เซียมซี หนึ่งในนวัตกรรมการทำนายดวงจากประเทศจีนที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย สำหรับชาวญี่ปุ่นเองก็มีสิ่งที่คล้ายกันที่เรียกว่า โอะมิคุจิ ซึ่งแปลตามตัวได้ว่า สลากศักดิ์สิทธิ์ ติดอยู่คู่กับทั้งวัดของศาสนาพุทธและศาลเจ้าของชินโตหลายแห่งด้วยกัน ระบบการเสี่ยงทายของโอะมิคุจิคล้ายกับเซียมซีของบ้านเรา เพียงแต่ว่ากระบอกใส่ไม้ทำนายนั้นจะเป็นกระบอกปิด มีรูเล็กๆ เพียงช่องเดียว ที่ต้องทำก็แค่เขย่ากระบอกนั้นแบบเขย่ากระบอกเซียมซีจนกว่าจะมีไม้ทำนายหล่นออกมาสักอัน หลังจากนั้นก็ดูหมายเลขของไม้ทำนาย และไปหยิบใบคำทำนายตามหมายเลขที่ได้มา สุดยอดแห่งความเหมือนระบบเซียมซีเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างการหยอดเหรียญใส่ตู้ หรือทำนายกันแบบออนไลน์แล้ว สมกับที่เป็นญี่ปุ่น 4.0 ผลคำทำนายนั้นที่วัดบางแห่งจะมีแบ่งไม่เยอะมาก คือ โชคดีมาก (大吉 ไดคิจิ) โชคดี (吉 คิจิ) โชคดีปานกลาง (中吉 จูคิจิ) โชคดีเล็กน้อย (小吉 โชคิจิ) โชคร้าย (凶 เคียว) ในขณะที่บางแห่งนั้นจะยังมีแบ่งหลากหลายมากกว่านั้นอีก เช่น โชคดีครึ่งนึง (半吉 ฮังคิจิ) โชคดีในอนาคต (末吉 สุเอะคิจิ) โชคดีเล็กน้อยในอนาคต (末小吉 สุเอะโชคิจิ) โชคร้ายเล็กน้อย (小凶 โชเคียว) โชคร้ายครึ่งนึง (半凶 ฮังเคียว) โชคร้ายปานกลาง (中凶 จูเคียว) โชคร้ายมาก (大凶 ไดเคียว) แม้ว่าจะไม่ค่อยแน่ใจว่าโชคดีครึ่งนึงมันไม่ใช่โชคร้ายอีกครึ่งหรอ แล้วต่างจากโชคร้ายปานกลางยังไง หรือว่าโชคร้ายมากจะดูไม่มงคลสุดๆ และบางแห่งก็ยังมีอันที่สุดโต่งอย่าง โชคดีโคตรๆ (大大吉/大々吉 ไดไดคิจิ) กับ โชคร้ายโคตรๆ (大大凶/大々凶 ไดไดเคียว) หรืออันแปลกๆ อย่าง ดีร้ายพอกัน (吉凶相半 คิจิเคียวไอนาคาบาสุ) หรือ ดีร้ายไม่แน่นอน (คิจิเคียวโคโมะโกโมะ 吉凶交交) ที่บางทีคนญี่ปุ่นเองก็ยังไม่เข้าใจความหมายเลยก็มีเช่นกัน ผลคำทำนายของโอะมิคุจินั้น ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องทั่วๆ ไป เช่นการงาน ความรัก สุขภาพ ของหาย และอื่นๆ โดยไม่แบ่งแยกว่าอันไหนโชคร้ายหรือโชคดี ถ้าหากได้ใบโชคดีก็จะโชคดีทั้งหมด หรือถ้าได้ใบซวย ผลคำทำนายบางทีก็จะออกมาอภิมหาซวยเลยก็มี จะไม่ค่อยมีวัดที่ผลคำทำนายออกมาบางอย่างดีบางอย่างร้ายสักเท่าไร และสำหรับคนที่ได้คำทำนายโชคร้ายออกมา มองเห็นอนาคตว่าตัวเองกำลังจะโดนมรสุมชีวิต ป่วยหนักตกงานซ้ำยังแฟนทิ้ง ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะบรรพบุรุษชาวญี่ปุ่นได้คิดวิธีแก้มาให้เสร็จสรรพแล้ว โดยเขาบอกกันว่าคนที่เสี่ยงทายได้โชคร้ายแบบต่างๆ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ให้เอาใบคำทำนายนั้นไปผูกไว้กันต้นสน เพราะคำว่าต้นสนในภาษาญี่ปุ่น (松 มัตสึ) นั้นพ้องเสียงกับคำว่า รอ (待つ มัตสึ) การนำโชคร้ายไปผูกไว้กับต้นสนจึงเป็นการให้โชคร้ายไปรออยู่ที่ต้นไม้แทน บางที่ก็จะเป็นต้นไม้ชนิดอื่นหรือเป็นราวที่ทางวัดจัดไว้ให้ ก็เอาไปผูกไว้ไม่ต้องติดตัวกลับมาบ้านด้วย จึงมักจะเห็นภาพต้นไม้หรือราวตามวัดต่างๆ เต็มไปด้วยใบโอะมิคุจิผูกกันอยู่แน่นขนัด ชนิดที่ถ้าใครมาช้าก็อาจจะไม่มีที่ผูก ต้องเอาโชคร้ายติดมือกลับบ้านไปด้วย เป็นความโชคร้ายในความโชคร้ายอีกที ส่วนใครที่ได้คำทำนายในทางที่ดีก็เอาใบคำทำนายนั้นกลับบ้านไปกอดให้ชื่นใจได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าเดี๋ยวนี้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่ได้เชื่อคำทำนายจากโอะมิคุจิมากมายเท่าสมัยก่อนแล้ว ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น แต่การทำนายดวงก็ยังคงเป็นของที่อยู่คู่กับมนุษยชาติไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนอยู่เสมอ จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเชื่อคำทำนายเหล่านี้ เชื่อมากบ้างน้อยบ้าง หรือคนที่ไม่ได้เชื่อแต่ก็ชอบเสี่ยงทายเพื่อความสนุก โอะมิคุจิจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของวัดและศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้