Mango Zero

เผยเรื่อง(ไม่)ลับ เบื้องหลังแคมเปญสุดเท่ระหว่าง No Time To Die X DHL

หลังจากที่ดีเอชแอลปล่อยแบรนด์แคมเปญสุดเท่ ฉลองการเปิดตัวภาพยนตร์ ‘No Time To Die’ สร้างความประทับใจให้แฟนหนังเจมส์ บอนด์ ไม่น้อย สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ เผยภาพลักษณ์ที่น่าตื่นเต้นและเร้าใจกว่าเดิมของ DHL ในฐานะที่เป็นลอจิสติกส์พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ ‘No Time To Die’

เรื่องราวในโฆษณา เปิดฉากขึ้นในเซี่ยงไฮ้ เมื่อเจ้าหน้าที่คูเรียร์รายหนึ่งของดีเอชแอลต้องออกไปส่งพัสดุสำคัญให้ เจมส์ บอนด์ แต่พอไปถึงจุดนัดพบปรากฎว่าการส่งมอบของมีอันต้องสะดุด เป็นสาเหตุให้มีการขับรถไล่ล่ากันตามมา และในขณะที่ 007 กำลังถูกเหล่าร้ายไล่ล่าไปตามท้องถนนนั้น เจ้าหน้าที่คูเรียร์​ของดีเอชแอลต้องหลบหลีกความชุลมุนวุ่นวาย เพื่อไปส่งของให้ถึงจุดหมายใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงผู้รับ โดยขนส่งอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 

ชูพระเอกเด่นเป็น ‘รถแอสตัน มาร์ติน DB5’ ซึ่งขับโดย เบน คอลลิน สตันท์ของตัวละครบอนด์ ผู้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ พีท ไวท์ ผู้ช่วยประสานงานด้านสตันท์ของภาพยนตร์ No Time To Die ถ่ายทำโดย อดัม เบิร์ก ไดเร็คเตอร์มือรางวัลแห่งสตูดิโอ Smuggler และยังได้ ไลนัส แซนด์เกรน แห่ง No Time To Die มาเป็นผู้กำกับภาพอีกด้วย แนวคิดของโฆษณามาจากการพัฒนาโดย 180 Amsterdam เอเจนซีหลักของดีเอชแอล 

ชมภาพยนตร์โฆษณาดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ขนส่งด่วนระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ก็ยังมี Fun Fact เรื่องไม่ลับที่อยากแชร์ ถึงเบื้องหลังการร่วมมือกัน ในฐานะพาร์ทเนอร์ ระหว่างทีมภาพยนตร์ No Time To Die และ DHL มาให้ได้อ่านกันสนุก ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

🕵️‍♂️ ดีเอชแอลได้ให้บริการด้านการขนส่งและโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ต่างๆ สำหรับการถ่ายทำและการผลิตภาพยนตร์ 007 มาแล้วถึง 5 ภาคนับตั้งแต่ Casino Royale (2006)

🕵️‍♂️ ในการทำงานด้านการขนส่งให้กับภาพยนตร์ No Time To Die ที่แฟนๆ ตั้งตารอนี้ ดีเอชแอลได้ขนส่งอุปกรณ์การถ่ายทำและอุปกรณ์สตันท์ไปยังโลเคชั่นต่างๆ ทั้งในนอร์เวย์ จาไมก้า อิตาลี และโดยรอบประเทศอังกฤษ ซึ่งของที่ดีเอชแอลช่วยขนส่งนั้น มีตั้งแต่รถแอสตัน มาร์ติน ในตำนาน ไปจนถึงอุปกรณ์ประกอบฉากสำคัญ ๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านลอจิสติกส์ ดีเอชแอลปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องในทุกขั้นตอนเพื่อขนส่งสิ่งของต่าง ๆ ให้ถึงมือผู้รับตรงเวลาเสมอ

🕵️‍♂️ รถแอสตัน มาร์ติน DB5 จำลองจำนวน 8 คัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการถ่ายทำ No Time To Die 

🕵️‍♂️ การถ่ายทำภาพยนตร์ No Time To Die เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น ตลอด 604 วันของการถ่ายทำ ดีเอชแอลขนส่งตั้งแต่คอสตูมชุดแรก ไปจนถึงฟุตเทจภาพยนตร์ในขั้นสุดท้าย

🕵️‍♂️ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสได้ทำการบันทึกเอกสารการดำเนินพิธีศุลากรรวมถึง 948 รายการ สำหรับการขนส่งข้ามพรมแดนให้กับภาพยนตร์ No Time To Die

🕵️‍♂️  ดีเอชแอลขนส่งเสื้อผ้าและคอสตูมรวมกว่า 11,039 กิโลกรัมทั่วโลกเพื่อภาพยนตร์เจมส์บอนด์ภาคที่ 25 เราได้จัดส่งบิกินี่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภาค DR.NO ไปยังวิลล่า GoldenEye ของเอียน เฟลมมิ่ง ในจาไมก้า เพื่อเปิดตัวการเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์

🕵️‍♂️  แม้ว่าฉากของเรื่องราวในภาพยนตร์จะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แต่จริง ๆ แล้ว โฆษณาของดีเอชแอลเรื่องนี้ ถ่ายทำที่ใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศไทย! ใครคุ้นมุมไหนก็ไปตามรอยกันได้เลย

และนอกจากภาพยนตร์โฆษณาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์แล้ว แคมเปญนี้ยังออกอากาศทั่วโลกผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งในรูปแบบของแบนเนอร์โฆษณา วิดีโอ และสิ่งพิมพ์​ ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น เบื้องหลังการถ่ายทำ และภาพยนตร์โฆษณาฉบับเต็ม สามารถดูได้จากเว็บไซต์ NoTimeToDie.dhl ได้เลย รวมถึงติดตามกิจกรรมพิเศษจากแคมเปญนี้ได้ทาง https://www.facebook.com/DHLExpressTH ได้เลย