รู้ไหมว่ายังมีสถานที่ต่างๆ จำนวนมาก รอให้เราไปเที่ยวกันในช่วงฤดูฝน เพราะฤดูนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวธรรมชาติ ทั้งภูเขาที่จะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี และไหนจะน้ำตกที่จะมีน้ำเต็มอัตราให้เราได้ชุ่มฉ่ำเย็นใจ ฟินกันสุดๆ ไปเลย และพลาดไม่ได้กับเทศกาลผลไม้ตะวันออก อิ่มหนำไปกับผลไม้นานาชนิด ทั้งทุเรียน เงาะ ส้มโอ และลองกอง ! 1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ทีลอซู เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 900 เมตร โดยเกิดจากลำห้วยกล้อท้อที่ตกลงสู่หน้าผาสูงชัน น้ำตกทีลอซูจะมีน้ำไหลแรงตลอดปี ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ แต่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 31 พ.ย. เพราะปริมาณน้ำฝนที่มากจะเพิ่มปริมาณน้ำในลำธารทำให้สายน้ำตกกว้างใหญ่กว่าฤดูอื่น พิกัด : ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก 2. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ (สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร) อยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่ได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก โดยเป็นสถานที่ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี รวมถึงยังประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ถ้าเที่ยวในช่วงหน้าฝนจะได้เห็นไร่กะหล่ำปลีที่สวยงาม ส่วนหน้าหนาวจะได้เจอกับดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานเต็มพอดีในช่วงนั้น พิกัด : ตำบลวังบาล จังหวัดเพชรบูรณ์ (ห่างจากอำเภอหล่มสักและหล่มเก่าประมาณ 40 กิโลเมตร) 3. อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอปายสถานที่ยอดฮิตที่กลายเป็นที่เที่ยวฮิปๆ สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลังจากเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังไป ซึ่งจริงๆ แล้วในอดีตปายเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบและมีวิถีของชาวไทยใหญ่เพราะได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากประเทศพม่า ในช่วงแรกๆ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเดินทางแบบแบ็คแพ็คเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศที่ผ่อนคลายของเมืองที่เต็มไปด้วยเกสต์เฮ้าส์ราคาถูก เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร น้ำตก น้ำพุร้อน และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ มากมาย ในปัจจุบันปายมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัยและสะดวกสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน มีร้านสะดวกซื้อ มีสถานพักตากอากาศหรูรวมกว่า 350 แห่ง มีคลับบาร์เบียร์อยู่ทั่วไป และยังหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้อำเภอปายจะมีการจราจรบนถนนติดขัดในช่วงเดือนดังกล่าว ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากหนีความวุ่นวายของเมืองในช่วงพีคๆ ก็สามารถเที่ยวในช่วงหน้าฝน เพราะก็จะได้เห็นธรรมชาติในอีกรูปแบบหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้า ภูเขาที่จะเต็มไปด้วยสีเขียวของช่วงฤดูฝน แถมยังใช้เวลาพักผ่อนได้เป็นส่วนตัวกว่าเดิมอีกด้วย พิกัด : จังหวัดแม่ฮ่องสอน 4. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา วังน้ำเขียว ได้รับการขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน” เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะมาเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ เพราะด้วยสภาพอากาศที่ดีทำให้มีพรรณไม้หลากหลายชนิดให้ศึกษา รวมถึงมีน้ำตกและจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้วังน้ำเขียวยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นเป็นพิเศษมีหมอกปกคลุมหนาแน่น พิกัด : จังหวัดนครราชสีมา 5. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้า และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศชาติ อีกทั้งยังมีความสวยงามขนาดได้ชื่อว่าเป็น ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’ นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องกลับไปอีก เพราะธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิต พิกัด : ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 6. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งมียอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,102 เมตร ถือเป็นภูที่สูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทยเลย! จุดเด่นที่น่าสนใจของอุทยานนี้ ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว ซึ่งเป็นน้ำตก 5 ชั้น ที่สวยงามมาก พิกัด : จังหวัดอุตรดิตถ์ 7. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เขาค้อ เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะของพื้นที่ป่าบริเวณนี้เพราะแต่เดิมจะมีต้นค้อซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่จำนวนมาก ในปัจจุบันเขาค้อกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต นอกจากนี้เขาค้อยังมีภูมิอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี จุดท่องเที่ยวเด่นๆ ของเขาค้อมีหลายแห่ง เช่น อนุสาวรีย์จีนฮ่อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พระบรมธาตุเจดีย์, พระตำหนักเขาค้อ และน้ำตก พิกัด : จังหวัดเพชรบูรณ์ 8. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขาใหญ่เป็นอีกสถานที่ยอดฮิตที่คนกรุงเทพมักจะหนีชีวิตความเป็นเมืองหลวงไปพักผ่อนกัน เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก แต่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ยิ่งในฤดูฝนแล้วป่าไม้และทุ่งหญ้าจะมีสีเขียวขจี รวมถึงน้ำตกต่างๆ ในพื้นที่ก็จะเป็นที่นิยมมาก อย่างเช่น น้ำตกเหวนรก, น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกกองแก้ว เขาใหญ่เป็นสถานที่ที่เหมาะมากในการใช้เวลาสั้นๆ เพื่อพักผ่อน นอกจากธรรมชาติแล้ว ยังมีที่พักที่น่าไปเยือน รวมถึงร้านอาหารชื่อดังต่างๆ จำนวนมากอีกด้วย พิกัด : อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 9. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สวนผึ้งเป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่เพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้น โดยเป็นที่ที่มีภูมิทัศน์สวยงามอยู่รายล้อมไปด้วยขุนเขาสลับซันซ้อน ในอดีตสวนผึ้งเคยเป็นแหล่งทำแร่มาก่อน แต่ปัจจุบันเป็นเสมือนแหล่งรวมรีสอร์ททุกรูปแบบ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปพักผ่อนอีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านภโวทัย, บ้านหอมเทียน, อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง และตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto เป็นต้น พิกัด : จังหวัดราชบุรี 10. เทศกาลผลไม้แห่งภาคตะวันออก จังหวัดระยอง, จันทบุรี และตราด ถ้าพูดถึงผลไม้ก็คงจะหนีไม่พ้นจังหวัดในภาคตะวันออกอย่าง จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ที่จะมีเทศกาลผลไม้เป็นประจำทุกปีให้พวกเราได้อิ่มหนำกันอย่างสะใจ โดยฤดูกาลผลไม้นั้นจะอยู่ในช่วงระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม โดยมีผลไม้ขึ้นชื่ออย่างทุเรียน, เงาะ, ส้มโอ, ชมพู่, มังคุด, ลองกอง, ระกำ เป็นต้น เทศกาลผลไม้ วันที่ 1 – 31 พ.ค. 2560 ณ ตลาดกลางผลไม้เพื่อการเกษตรตะพง จังหวัดระยอง วันที่ 1 – 31 พ.ค. 2560 ณ ลานอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี วันที่ 1 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2560 ณ บริเวณบ้านท่าจอด จ. ตราด ขอบคุณข้อมูลจาก : travel.kapook.com