอง เล่นสนุกเกอร์ และถ้าถามว่าอะไรที่เครียดสุดในการทำงาน ก็คงเป็น “วันนี้กินอะไรดี” มากกว่า… ทีนี้ก็พอจะรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าบรรยากาศการทำงานที่นี่เป็นยังไง ที่นี่ทุกคนอยู่กันเหมือนพี่น้องเลยค่ะ ใครจะออกไปซื้อของกินก็มาชวนกันไป แถมวันไหนเป็นวันเกิดใครพี่ๆ เขาก็จะจัดเซอร์ไพรส์โดยการซื้อขนมมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ข้อดีตรงนี้คือทุกๆ คนก็จะได้กินขนมฟรีนั่นเอง เย่ และด้วยความที่เป็นออฟฟิศที่ไม่เหมือนออฟฟิศเท่าไหร่ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทำให้การทำงานในแต่ละวันไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ทุกวันที่ไปทำงานเรียกได้ว่าเหมือนอยู่เกสท์เฮ้าส์มากกว่าออฟฟิศซะอีก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น! มาพูดถึงบรรยากาศการทำงานกันบ้างดีกว่า เพราะเรามาฝึกเป็น Content Creator งานเลยไม่ได้เครียดมาก แถมยังมีพี่ๆ ทุกคนคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตลอด พี่ๆ ให้โอกาสเราได้เสนอความคิดเท่าๆ กันหมดเสมอ แถมตั้งใจฟังเราจริงๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่าเราเป็นแค่เด็กฝึกงาน ปกติเราเป็นคนค่อนข้างพูดน้อยกับคนที่ไม่ค่อยสนิท แต่พอมาอยู่ที่นี่ก็กลายเป็นคนที่ดูพูดเยอะกว่าปกติเฉยเลย เพราะความที่พี่ๆ และเพื่อนๆ ค่อนข้างเป็นกันเองมากเลยทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาทำงานหรือเวลาที่ต้องคุยเล่นด้วย และไม่ต้องห่วงว่าทำงานที่นี่แล้วจะเครียด เพราะบางทีพี่ๆ ก็จะมีวงดนตรี ตี้บอร์ดเกมส์ให้เลือกจอยกันได้ตามความชอบ แค่ฟังก็สนุกแล้วใช่ไหมล่ะ หน้าที่อันยิ่งใหญ่ มาถึงด้านหน้าที่กันบ้าง แน่นอนว่ามาฝึกคอนเทนต์ สิ่งที่ได้รับมอบหมายหลักๆ เลยก็คือการคิดและเขียนคอนเทนต์ออกมา โดยในแต่ละวันจะมีการประชุมแมงโก้ เพื่อเป็นการสรุปประเด็นสำคัญประจำวัน และมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนในทีม ซึ่งเราค่อนข้างประทับใจการประชุมมาก เพราะที่นี่โต๊ะประชุมไม่ใช่สถานที่แต่เป็นผู้คน เราสามารถมูฟไปได้ทุกที่ๆ อยากประชุม ทั้งโต๊ะสนุกเกอร์ หรือแม้แต่การยืนประชุมล้อมอยู่ที่โต๊ะใครสักคน กระบวนการทำงานหลักๆ คือ เมื่อเรามีหัวข้อเสนอไปกลางวงแล้ว พี่ๆ ก็จะช่วยตบหัวข้อ เสนอแนวทางให้เพิ่มเติม ตรงนี้ถือว่าเราได้เปิดกว้างและมีอิสระทางความคิดสร้างสรรค์มาก พี่ๆ ไม่ปิดกั้นเลย เป็นอารมณ์แบบ “อันนี้น่าสนใจ ดี น่าสนุก ทำเลย! ” พอเราเขียนเสร็จก็จะส่งต่อให้กราฟิกทำรูปประกอบต่อ ซึ่งรูปเนี่ยเราก็ออกแบบได้ฟรีสไตล์มากๆ บางคอนเทนค์เรียกได้ว่าเขียนเอง ถ่ายเอง แสดงเองหมดเลย และมันดีมากๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราก็ไม่คิดว่าจะได้ทำ และคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ แน่ นอกจากการคิดคอนเทนต์ อยู่ที่นี่ยังได้เพิ่มพูนซูเปอร์มัลติสกิลรอบด้านมากๆ ที่สนุกคือเวลาได้ออกไปข้างนอกไปทำข่าว ทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวอาหาร หรือทำข่าวเปิดตัวสินค้าต่างๆ หรือแม้กระทั่งงานอีเวนต์ แมงโก้เองก็ได้จัดงาน Idol Festival ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว งานนี้เราก็ได้มีบทบาทในการเป็น AR หรือผู้ช่วยดูแลศิลปินนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีออกกอง รับจ๊อบเป็นฝ่าย Makeup & Hair และ Costume นอกเหนือจากนี้ก็มีงานยิบย่อยอย่างได้ลองอัดพอดแคสต์ ออกหน้ากล้องมากขึ้น คือได้ทำเองทุกกระบวนการ ใครจะคิดว่ามาฝึกสายคอนเทนต์จะได้ลองทำงานอะไรแบบนี้ใช่ไหมล่ะคะ สมกับเป็นบริษัทสื่อยุคใหม่ เพราะทำครบแทบจะทุกอย่างแล้วจริงๆ โปรเจกต์ของเหล่าแมงโก้จูเนียร์ และแล้วก็มาถึงส่วนที่ค่อนข้างเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา เพราะเหล่าเด็กฝึกงานจะต้องทำโปรเจกต์ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน มีทั้งเจ้าปาล์ม ฝ่ายคอนเทนต์อีกคน เจ้านุ กราฟิก และเจ้าฟิ ตัดต่อวิดีโอ ซึ่งแน่นอนว่าเหมือนการทำงานกลุ่มขึ้นมาโปรเจกต์นึงเลยค่ะ อันนี้เราจะได้ทำเองตั้งแต่คิดหัวข้อ วางแผน ลงมือทำ โดยมีพี่ๆ เมนเทอร์ที่คอยไกด์และให้คำแนะนำต่างๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงพี่ๆ คนอื่นด้วย กว่างานจะออกมาสักชิ้น เรียกว่าปรึกษาแทบทั้งบริษัท มีวันนี้ได้เพราะพี่ๆ เลย! ถึงการทำโปรเจกต์สำหรับเราจะยังรู้สึกว่ามีปัญหาอยู่มากมาย อาจเป็นเพราะเราเองก็อ่อนประสบการณ์ด้วย ต้องยอมรับเลยว่าไม่เคยต้องเป็นแม่ทัพขนาดนี้ แต่พอมองย้อนกลับไปมันกลายเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ยิ่งเราเจอปัญหาตรงนั้น บวกกับได้รับฟังคำแนะนำของพี่ๆ อยู่ตลอด มันทำให้เราเข้าใจปัญหาและวิธีแก้มากขึ้น พอมองดูตัวเองตอนนี้ เรากลายเป็นคนที่กล้าเสนอความเห็น กล้าวางแผนมากขึ้น บางทีก็หยิบเอาข้อผิดพลาดและเทคนิคที่พี่ๆ เคยแนะนำมาใช้ได้อีกด้วย เรียกง่ายๆ คือได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นจริงๆ ค่ะ อาจจะไม่มากมายขนาดนั้น แต่รู้สึกขอบคุณจากใจเลยนะคะ สุดท้ายอยากฝากถึงพี่ๆ ทุกคนว่าขอบคุณที่ให้โอกาสได้มาฝึกงานที่นี่ หนูได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเยอะมากๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่จะไม่ลืมแน่นอนค่ะ แล้วก็ขอบคุณนะคะที่กล้าที่จะสอนหนู (เอ๊ะ) คอยให้คำแนะนำ คอยดูแล มาคุยมาเล่นด้วยกัน ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาทุกคนมีส่วนช่วยให้หนูเติบโตมากขึ้นจริงๆ ค่ะ รักพี่ๆ ทุกคนนะคะ ถ้ามีโอกาสอาจจะเห็นชื่อหนูในเว็บเครือ The Zero นะคะ!