Mango Movie Review : 5th Round สังเวียนมวยรอง ถึงเวลาของมวยรองลงสังเวียน ศึกที่ต้องคว้าแชมป์เพื่อพลิกชีวิต ยกสังเวียนมวยเข้าโรงหนัง ลั่นระฆังเป็นที่เรียบร้อย กับ 5th Round สังเวียนมวยรอง ภาพยนตร์ Real Footage จาก BrandThink Cinema และ Smalt Pictures กำกับภาพยนตร์โดย ท็อป ระวี พิริยะพงศ์ศักดิ์ ที่ใช้การเดินทางกว่า 3 ปีที่ถ่ายทอดเรื่องราวภาพจริงของนักมวย 4 รุ่น ที่ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและการกัดฟันสู้เพื่อความฝันของตัวเองอย่างถึงที่สุด เหมือนกับเป็นการชกยกสุดท้ายของสังเวียน แต่ชีวิตจริงมันต้องสู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด สู้ไปเรื่อยๆ เพราะทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ เริ่มยกแรก ด้วย “ซำเหมา เพชรประกายจันทร์”นักชกวัย 8 ขวบจากค่ายเล็กๆ ที่บุรีรัมย์ เด็กน้อยที่มีฝันที่ใหญ่อยากได้แชมป์เยอะๆ อยากเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก เพื่อให้ความเป็นอยู่ของทางบ้านดีขึ้นและเพื่อให้ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่การเดินทางบนเส้นทางของนักมวยก็ไม่ง่ายสำหรับ”ซำเหมา”เลย ยังคงต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการชกและอาศัยการฝึกฝนและแรงใจอีกมากเพื่อจะไปให้ถึงฝั่งฝันของตัวเอง ยกที่สอง “กรังด์ปรีย์น้อย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” (พลายเงิน ศิษย์ศรพิชัย) เด็กหนุ่มวัย 14 ที่จำต้องพลิกบทบาทมาเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นนักมวยหนุ่มดาวรุ่งเลือดใหม่ ที่มีหลายค่ายจับตามอง เขาอยากจะไขว่คว้าโอกาสที่จะได้เข้ามาชกในกรุงเทพฯ ตั้งใจฝึกซ้อมให้หนักขึ้นเพื่อพิสูจน์ให้ทางค่ายมวยในกรุงเทพฯ รับเข้าสังกัดและหวังที่จะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น พลายเงินยืนหยัดที่จะทำตามฝันในการขึ้นชกบนเวทีราชดำเนิน ยกที่สาม “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ที่เคยไต่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิต ได้ไปชกบนเวที ONE Championship และเป็นแชมป์ ตั้งแต่ยังชกไม่ถึง 100 ไฟต์ แต่”เพชรดำ”ไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ตั้งแแต่ครั้งแรก เมื่อชีวิตบนสังเวียนพลิกผัน จากนั้น”เพชรดำ”ก็ใช้ความพยายามกลับมาคืนฟอร์ม พร้อมกับเฝ้ารอวันที่กลับไปชกในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อีกครั้ง มาถึงยกที่สี่ นักชกรุ่นใหญ่ “วันฉลอง พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” นักมวยเงินล้านฉายา ‘ซ้ายอันธพาล’ ที่ขึ้นสังเวียนมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ ”วันฉลอง” มีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งยังขาดความตั้งใจที่แน่วแน่และวินัยในการฝึกซ้อมรวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเดินบนเส้นทางนี้ไม่ได้เหมือนสมัยก่อน เขากำลังดิ้นรนหาหนทางอยู่ในวงการมวยต่อไป จุดร่วมของนักมวยต่างรุ่นนี้คือ เงื่อนไขในชีวิตและการดิ้นรนนอกสังเวียนของพวกเขา ซึ่งเนื้อเรื่องก็ได้เรียงร้อยและมีเส้นแบ่งแต่ละช่วงวัยที่กำลังเผชิญปัญหาและอุปสรรคของตัวเอง การเดินทางของวงการมวยไม่ได้มีแค่การขึ้นสังเวียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังแทรกความเป็นอยู่ ครอบครัว รวมถึงการดำเนินชีวิตของแต่ละคนออกมาด้วย โดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่มีรสชาติใหม่ๆ ของวงการหนังไทย เนื้อหาสะท้อนภาพของชีวิตนักมวยไทยที่ใครหลายๆ คนยังไม่เคยเห็น ทั้งโทนสีของภาพและเสียงทำให้รู้สึกเข้าถึงอารมณ์ของหนังได้อย่างดี ความที่เป็นภาพยนตร์แบบ Real Footage ทั้งองค์ประกอบต่างๆ รวมทั้งความรู้สึกของคนแสดงก็ “ชกจริง เจ็บจริง” (ทำเอารู้สึกเจ็บไปด้วยเลย เวลาเห็นซีนที่โดนต่อย) แต่ก็น่าเสียดายที่ระยะเวลาเพียง 85 นาที ยังน้อยเกินว่าจะบอกเล่าเรื่องราวในแต่ละพาร์ทของนักชกแต่ละคนได้ครบถ้วนสมบรูณ์ สำหรับคอหนังไทยคนใหม่ๆ ที่ไม่ได้มีคลังศัพท์หรือความรู้เรื่องมวยมากเท่าไหร่ เนื้อหาอาจจะดูเฉพาะกลุ่มไปหน่อย แต่สิ่งที่ได้สัมผัสในมุมของคนดูคือการไม่จำนนต่ออุปสรรคที่ผ่านเข้า และมีเป้าหมายชัดเจนคือการเป็นแชมป์เพื่อพลิกชีวิตให้ดียิ่งขึ้นด้วย ส่วนใครที่เป็นเซียนมวยอยู่แล้วก็น่าจะทำความเข้าใจได้ไม่ยาก และอินเนื้อเรื่องได้อย่างแน่นอน พิสูจน์ความดุเดือดบนสังเวียนมวย สัมผัสถึงความรู้สึกการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายนเป็นต้นไป ได้ในโรงภาพยนตร์ 🍿 รับชมตัวอย่างได้ที่นี่ https://youtu.be/qZw010DMtXA?si=uN28znWufl8B6h_2
