Mango Zero

ขบวนการก๊อบแก๊บกู้โลก

ณ ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง มีเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพราะมี “นางถุงกระดาษ” ที่คอยดูแลบ้านเมืองอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ถูกเปิดเผย เมื่อเมืองที่เคยสงบสุขได้ถูกทำลายโดยนางถุงกระดาษ ฮีโร่คนใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น ทุกคนรู้จักเขาในชื่อ “ก๊อบแก๊บ” ผู้สร้างวีรกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมหาประชาชาติและโลก จนทุกคนชื่นชมสรรเสริญ

วันหนึ่งชื่อของก๊อบแก๊บก็ได้เปลี่ยนไป ภาพฮีโร่เมื่อครั้งในอดีตถูกลบออกจากความทรงจำของใครหลายคน จนกลายมาเป็นวายร้ายที่ฝังใจมนุษย์และสิ่งแวดล้อมนับแต่นั้นมา… วันนี้เราเลยมีการ์ตูนสั้นๆ ที่ใครหลายคนอาจคุ้นเคยมาเล่าให้ฟังกัน จะได้รู้ว่าใครกันแน่คือวายร้ายตัวจริง

จากโลกที่เคยสงบสุข จนมาวันนี้ที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อน จากการตัดต้นไม้เพื่อนำไปผลิตเป็นถุงกระดาษตามนโยบายของนางถุงกระดาษ ผู้ที่เคยออกตัวว่ารักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ “ก๊อบแก๊บ” และคณะต้องถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อช่วยกอบกู้เมืองในดาวเคราะห์ดวงนี้แทนนางถุงกระดาษต่อไป

ก๊อบแก๊บและคณะทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเสมอ ทั้งตระเวนออกมาพบปะผู้คน และช่วยทำคุณประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ ใช้เวลาเพียงไม่นานประชาชนก็หลงรักและอยู่เคียงข้างก๊อบแก๊บตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ก๊อบแก๊บได้แทรกเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชนทีละนิดๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ในแต่ละวันก๊อบแก๊บก็ทำประโยชน์ให้กับผู้คนอย่างมากมาย ทั้งช่วยขนของ อาหารเปียกและแห้ง รวมถึงช่วยเก็บขยะ

ประชาชนได้เห็นและรับรู้จนสัมผัสได้ถึงความจริงใจของก๊อบแก๊บ และวางใจที่จะใช้งานก๊อบแก๊บมากขึ้น… มากขึ้น… และมากขึ้นเรื่อยๆ

และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น! เมื่อวันหนึ่งโทรทัศน์ได้ฉายภาพข่าวการตายของสัตว์ในทะเล ทั้งพยูน วาฬ และเต่า เกลื่อนไปหมด แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือมีก๊อบแก๊บกระจายตัวอยู่ทั่วทุกพื้นที่ทั้งในทะเล หาดทราย บนบก หรือแม้กระทั่งในท้องของเหล่าสัตว์ทะเล!

ข่าวนี้กลายเป็นข่าวฮือฮาที่ลือกันไปทั้งเมือง เพราะก๊อบแก๊บผู้ซึ่งทำประโยชน์ให้ใครหลายคนได้กลายมาเป็นผู้ร้ายไปซะได้

ยิ่งข่าวแพร่กระจายไปมากเท่าไหร่ ความเชื่อใจที่มีต่อก๊อบแก๊บและคณะก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ประชาชนบางกลุ่มเริ่มเกิดการต่อต้าน และลุกขึ้นมาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกพรากชีวิต และไล่ก๊อบแก๊บให้ออกจากเมืองนี้ไป

ระดับความรุนแรงและเสียงต่อต้านเริ่มทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่านิยมการใช้ก๊อบแก๊บเท่ากับผิด กลายเป็นค่านิยมที่ทุกคนยึดมั่นถือมั่นมากที่สุดในเวลานี้ จึงมีมาตรการบอกลาก๊อบแก๊บ และให้นางถุงกระดาษ และถุงผ้าเข้ามาดูแลบ้านเมืองแทนก่อน

