“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” หนึ่งในอาหารที่เรามักให้ความสนใจเป็นพิเศษในวันที่ไม่รู้จะกินอะไร (หรือวันที่ไม่มีอะไรจะกิน) หลายคนยังคงถกเถียงกันถึงวิธีการกินที่ถูกต้อง ต้มแล้วกินเลยได้ไหม ต้องใส่อะไรเพิ่มจึงจะได้สารอาหารครบถ้วน วันนี้ Mango Zero จะพาไปไขความลับกัน เพื่อการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีประโยชน์และถูกต้องมากขึ้น! บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำคัญกับโลกอย่างไร “สองซองน้อยไป ซองเดียวไม่เคยพอ” คำนิยามที่หลายคนให้ไว้เมื่อพูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งมีหลายแบบไม่ว่าจะเป็นแห้ง น้ำ หลากรสชาติให้เลือกสรร ชนิดที่ว่าไม่ชอบรสไหน ก็สามารถเปลี่ยนไปกินแบบอื่นแทนกันได้ ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องประกอบง่าย เพียงต้มในน้ำร้อน เทซองปรุงรส ผสม ก็สามารถทานได้ทันที ส่วนเรื่องความอร่อย ก็กล้ารับประกันด้วยเกียรติของผงชูรสว่าถูกปากแน่นอน เนื่องจากวัตถุดิบสำคัญของอาหารประเภทนี้คือ “แป้ง” และไม่มีส่วนประกอบอื่นๆ นอกจากเนื้อสัตว์ในบางรสชาติ ผักแซมบ้างอีกเล็กน้อย ทำให้สินค้าประเภทนี้มีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่นๆ เมื่อนำมารวมกับคุณสมบัติของความรวดเร็ว ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นอาหารที่ต้องมีติดบ้านไว้ในหลายๆ ประเทศเลยทีเดียว นอกจากนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจของประเทศ เพราะถือว่าเป็นสินค้าด้อย (Inferior Goods) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจะซื้อก็ต่อเมื่อมีรายได้ลดลง ดังนั้นหากเจ้าสิ่งนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น นั่นอาจแปลว่าเศรษฐกิจของเรากำลังอยู่ในภาวะที่แย่ลงก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยเช่นเดียวกัน คุณค่าทางอาหารในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แม้จะมีการระบุบนซองว่าเสริมไอโอดีนธาตุเหล็ก ไอโอดีน หรือวิตามินก็ตาม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ยังคงได้รับการจัดว่าเป็นอาหารประเภทด้อยคุณค่าทางอาหารโดยนักโภชนาการอยู่ดี เนื่องจากส่วนประกอบหลักในนั้นคือแป้ง ไขมันทรานส์ และโซเดียมในปริมาณสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง ให้พลังงานโดยเฉลี่ย 250 กิโลแคลอรี่ ซึ่งต้องใช้การออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานหนึ่งชั่วโมง วิ่ง 30 นาที ถึงจะเบิร์นได้เท่ากับที่กินไปหนึ่งซองเลยทีเดียว ทำไมถึงห้ามกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปริมาณมาก? อย่างที่ได้กล่าวไปในข้อที่แล้วว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีปริมาณโซเดียมปริมาณสูง แต่มันไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงธรรมดา แต่เป็น สูง!!! มากกกกกกกกกก!! (โปรดอ่านโดยลากยาว 2-3 วินาที) โดยหนึ่งซอง มีปริมาณโซเดียมร้อยละ 50-100 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน แปลว่าหากจะกินโดยไม่ให้มีอันตราย ต้องกินแบบไม่ติดต่อกันทุกวัน และดื่มน้ำตามเพื่อเจือจางปริมาณโซเดียม ไม่อย่างนั้นอาจเป็นอันตรายต่อหัวใจ และไตได้ วิธีการต้มที่ถูกต้อง หลายคนใช้วิธีการฉีกซอง เทน้ำร้อน แล้วทานเลยทันที วิธีการนี้จะทำให้ได้แคลอรี่สูง เพราะแต่เดิม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะต้องผ่านกระบวนการทอดก่อนบรรจุซอง นั่นทำให้เราเห็นน้ำมันลอยขึ้นมาในน้ำแรกที่ต้ม ดังนั้นวิธีการลดแคลอรี่ก็คือ เทน้ำที่ต้มครั้งแรกทิ้ง ก่อนจะใส่น้ำร้อนอีกครั้ง แล้วกินก็จะลดการเอาน้ำมันเข้าร่างกายได้ นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังได้แนะนำวิธีการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการใส่ไข่ ผัก หรือเนื้อสัตว์ลงไป เพื่อเพิ่มสารอาหารและป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป และไม่ควรกินแบบดิบ ๆ โดยไม่ต้มน้ำ เพราะเส้นบะหมี่จะไปพองตัวในกระเพาะ อาจทำให้ท้องอืดได้ และไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่าวันละ 1 ซอง เพื่อป้องกันโรคที่เกิดกับไต และโรคความดันโลหิต แม้จะเป็นอาหารที่สะดวกและรสชาติดี แต่ก็ให้โทษต่อร่างกายอยู่ไม่น้อยเมื่อกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นก็อย่าลืมใส่ผัก เนื้อสัตว์ หรือส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหาร หรือหากเป็นความจำเป็นจริงๆ ก็ขอให้ต้มแล้วเทน้ำก่อนเพื่อเป็นการลดแคลอรี่ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ใส่เครื่องปรุงให้น้อยลง อย่าลืมว่าแม้รสชาติจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่สุขภาพก็สำคัญเช่นเดียวกัน ที่มา: Wikipedia, Matichonacademy,Myfitnesspal, สสส สั่งซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (แต่อย่ากินมากไป ตามที่บอกไปข้างต้นนะ) -> บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากหลายรสชาติ