[7/10] : รีวิว ‘บุปผาราตรี เกือบจะมิวสิคัล’

ผีบุปผามาในเวอร์ชั่นใหม่ ไม่น่ากลัว แต่ชัวร์ว่าน่ารัก

เนื้อเรื่องคล้ายบุปผาภาค 3 แต่น่ารักกว่า

บุปผาราตรี เวอร์ชั่นละครเวทีก็ยังคงเกิดขึ้นในอพาร์ทเมนต์ที่ชื่อ ‘ออสการ์’ ส่วนแกนเรื่องเล่าถึงผีสาวบุปผา ซึ่งเสียชีวิตจากการตกเลือดเพราะไปทำแท้งค์มาเนื่องจากท้องกับ ‘เอกพล’ คนรักที่ทิ้งเธอไป

ด้วยความที่ฝังใจกับรักแรก บุปผาแม้จะตายไปแล้วแต่ยังเฝ้ารอการกลับมาของเอกพล ตลอดเวลาไม่ยอมไปจากห้อง 609 ที่เธออยู่เป็นผีเฝ้าอพาร์ทเม้นต์ จนกระทั่งมี ‘หรั่ง’ นักเขียนนิยายรัก (ถ้าในหนังเป็นนักเขียนการ์ตูนผี) โผล่มาข้างห้องและหลงรักเธอโดยไม่รู้ว่าเขารักผี เรื่องวุ่นๆ เลยเกิดขึ้น

ตัวละครเดิมเสริมด้วยตัวละครใหม่มาสร้างสีสัน

บุปผาราตรี เวอร์ชั่นนี้มีตัวละครหลักที่โผล่มาคือ

• บุปผา (หนูนา หนึ่งธิดา) ผีสาวน่ารักที่ไม่ได้อยากจะไปทำร้ายใครก่อนเลย กระทั่งตัวเองเป็นฝ่ายถูกเล่นก่อน เลยไปเอาคืน
• เจ๊สี่ เจ้าของออสการ์อพาร์ทเมนต์ ตัวละครหลักของเรื่องที่พยายามจะเอาศพบุปผาไปจากอพาร์ทเมนต์จนทำให้ผีสาวโกรธ
• เอกพล (แดน วรเวช) แฟนเก่าของบุปผา ต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องตาย
• หรั่ง (แดน วรเวช…รับบทซ้ำนั่นเอง) ว่าที่คนรักใหม่ของบุปผาที่บังเอิญมาเช่าอยู่ห้องข้างๆ เพื่อจะเขียนนิยายรักแต่ดันมาเจอรักของตัวเองซะก่อน

ส่วนตัวละครใหม่ที่โผล่มานั้นก็เข้ามาสร้างสีสัน และยังเอาสถานการณ์ปัจจุบันมาปั่นผสมรวมกันจนเกิดเป็นตัวละครเพี้ยนๆ ในเรื่อง มีทั้งล้อเหตุบ้านการเมือง และล้อกระแส BNK48 ใครที่โอชิ เฌอปราง และอร น่าจะชอบสองตัวละครนี้

เพลงและแสงสีคือความโดดเด่น

ความน่าสนใจและน่าจะเป็นเอกลักษณ์ของบุปผาราตรี เวอร์ชั่นนี้ที่เราเห็นว่าน่าชื่นชมมากเลยมีอยู่สองเรื่องคือ

• เพลง : แม้จะออกตัวว่าเป็นละครเวทีที่เกือบจะเป็นมิวสิคัลก็จริง แต่เพลงในเรื่องนั้นก็สนุกมาก และดีมาก ยิ่งทุกเพลงที่หนูนาร้อง บอกได้เลยว่าดีงาม! ซึ่งพอมีเพลงมาเสริม ก็ยิ่งทำให้บุปผาราตรี เวอร์ชั่นนี้น่ารักมากกว่ารู้สึกว่าจะน่ากลัว แม้จะมีฉากหลอนสยองขวัญ จั้มสแกร์ แต่เราก็ยังรู้สึกว่ายังน่ารักอยู่ดี
• สีสัน : ตั้งแต่เราเข้าไปในโรงละคร เราเห็นการจัดโทนสีและสร้างบรรยากาศของโรงละครให้มีความน่ากลัวตั้งแต่เริ่มก็เลยทำให้เราอิน ส่วนบนเวทีและระหว่างแสดงมีการเล่นกับสี แสง และฉากได้อย่างดีมาก เหมาะสมกับการที่เป็นละครเวทีเกี่ยวกับเรื่องผีๆ แสงสีมันต้องแบบนี้แหละ!

หนูนาคือที่สุด ส่วนแดนยังต้องเชียร์ต่อ

ต้องบอกเลยว่าบนเวทีคนที่โชว์พลังเสียงได้สมกับที่เป็นบทนำมากที่สุดก็คือ ‘หนูนา’ เสียงของเธอทรงพลัง และพอเล่นละครเวทียิ่งต้องแสดงพลังในการออกเสียงไปพร้อมกับท่วงทำนองที่เล่าเรื่องในสิ่งที่บุปผาได้เจอ ทั้งเรื่องสุขและทุกข์ ทุกจังหวะที่หนูนาแสดงและร้องเธอคุมทุกคนได้อยู่ หนูนา ออกมาทีเรา เราเชื่อว่าทุกคนจะตั้งใจอยู่ และรอฟังเสียงร้องของเธอ มีบางช่วงตอนที่เล่นเป็นผี เราแอบขำกับความน่ารักของผีสาว ทั้งที่ตอนนั้นเธอกำลังหลอกคนอยู่

ส่วนแดน ในบทของหรั่ง และเอก สำหรับการแสดงนั้นเราไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังแสดงละครเวที อาจจะด้วยเพราะเป็นละครเวทีเรื่องแรกในชีวิต ทำให้ยังไม่ชินกับการแสดงที่ต้องเล่นไปด้วย และร้องเพลงไปด้วย เรื่องพลังเสียงจึงยังไม่เท่าหนูนา ที่เจนเวทีกว่า ภาพรวมแล้วเรารู้สึกว่าแดนกำลังเล่นหนัง หรือเล่นละครมากกว่าแสดงละครเวที แต่เชื่อว่ารอบต่อๆ ไปเขาน่าจะมีเลเวลอัป

ให้คะแนน 7 เต็ม 10 เพราะว่าสนุกแต่ยังไม่สุด

ในทัศนะของเราบุปผาราตรี เวอร์ชั่นนี้สนุกระดับที่มาดูได้ แต่อาจจะไม่สุดในสักทางจะฮาก็เหมือนยังกั๊กๆ จะน่ากลัว ก็ยังไม่ใช่ มันยังมีความรู้สึกว่าสุดได้อีกกว่านั้น

อีกทั้งบางช่วงบางตอนเรารู้สึกว่าอืดไป ขณะที่ตัวละครบางตัวไม่ต้องมีมาก็ได้ถ้าจะมาเพื่อตบมุกนิดหน่อยแล้วก็ไปไม่มีฟังชั่นใดมากกว่านี้ มีแล้วเรื่องยืดก็เอาออกไปน่าจะเพลินขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยากดูละครเวทีแบบเน้นเฮฮา ตั้งใจที่เข้ามาขำเลย เราคิดว่าน่าจะได้รอยยิ้มกลับออกไปได้ไม่ยาก