รวมถึงมีกาล่าแม่มดและประนามคนที่ยังเข้าข้างก๊อบแก๊บ หรือแม้การหาวิธีการเพื่อทำให้ก๊อบแก๊บหายไป แม้กระทั่งมีภาพก๊อบแก๊บโผล่มาในโทรทัศน์ ก็ยังมีการวางมาตรการเซ็นเซอร์เพื่อไม่ให้เห็น และทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนทำกับก๊อบแก๊บโดยที่ไม่มีใครได้ฟังเสียงจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ในที่สุดก๊อบแก๊บก็ได้โอกาสออกมาแถลงไขความจริง ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากประชาชนและสื่อมวลชน แต่สิ่งที่ออกมาจากปากก๊อบแก๊บประโยคแรก หลังจากถูกตราหน้าว่าเป็นวายร้าย กลับเป็นประโยคว่าทุกคนกล่าวหาเขา

แต่ก่อนที่สถานการณ์จะร้อนระอุไปกว่านี้ ก๊อบแก๊บก็ได้อธิบายถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เป็นเพราะประชาชนใช้งานก๊อบแก๊บกันมากเกินไป แถมยังไม่รู้จักดูแลและเก็บรักษาให้ถูกวิธี อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งยังใช้ก๊อบแก๊บอย่างสิ้นเปลือง จึงเป็นเหตุให้ก๊อบแก๊บหมดแรงนอนเกลื่อนและไหลสู่ทะเลเต็มไปหมดนั่นเอง

ก๊อบแก๊บยังเสริมถึงเรื่องการอยู่ร่วมกันกับก๊อบแก๊บโดยที่ไม่เกิดปัญหาอีกว่า ประชาชนไม่ควรจะใช้งานก๊อบแก๊บเพียงครั้งเดียวอย่างสิ้นเปลือง เพราะนี่เป็นการใช้ทรัพยากรที่ไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นเหตุทำให้ก๊อบแก๊บล้นโลกและเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย

นอกจากนี้ยังชี้แนะแนวทางในการอัปเกรดก๊อบแก๊บในรูปแบบใหม่ ที่สามารถช่วยทำให้โลกไม่เกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะได้ให้ทุกคนเข้าใจถึงสาเหตุ และหาทางออกที่ประณีประนอมกับทั้งสองฝ่ายได้ดีมากที่สุด

หลังจากเหตุการณ์ที่ก๊อบแก๊บได้ออกมาพูดความในใจ ผู้สื่อข่าวจึงได้ออกมารายงานถึงข้อความที่ก๊อบแก๊บให้เผยแพร่ไปยังทุกคน ว่าสุดท้ายแล้วพฤติกรรมการใช้งานของประชาชนนี่แหละที่เป็นปัญหา และเราสามารถอยู่ร่วมกันได้ ประชาชนเริ่มเข้าใจและหันกลับไปมองถึงปัญหาที่แท้จริงมากขึ้น ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ไร้ซึ่งการล่าแม่มด และการโทษก๊อบแก๊บแต่เพียงฝ่ายเดียว

เห็นแล้วใช่มั้ยล่ะ ว่าหนทางที่จะอยู่ร่วมกับก๊อบแก๊บนั้นมันไม่ได้ยากอะไรเลย และปัญหาทั้งหมดมันก็ไม่ได้เกิดจากก๊อบแก๊บเป็นคนกระทำเองอีกด้วย สุดท้ายแล้วทั้งก๊อบแก๊บ นางถุงกระดาษ และถุงผ้า หรือไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ พวกเขาก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ หากมนุษย์อย่างเรารู้จักควบคุมการผลิตแต่พอดี ใช้ให้เป็น และจัดการกับมันให้เหมาะสม

ไม่เหมือนกับดาวเคราะห์อีกดวงหรอกนะ ที่เขาจัดการกับบ้านเมืองไม่ได้ซักที…