“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” คือหนึ่งในเมนูยอดนิยมและเป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน เป็นเหมือนเพื่อนยามยากตอนที่ไม่ค่อยจะมีเงิน หรือบางทีเบื่ออาหารก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่แหละที่เป็นทางออก เพราะมีหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลองแบบไม่มีวันเบื่อ และรสชาติยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นรสหมูสับหรือต้มยำกุ้งที่เป็นรสชาติพื้นฐานของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อ
วันนี้เราจึงพลีชีพ ยอมสละไต 1 ข้าง เพื่อมาลองชิมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส “ต้มยำกุ้งน้ำข้น” 6 ยี่ห้อว่ามีรสชาติที่แตกต่างกันยังไง เส้นแต่ละเจ้าจะเหมือนกันไหม กลิ่นจะเป็นต้มยำกุ้งจริงรึเปล่า ซึ่งทุกยี่ห้อจะทำให้สุกด้วยการเทน้ำร้อนจัดและปิดฝารอเวลาตามที่แต่ละยี่ห้อกำหนดเหมือนๆ กัน ปะ เราเริ่มไปชิมกันเลยดีกว่าาาาา
ปล. นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะ แต่ละคนก็คงจะชอบรสชาติที่แตกต่างกันเนอะ ถ้าใครชอบของยี่ห้ออะไรก็มาเมนต์บอกกันได้น้าา หรือถ้ามียี่ห้ออื่นๆ แนะนำก็พิมพ์บอกโล้ด เดี๋ยวจะไปตำตาม อิอิ
1. มาม่า
เริ่มกันที่ยี่ห้อยอดฮิตอย่าง “มาม่า” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแห่งชาติ จากชื่อยี่ห้อก็กลายเป็นคำเรียกติดปากไปซะอย่างนั้น ซึ่งรสต้มยำกุ้งน้ำข้นของมาม่าถือเป็นตำนานและเป็นรสที่หลายๆ คนชื่นชอบ มีคำกล่าวหน้าซองว่า “มีธาตุเหล็กและวิตามินเอ”
เมื่อแกะซองมาเราก็จะเจอก้อนบะหมี่อัดมาเป็นสี่เหลี่ยมจัสตุรัส มีซองเครื่องปรุง 2 ซอง ซองแรกก็จะเป็นผงๆ มีต้นหอมอบแห้งนิดหน่อย อีกซองจะเป็นเหมือนน้ำพริกเผาค่อนข้างเกาะตัว (แอบติดซอง)
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 300 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 3 นาที ตามที่ในซองบอกเด๊ะๆ เลยนะ รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : เส้นนิ่มๆ ไม่เด้ง ไม่เหนียวนุ่ม หากทิ้งไว้นานคือเส้นจะนิ่มจนเละเลย
น้ำซุป : รสชาติหวานๆ เค็มๆ ไม่ค่อยเผ็ด ไม่ค่อยเปรี้ยว แต่รสชาติจะกลมกล่อม น้ำซุปคล้ายน้ำใสเหมือนมีความครีมเพิ่มเข้ามานิดหน่อย กลิ่นดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยกัน จะไม่ได้มีกลิ่นกุ้งหรือกลิ่นน้ำพริกเผาที่หอมโดดออกมา
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 6 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 55 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 260 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,270 มิลลิกรัม (64%)
2. ยำยำจัมโบ้
ยี่ห้อต่อมาก็คือ “ยำยำ” เป็นรุ่นจัมโบ้ที่ทำออกมาหลากหลายรสชาติพอๆ กับมาม่าเลย โดยมีคำกล่าวหน้าซองว่า “ทำจากกุ้งแท้ๆ แซ่บถึงเครื่องต้มยำ”
ซองของยำยำจะแตกต่างจากยี่ห้ออื่นตรงที่จะพิมพ์ข้อความเป็นซองแนวนอน พลาสติกที่ใช้ก็จะเป็นพลาสติกนิ่มๆ ไม่ได้เป็นลักษณะฟรอยด์ๆ เหมือนเจ้าอื่น พอแกะซองปุ๊บก็จะเจอก้อนบะหมี่ขนาดสี่เหลี่ยมที่เป็นผืนผ้าหน่อยๆ มีซองเครื่องปรุง 2 ซองเช่นกัน ซองแรกจะเป็นผงมีผักเล็กน้อย อีกซองเป็นน้ำพริกเผาแต่สีอ่อน ออกส้มมากกว่าแดง และค่อนข้างเกาะซองพลาสติกตอนเท
