จากภาวะมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของเราทั้งในระยะสั้นและยาว จนเราต้องพกและสวมใส่หน้ากาก เพื่อป้องกัน แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์เราๆ เท่านั้นที่พบเจอกับมลพิษนี้ ยังมีสิ่งชีวิตสี่ขา อย่างน้องหมาน้องแมว ที่หายใจอากาศร่วมกับเราเช่นกัน
น้องหมาซึ่งใช้จมูกในการรับกลิ่นขั้นสูง จึงได้รับความเสี่ยงมากกว่ามนุษย์ซะอีก นอกจากนี้เจ้าฝุ่นยังเป็นพาหะนำพาสารอย่าง แคดเมียม, ปรอท, โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน, และสารก่อมะเร็งจำนวนมากโดยกลุ่มน้องหมาที่มีความเสี่ยงกับมลพิษทางอากาศเป็นพิเศษ ได้แก่
- ลูกหมาอายุน้อยกว่า 1 ปี
- หมาอายุมากกว่า 6 ปี ขึ้นไป
- หมาพันธุ์หน้ากลม
- หมาพันธุ์หน้าสั้น (เช่น Bulldogs และ Boston terriers)
อาการของน้องหมาเมื่อสูดดมฝุ่นละอองในอากาศที่มีมลพิษ
- มีอาการไอ
- หายใจลำบาก , มีเสียงดังเมื่อหายใจ
- หายใจถี่
- เหงือกซีด
- ซึม เครียด (เพราะไม่โดนแสงแดด)
- ตาแฉะ มีน้ำตาไหล
- มีน้ำมูก
- เบื่ออาหาร
- กระหายน้ำมากขึ้น
- หายใจทางปาก
- ฟุบหมดสติ
โรคเสี่ยงที่เกิดจากฝุ่น
เพราะขนาดที่เล็กกว่าหลอดเลือดทำให้ฝุ่นชนิดนี้เล็กถึงขั้นที่เข้าสู่เส้นเลือดฝอยและกระจายไปตามอวัยวะได้ ทำให้มีโรคต่างๆ ตามมามากมายได้แก่
- โรคหลอดลมอักเสบ
- โรคปอดอักเสบ
- โรคปอด
- โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
วิธีดูแลน้องหมา
- ไม่พาน้องหมาออกไปเล่นนอกบ้าน
- เลี้ยงไว้ในห้องแอร์ (ถ้าไม่สะดวกให้หลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างในวันที่มีฝุ่นมาก)
- เติมน้ำสะอาดให้ทานและคอยเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ
- สังเกตุอาการเด็กๆ ตลอดเวลา
- ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ
ขอบคุณที่มาและข้อมูลจาก : Marketdogs, PAQ, Pet.Kapook, The Dog People By Rover
ดูแลน้องหมาจากฝุ่นร้าย ไม่ต้องกลัวน้องหมาขาดน้ำ ด้วยเครื่องให้น้ำอัตโนมัติ -> ที่ให้น้ำและอาหารอัตโนมัติ