ในทุกๆ วันที่เราต้องตื่นเช้า มาต่อแถวเบียดกันขึ้นรถไฟฟ้า หรือนั่งรอรถติดเป็นชั่วโมง เพื่อมานั่งทำงานแบบเดิมๆ เจอปัญหาหรือคนเดิมๆ ซ้ำๆ วนลูปแบบนี้ทุกวัน แน่นอนว่ามันต้องมีการเบื่อหรือเอียนกันบ้าง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเรียกอาการนี้ว่า #หมดpassion ในการทำงาน ซึ่งจริงๆ แล้วในช่วงชีวิตคนเรา ต้องใช้เวลาอยู่กับการทำงานหรืออยู่ที่ทำงานเยอะมาก ถ้าเราสามารถหา Solutions บางอย่างที่ทำให้อาการ #หมดpassion นี้ลดน้อยลงหรือหายไป เพื่อทำให้ชีวิตการทำงานที่กินเวลาไปเกือบค่อนชีวิตของเรามีความสุขมากขึ้นก็คงจะดีไม่น้อย แล้ววิธีที่จะทำให้หายเบื่อหน่ายกับงานที่ทำอยู่ หรือวิธีการปลุก Passion ในการทำงานให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งนั้นต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 1. รู้จักหาวิธีการผ่อนคลายบ้าง “จัดการกับความเครียด เพิ่มพลังด้วยการไปออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดีและใช้วันลาพักร้อน” การที่เรารู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำ เนื่องจากสมองไม่รู้สึกสบายผ่อนคลาย หรือไม่ได้รับความรู้สึกสนุก สมองจะรู้สึกถูกบีบบังคับ มองเห็นอะไรก็เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ ไม่เห็นโอกาส ไม่สามารถคิดอะไรใหม่ๆ ที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ได้ ความเครียดในการทำงานเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป ความเครียดในระดับที่เหมาะสมบ่งบอกถึงความใส่ใจในการทำงาน แนะนำให้ออกไปใช้สิทธิ์วันลาพักร้อน เพื่อพักผ่อนให้สมองปลอดโปร่งถือเป็นการชาร์ตพลังได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ 2. เลือกโฟกัสงานสำคัญในแต่ละวัน “การโฟกัสงานสำคัญจะทำให้เรารู้เป้าหมายในแต่ละวันอย่างชัดเจน เมื่อทำสำเร็จตามเป้า เราจะมีกำลังใจและอยากจะทำงานนั้นๆ ต่อ” จัดลำดับความสำคัญของงานที่จะต้องทำในแต่ละวัน งานไหนสำคัญควรโฟกัสก่อน เพื่อให้เราไม่ต้องไปเสียเวลาไปทำอย่างอื่นที่ไม่ได้ช่วยให้งานเราพัฒนาและจบเร็วมากขึ้น เช่น การตอบอีเมลหรือประชุมพร่ำเพรื่อ และที่สำคัญคือเราจะไม่นำงานกลับมาทำต่อที่บ้านหรือนอกเวลางานเป็นอันขาด เพราะเวลางานก็ควรจะทำในเวลางานเท่านั้น 3. ปรับทัศนคติเกี่ยวกับงานที่ทำ “เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักปฎิเสธและสร้างขอบเขตในการทำงานของตัวเอง” การที่เรารู้สึกเบื่อหน่ายกับงานบางทีอาจจะเป็นเพราะเรามีทัศนคติในแง่ลบ ไม่ว่าจะกับงานที่ทำ คนที่ต้องร่วมงานด้วยหรือปัญหาใหญ่ของหลายๆ คนที่อยากออกจากงานก็คือ มนุษย์ที่เรียกว่า “เจ้านาย” บุคคลเจ้าปัญหาที่อาจจะอารมณ์เสีย เหวี่ยงใส่ หรือโยนงานทั้งกองมาให้คุณรับผิดชอบ ลองปรับทัศนคติให้คิดในแง่บวกเข้าไว้ โดยเริ่มจากการปรับตัว การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานให้มากขึ้น การแก้ปัญหาของงานที่ทำ นอกจากนี้ การเพิ่มความยืดหยุ่นในทำงานร่วมกับผู้อื่นให้มากขึ้น รู้จักปฏิเสธและสร้างขอบเขตในการทำงานของตัวเอง จะช่วยให้เราไม่แบกภาระงานที่มากเกินไปไว้เพียงผู้เดียว ทำให้เรามีเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่สำคัญและเป็นประโยชน์มากกว่า 4. ตั้งคำถามและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ “ให้ตั้งคำถามและปรับปรุงงานที่ทำจากปัญหาที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เรามีไอเดียใหม่ๆ ในการทำงาน” คนทำงานไม่ว่าจะงานแขนงไหน ถ้าเป็นคนที่รู้จักตั้งคำถามกับงานที่ทำและรู้จักปรับปรุงงานจากปัญหาที่เกิดขึ้น จะช่วยพัฒนางานที่ทำอยู่ และทำให้มีไอเดียในการทำงานหรือโปรเจคใหม่ๆ มากกว่าการทำอะไรแบบเดิมๆ นอกจากนี้ ถ้าคุณอยากให้ไฟในการทำงานของเรากลับมาลุกโชนอีกครั้ง ก็ต้องหาวิธีเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับงานที่ทำด้วย โดยลองนึกสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะรู้ แต่ยังไม่มีใครสอน พยายามเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อนและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าของคุณบ้าง นอกจากจะทำให้ passion การทำงานเพิ่มขึ้นยังช่วยกระชับความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานอีกด้วย 5. นึกถึง Passion ของตัวเองก่อนเข้าทำงานสิ “เปลี่ยน Pain point ให้เป็น Gain point เพื่อเติมไฟในการทำงาน โดยนึกถึง Passion ที่เคยมีก่อนหน้าที่จะได้งานนี้” เราอาจจะวุ่นวายหรือยุ่งกับงานที่ทำมากจนเกินไป จนหลงลืม Passion ที่เคยมีตั้งแต่แรกเริ่มที่อยากจะเข้าทำงานที่นี่ ลองกลับมานั่นคิดนอนคิดดูว่าเป้าหมายของงานที่ทำ เราทำไปเพื่ออะไร และสุดท้ายจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรจากงานนี้ รับรองว่าคุณจะรู้สึกมีไฟในการทำงานและอยากไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้มากขึ้นอย่างแน่นอน เชื่อว่าการได้ทำงานที่มี Passion และมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะมีโอกาสพบกับความสำเร็จในอนาคตมากกว่าการไม่ตั้งเป้าอะไรเลยและเป็นสิ่งที่ทำให้เราความสุขกับงานที่ทำมากยิ่งขึ้น แล้วถ้าเรารู้สึกว่างานไหนที่ทำแล้วไม่ต้องรอ พักเที่ยง หรือรอเลิกงานตอนห้าโมงเย็น อยากตื่นไปทำมันทุกเช้า ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะนั่นแหละค่ะ ถือว่าคุณเป็นคนมี Passion ในการทำงานอย่างแท้จริง ที่มา – office vibe