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 300 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 3 นาที ตามที่ในซองบอกเด๊ะๆ เลยนะ รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : เส้นไม่นิ่มมาก มีความเหนียวเด้ง ทิ้งไว้นานๆ ไม่นิ่มไม่เละ คงความเด้งได้ดีมาก ลักษณะเส้นจะเล็กสุดในบรรดาทั้งหมด
น้ำซุป : หอมกุ้ง และมีกลิ่นนม(หรือครีม) รสชาติเปรี้ยวหวาน ไม่ค่อยเผ็ด น้ำมีความเป็นนมๆ แต่ก็ไม่ค่อยข้น
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 6 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 63 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 290 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,680 มิลลิกรัม (84%)
3. นิชชิน Thai Signature
ยี่ห้อนี้เป็นหนึ่งในดวงใจของเราเลย เพราะว่าชอบเส้นของ “นิชชิน” มากกกก เพราะเหนียวนุ่ม แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ แต่รุ่นนี้มีความพิเศษเพราะเป็น “นิชชิน Thai Signature” ที่ทำออกมาเน้นรสชาติไทยๆ ซองมีความหรูหรามาก ดูดีและมีคำกล่าวหน้าซองว่า “แบบซุป เปรี้ยวแซ่บ เข้มข้น”
อย่างที่บอกว่าซองดูดี เป็นสีดำตัดแดง แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ พอแกะซองก็จะเจอก้อนบะหมี่กลมๆ ตามสไตล์นิชชิน มีเครื่องปรุง 2 ซอง ซองแรกจะเป็นผงปริมาณเยอะกว่ายี่ห้ออื่นๆ อีกซองจะเป็นน้ำพริกเผาที่ข้นมาก เทออกจากซองยากสุดๆ ส่วนใหญ่จะเกาะซองมากกว่ามาอยู่ที่ชามอีก ฮ่าๆๆ
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 400 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 4 นาที ตามที่ในซองบอกเด๊ะๆ เลยนะ (จริงๆ อันนี้เขาบอกให้ต้ม แต่เรากลัววิธีทำมันจะไม่เหมือนยี่ห้ออื่นเลยเทน้ำร้อนแทน) รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : แตกต่างจากเส้นนิชชินปกติ เส้นดูใหญ่กว่าทุกทีแต่ก็ยังมีความนุ่มเหนียวตามสไตล์ หากทิ้งไว้นานก็แอบนิ่มอยู่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวชอบเส้นของนิชชินแบบปกติที่ไม่ใช่อันนี้มากกว่า
น้ำซุป : รสชาติหวานนำมาเลย มีเผ็ดๆ ติดปลายลิ้น มีกลิ่นหอมของกุ้งและน้ำพริกเผา น้ำจะใสๆ หน่อย ไม่ค่อยมีนมหรือครีมเท่าไหร่ แต่จะเห็นว่ามีน้ำพริกเผาลอยปิดหน้าพอสมควร
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 10 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 72 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 330 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,720 มิลลิกรัม (72%)
4. ยำยำสูตรเด็ด
ยี่ห้อนี้ก็คือ “ยำยำ” เช่นกัน แต่จะมีความแตกต่างจากอันแรกตรงที่อันนี้จะเป็น “ยำยำสูตรเด็ด” ที่เขาพัฒนาขึ้นมาใหม่ มีการปรับเปลี่ยนเส้นให้ใหญ่ขึ้น คล้ายบะหมี่ของเกาหลีประมาณนั้น ซองก็ดูหรูหราเหมือนกัน เป็นสีทอง มีคำกล่าวหน้าซอง “เส้นใหญ่ เหนียวนุ่ม แซ่บแบบไทยๆ”
เมื่อเราแกะซองมาก็จะเจอกับก้อนบะหมี่ขนาดใหญ่ เป็นสี่เหลี่ยมเกือบๆ ผืนผ้า เส้นดูหนาและใหญ่ มีเครื่องปรุง 2 ซอง ซองแรกเป็นผงสีออกส้มๆ ค่อนข้างละเอียดและเยอะ ส่วนอีกซองจะเป็นน้ำพริกเผาที่เหลวมาก ทำให้เทง่ายสุดๆ แทบจะไม่มีติดขอบๆ ซองเลย
