“โห ทำไมถ่ายภาพสวยจัง เขาใช้กล้องอะไรกันนะ?” ระหว่างที่เลื่อนฟีดในอินสตาแกรมก็เกิดคำถามนี้ขึ้นมาในใจผู้เขียนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นดาราเซเลบ ก็เห็นไอจีหลายคนมักมีภาพสวยๆ คมๆ มาแชร์กันบ่อยๆ จนสุดท้ายได้คำตอบว่า ไม่ใช้กล้อง DSLR ก็มักจะเป็นกล้องมิเรอร์เลสถ่ายกัน ประจวบเหมาะกับผู้เขียนได้กล้อง Canon EOS M6 มาลองใช้ แถมเขาว่ากันว่า เป็นกล้องมิเรอร์เลสที่สเปคพอๆ กับกล้อง DSLR เลยนะ และด้วยความที่ไม่ได้เชี่ยวเรื่องกล้องนัก ก็แอบกังวลอยู่นิดๆ ว่าจะใช้งานยากรึเปล่า? แต่พอได้ลองใช้ลองถ่ายแล้ว กลับรู้สึกว่าใช้งานง่ายมากเลยค่ะ แถมมีโหมดถ่ายรูปให้ใช้เพียบเลย มาดูที่สเปคกันก่อน… ขนาด 112x68x44.5 มม. น้ำหนัก 390 กรัม มาพร้อมเลนส์ Kit 16 – 45 mm เซ็นเซอร์เป็น APS-C CMOS ความละเอียดภาพ 24.2 ล้านพิกเซล หน่วยประมวลผลภาพ DIGIC 7 มีระบบกันสั่นในตัวกล้องแบบ 5 แกน ถ่ายวิดีโอในระบบ Full HD ความอึดของแบตเตอรี่ถ่ายภาพนิ่งได้ 295 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ความอึดของแบตเตอรี่ถ่ายวีดีโอ 85 นาที ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับ WiFi บลูทูธและ NFC ได้ มีโหมดถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ ,ถ่ายวิดีโอ ,โหมดปรับค่าด้วยตัวเอง และที่เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือเพื่อความใช้ง่ายสุดๆ ในฟังก์ชั่น SCN จะมีโหมดถ่ายภาพต่างๆ ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพอาหาร ถ่ายภาพกีฬา ถ่ายมาโคร ถ่ายในที่แสงน้อย ถ่ายวิว และอีกหลายโหมดที่จำเป็นค่ะ จอดูภาพแบบทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว สามารถปรับระดับได้ 180 องศา ไว้ถ่ายเซลฟี่ตัวเองได้ หรือถ้าใครจะต้องถ่ายช้อน ถ่ายมุมเสย ก็สามารถพับจอลงมาได้ 45 องศาค่ะ ถ่ายภาพบุคคล มาดูที่โหมดถ่ายภาพบุคคลกันก่อนเลย แน่นอนว่าเป็นโหมดยอดฮิตที่หลายคนใช้ ผู้เขียนเลือกใช้ฟังก์ชั่น SCN และเลือกถ่ายภาพบุคคลจากนั้นก็ใช้มือหมุนปรับโฟกัสภาพทำให้ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบที่ต้องการเลย ถ่ายเซลฟี่ มาที่การถ่ายภาพเซลฟี่ที่สาวๆ ชอบสุด รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย อยากจะให้หลังละลายขนาดไหนเราก็ปรับได้เลย ซึ่งสีภาพที่ออกมาค่อนข้างเรียลแต่ยังดูนวลตา พร้อมอัปลงโซเชียลแบบไม่ต้องแต่งสีภาพเพิ่มได้เลยนะ ถ่ายระยะใกล้หรือมาโคร พอมาดูที่การถ่ายแบบมาโคร เราสามารถปรับความเบลอ ละลายหลังได้ตามต้องการ แถมความชัดนี่เห็นยันกลีบดอกดาวเรืองเลย ถ่ายภาพอาหาร อย่างที่บอกว่าในฟังก์ชั่น SCN มีโหมดสำหรับถ่ายภาพอาหาร ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องปรับเยอะ ก็ได้ความมันเงาของอาหารเหมือนที่ตาเห็นเลยค่ะ เมื่อทดลองซูมเข้าไปที่อาหารแล้วถ่ายภาพในโหมดถ่ายอาหาร ก็จะเห็นรายละเอียดดีเทลที่ชัดเจนดีค่ะ ทั้งแสงเงา ความมัน ความสดของเนื้อ เป็นโหมดที่ได้ภาพสวยงามน่าทานมากๆ เลยค่ะ ถ่ายวิว มาที่โหมดถ่ายวิวหรือ landscape ในช่วงที่ถ่ายเป็นตอนเที่ยงพอดี แสงอาจจะแข็งหน่อย แต่ถ้าดูที่ความชัด ถือว่าคมชัดมากเก็บตึก ท้องฟ้าได้ครบ ลองถ่ายวิวภายในอาคาร สังเกตุได้ว่าความคมออกมาชัดเจนดีค่ะ โครงสร้างต่างๆ เห็นเป็นเส้นสายที่ชัดเจน รวมถึงสีและแสงไม่เพี้ยน ซึ่งการถ่ายในอาคารมักจะมีแสงสีที่หลากหลาย ชอบที่ถ่ายง่ายด้วยค่ะ ไม่ต้องปรับอะไรมาก ถ่ายกลางคืน ลองไปถ่ายในร้านอาหารที่จัดโคมไฟสลัวๆ ปรากฎว่าได้ภาพที่ดูคมชัดและชดเชยแสงได้ดีเลยล่ะ ทดลองถ่ายภาพสัตว์เช่นน้องแมว ด้วยกล้องที่เล็กทำให้ถ่ายได้ง่าย พกพาสะดวก หยิบขึ้นมาแล้วน้องแมวไม่ตกใจมาก (ฮา) ที่สำคัญคือภาพสวยมากเลยค่ะ เห็นหนวดน้องแมวเป็นเส้นๆ ชัดเจนมากเลย :: สรุป :: ข้อดี กล้องขนาดเล็ก พกพาสะดวกมากๆ จอสัมผัส และปรับขึ้นมาถ่าย Selfie ได้ด้วย มีปุ่มให้ปรับได้เยอะเลย ไม่ว่าจะเป็น ISO, White Balance, ค่าความสว่าง +- ภาพสีสวยงามตามธรรมชาติ เน้นความคมชัด และจัดการเรื่องถ่ายภาพแสงน้อยได้ดี ข้อสังเกตุ ยังมีเลนส์ให้เลือกไม่มากนัก แต่เลนส์ Kit ที่แถมมาด้วย ก็คุณภาพดี ด้วยขนาดกล้องที่เล็กมาก แม้จะพกพาสะดวก แต่คนมือใหญ่อาจจะจับไม่ถนัดมากนัก หลังจากที่ได้ทดสอบกล้อง Canon M6 มาตลอด 2 สัปดาห์ พบว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่ใช้งานง่ายม๊ากกกก ง่ายใกล้เคียงกับกล้อง Compact เลยค่ะ แต่คุณภาพใกล้เคียงกับกล่อง DSLR ราคาแพงๆ เลย โดยเฉพาะเรื่องของภาพที่ได้ออกมา สวยคม สีเป็นธรรมชาติกำลังดี ส่วนที่ชอบสุดคือเป็นกล้องขนาดกลางที่ดีไซน์สวยน่าใช้ เล็กจับเข้ามือผู้หญิงอย่างไอซ์ แถมตัวจอยังเป็นระบบสัมผัส พับขึ้นมาถ่าย Selfie ได้ด้วย พอถ่ายเสร็จก็ส่งผ่าน WiFi เข้ามือถือ โพสต์แชร์ลง Social ได้เลย ไม่ต้องมารอเสียบการ์ดเข้าๆ ออกๆ สำหรับราคาก็ถือว่าอยู่ระดับกลางๆ ไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป เหมาะกับคนที่กำลังมองหากล้องที่มีประสิทธิภาพดีๆ ได้ภาพสวยงามแบบมืออาชีพ แต่ไม่อยากจ่ายแพงๆ ซื้อกล้องตัวใหญ่ Canon M6 ก็ถือว่าตอบโจทย์และพกพาสะดวกมากเลยค่ะ เลือกซื้อกล้องได้ ที่นี่