พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาถึงมาตรการในการจัดการเรื่องโควิดในประเทศไทย เพื่อสร้างความั่นใจให้กับประชาชน โดยแสดงความพร้อมว่าจะต้องฉีดวัคซีนคนไทยให้ได้ตามเป้า รวมถึงเปิดประเทศให้ได้ตามกรอบเวลา โดยสรุปรายละเอียดการแถลงข่าวครั้งนี้ นายกฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาอยู่ 5 ประเด็นด้วยกันคือ การประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนายกฯ ได้ตั้งกรอบเวลาไว้ว่าภายใน 120 วันนับจากวันนี้ ก็คือราวๆ กลางเดือนตุลาคม 2564 จะสามารถเปิดประเทศให้เดินทางเข้า – ออก ประเทศ ได้ตามปกติ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเหมือนเดิมที่สุด รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัว หรือมีเงื่อนไขให้เดินทางยากมากำหนด จะเร่งจัดหาวัคซีนให้ได้ตามที่กำหนด โดยเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดส และจะเร่งดำเนินการฉีดให้ได้ตามเป้า อย่างน้อย นายกฯ บอกว่าคนไทย 50 ล้านคนต้องได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในตุลาคมนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตจากโควิด 19 สัปดาห์หน้าจะนำเรื่อง ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อก’ ที่จะนำร่องเปิดเมืองท่องเที่ยวเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อเตรียมการเปิดประเทศ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวบางส่วน หากเมืองท่องเที่ยวไหนพร้อม ก็สามารถเปิดได้โดยไม่ต้องรอกรอบเวลา 120 วัน เตรียมการป้องกันรับมือการระบาดในประเทศอย่างเข้มงวดเมื่อเปิดประเทศ เพื่อความไม่ประมาท โดยทำให้สถานการณ์โควิด อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ พร้อมขอให้ประชาชนรับความเสี่ยงร่วมกัน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้า และจะไม่มีการปิดสถานที่เพิ่มเติม แม้มีผู้ป่วย ยกเว้นเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรง เดินหน้าเรื่องการตั้งโรงงานผลิตวัคซีนภายในประเทศ เพื่อรับมือกับโควิด 19 ในระยะยาว โดยแสดงความมั่นใจและให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่า การมีโรงงานผลิตวัคซีนในประเทศ จะช่วยให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจ เหมือนไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่ก็เดินหน้าเรื่องนี้ นอกจากนี้นายกฯ ยังทิ้งท้ายโดยการให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโควิดในครั้งนี้ โดยบอกว่าเขาเห็นถึงความตั้งใจในการช่วยรักษาสถานการณ์ และช่วยกันทำให้ระบบสาธารณะสุขเดินหน้าต่อไปได้