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 400 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 5 นาที ตามที่ในซองบอกเด๊ะๆ เลยนะ (จริงๆ อันนี้เขาก็บอกให้ต้มเหมือนกัน แต่เรากลัววิธีทำมันจะไม่เหมือนยี่ห้ออื่นเลยเทน้ำร้อนแทน) รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : เส้นใหญ่สมตามที่บอกไว้หน้าซอง มีความเหนียวนุ่ม เด้งๆ อาจยังแข็งๆ คล้ายๆ ว่ายังสุกไม่เต็มที่ ถ้าจะให้ดีต้มน่าจะเวิร์กกว่า
น้ำซุป : น้ำซุปใสจ๋องเลย ไม่ค่อยเหมือนน้ำข้นเท่าไหร่ เพราะดูไม่ค่อยมีนมๆ แต่มีน้ำพริกเผาลอยเต็มหน้า รสชาติจะหวานๆ เปรี้ยวๆ แอบเหมือนมะนาวปลอมนิดหน่อย ค่อนข้างเผ็ด กินเสร็จแล้วแสบคอนิดๆ กลิ่นน้ำพริกเผาชัด หอมกุ้งนิดหน่อย
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 10 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 80 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 350 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,770 มิลลิกรัม (89%)
5. ไวไว
ปกติแล้วเราไม่ค่อยเห็น “ไวไว” รสชาติอื่นๆ นอกจากรสดั้งเดิมที่ฮิตอยู่แล้ว กับ “ไวไวควิก” ที่เน้นรสชาติแซ่บๆ แต่อันนี้เหมือนอยู่ในหมวดไวไวธรรมดา เลยรู้สึกแปลกใหม่นิดหน่อย อันนี้จะเป็นแบบถ้วยเพราะหาแบบซองไม่มี มีคำกล่าวหน้าถ้วยว่า “เส้นแบน เหนียวนุ่ม”
พอเปิดถ้วยมาปุ๊บก็จะเจอก้อนบะหมี่กลมๆ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีผักเล็กน้อย แต่พิเศษตรงที่มีก้อนโปรตีนรสไข่กุ้ง (ข้างถ้วยเขียนว่างี้อะนะ) พร้อมซองเครื่องปรุง 2 ซอง จะเป็นซองผงๆ ที่ละเอียดมากๆ กับซองน้ำพริกเผาเป็นก้อนๆ แห้งๆ เทออกจากซองได้อย่างง่ายดาย
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 300 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 3 นาที ตามที่ข้างถ้วยบอกเด๊ะๆ เลยนะ (จริงๆ อันนี้เขาก็บอกให้เอาเข้าไมโครเวฟด้วยแหละ แต่เรากลัววิธีทำมันจะไม่เหมือนยี่ห้ออื่นเลยเทน้ำร้อนแทน) รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : เส้นของไวไวจะแตกต่างจากอันอื่นอย่างเห็นได้ชัดเลย คือเป็นเส้นใหญ่ๆ แบนๆ จะออกแนวเด้งๆ ไม่ค่อยเหนียวนุ่มเท่าไหร่
น้ำซุป : มีกลิ่นหอมที่โดดเด่นมากกกกก น้ำซุปค่อนข้างข้นเลย แต่จะแตกชั้นเป็นนมๆ ออกมา รสชาติออกหวานๆ ไม่เผ็ด พอกินเข้าไปแล้วมีกลิ่นพิเศษๆ ที่เฉพาะตัว ส่วนตัวรู้สึกแปลกๆ กับรสชาติแบบนี้นะ
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 25 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 70 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 310 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,720 มิลลิกรัม (72%)
6. คุคกิ้ง ทาวน์ (Cooking Town)
และยี่ห้อสุดท้ายในวันนี้ก็คือ “คุคกิ้ง ทาวน์” เป็นยี่ห้อที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เห็นมีรสต้มยำกุ้งน้ำข้นเลยซื้อมาลอง อันนี้ก็เป็นถ้วยเหมือนกัน แต่ไม่มีคำกล่าวหน้าถ้วยเหมือนยี่ห้ออื่นๆ นะ (เหมือนไม่รู้จะเขียนอะไรให้โดดเด่นดี ฮ่าา)
พอเปิดถ้วยออกมาก็จะเจอก้อนบะหมี่ พร้อมซองเครื่องปรุง 2 ซอง ซองแรกจะเป็นผงต้มยำที่มีกุ้งตัวเล็กๆ มาให้ประมาณ 4-5 ตัว พร้อมผักแห้งนิดหน่อย ส่วนอีกซองก็จะเป็นน้ำพริกเผาที่ค่อนข้างแข็งเป็นก้อน แต่ตอนแกะลงชามก็ติดๆ ซองอยู่เหมือนกัน
วันนี้เราได้มีการตวงน้ำร้อน 300 ml. เทใส่ชามบะหมี่และปิดฝาไว้ 3-5 นาที ตามที่ข้างถ้วยบอกเด๊ะๆ เลยนะ เราปิดไว้ประมาณ 4 นาที รายละเอียดตามนี้เลย
เส้น : เส้นดีมากเลยนะ เป็นเส้นบะหมี่ขนาดเล็ก ที่ทำได้เหนียวนุ่มกำลังดี มันไม่ได้กัดแล้วขาดเลย แต่จะมีความเด้งๆ นุ่มๆ เหนียวๆ ถือว่าชอบบบบ
น้ำซุป : เกินความคาดหมายมากกก เป็นรสชาติที่ชอบที่สุด เค็มนำนิดๆ หวานมันแล้วก็เปรี้ยวตามมา น้ำข้นที่สุดในบรรดาทั้งหมด คือเป็นน้ำข้นที่นมไม่แตกชั้น น้ำเป็นสีส้มนวลๆ ทั่วทั้งชาม เหมือนกินต้มยำน้ำข้นของร้านอาหารตามสั่งประมาณนั้น กุ้งตัวเล็กๆ ที่ให้มาก็เป็นรสหวานๆ กลิ่นจะหอมนมๆ ไม่ค่อยมีกลิ่นกุ้งเท่าไหร่
รายละเอียดทั่วไป
- ราคา : 25 บาท
- น้ำหนักสุทธิ 60 กรัม
- ปริมาณแคลอรี่ : 260 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : 1,820 มิลลิกรัม (91%)
ภาพรวมของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 ยี่ห้อ
สำหรับบทสรุปรวมๆ ก็ตามตารางนี้เลย ที่โดนใจอันดับหนึ่งก็คงจะเป็นยี่ห้อ “คุคกิ้ง ทาวน์” ที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ดีทั้งเส้นและน้ำซุป อันนี้ต้องไปลองกันจริงๆ ส่วนที่รู้สึกว่ารสชาติมีความเฉพาะตัวก็คงเป็นไวไว ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนชอบเนาะ ยังไงก็ต้องลองกินเองถึงจะรู้แหละเนอะ
ส่วนเรื่องของรายละเอียดทั่วไป ตามนี้เลย
- ราคา : “ไวไว” มีราคาแพงที่สุดคือ 25 บาท ส่วน “มาม่า” กับ “ยำยำจัมโบ้” ถูกสุด คือ 6 บาท
- น้ำหนักสุทธิ : น้ำหนักมากที่สุดก็คือ “ยำยำสูตรเด็ด” ที่หนัก 80 กรัม ส่วนที่น้อยที่สุดก็คือ “มาม่า” ที่หนัก 55 กรัม (อันนี้เป็นปริมาณที่รวมทั้งซอง เครื่องปรุง และเส้นนะ)
- ปริมาณแคลอรี่ : อันดับหนึ่งตกเป็นของ “ยำยำสูตรเด็ด” ที่มีแคลอรี่มากถึง 350 กิโลแคลอรี่ ในขณะที่ “มาม่า” และ “คุคกิง ทาวน์” มีแคลอรี่เท่ากัน คือ 260 กิโลแคลอรี่
- ปริมาณโซเดียม : “คุคกิ้ง ทาวน์” รับบทปริมาณโซเดียมที่มากที่สุดไปเลยจ้า มีมากถึง 1,820 มิลลิกรัม นับเป็น 91% ของปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว ส่วน “มาม่า” ก็มีโซเดียมน้อยสุด คือ 1,270 มิลลิกรัม แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่ดี เพราะเป็น 64% ของปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวันเลยจ้า
เป็นยังไงกันบ้างกับรีวิวเพิ่มโซเดียมให้ร่างกาย บอกเลยว่าเป็นรีวิวที่ทำให้หิวน้ำมากกกกก หลังจากลองชิมแล้วชิมอีก คอของเราแห้งไปเป็นวันๆ เลย เหมือนเป็นการกินโซเดียมเผื่อตลอดทั้งสัปดาห์ ก็อย่างที่บอกว่านี่เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น แต่ละคนก็คงชอบรสชาติที่แตกต่างกันออกไป
แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆ นะ นานๆ กินทีก็พอ เพราะอย่างที่เห็นว่าปริมาณโซเดียวค่อนข้างสูงจึงไม่ค่อยดีต่อร่างกายเท่าไหร่ อยากประหยัดก็ส่วนหนึ่งแต่ก็อย่าลืมเลือกอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อร่างกายของเรากันนะทุกคนนนน