“ถ้ามึงหลุดออกมาจากวันเดิมๆ ที่มึงเคยอยู่ หนังก็จบดิวะ” ตัวละคร “รักษ์” ตอบข้อสงสัยของ “เอิร์ธ” เพื่อนสนิทของตัวเอง หลังจากเจ้าเพื่อนตัวดีตื่นมาแล้วโวยวายว่าตัวเองหลุดออกจากลูปที่ตัวเองเคยอยู่ และเรื่องราวทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็พึ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากจบประโยคนั้น ใช่แล้ว มันเริ่มต้นขึ้นหลังจากตัวละคร “หลุดลูป” ไม่ใช่ “ติดลูป” ซึ่งนั่นเป็นความน่าสนใจ และเป็นโครงหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากพูดถึงภาพยนตร์แนวติดลูป ผู้คนคงจะนึกถึงการที่ตัวละครนั้น ติดวนอยู่ในลูป อยู่ในช่วงเวลาหนึ่งซ้ำๆ และสิ่งที่ต้องทำก็คือการหาทางออกไปจากลูปที่วนอยู่ให้ได้ แต่ “สวัสดีวันจันทร์(ส)” กลับเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวหลังจากที่ตัวละครนั้น “หลุดลูป” ออกมาแล้วต่างหาก สวัสดีวันจันทร์(ส) เป็นเรื่องราวของ เอิร์ธ (โอบ-โอบนิธิ) นักศึกษาที่เรียนมาแล้ว 8 ปี แต่แทนที่เจ้าตัวจะตั้งใจเรียนให้จบเสียที กลับเลือกที่จะทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการจีบรุ่นน้องอย่าง สายไหม (พีพี-ปุญญ์ปรีดี) แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเดือนมหาลัย เต้ (ปูน มิตรภักดี) แต่แล้วทุกอย่างก็ผิดแผนขึ้นมา เมื่อหลังจากคืนปาร์ตี้จบการศึกษา เอิร์ธได้ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในวันจันทร์วันเดิมที่เคยใช้ชีวิตมาแล้ว ! แต่ว่าก็ว่า เรื่องทั้งหมดจะไม่เกิด และไม่น่าสนใจเลยสักนิดถ้าหากว่า เอิร์ธ ไม่ได้เลือกที่จะสนุกสนานกับการใช้ชีวิตในลูปแทนการหาทางออกจากลูปนั้น ทำให้เจ้าตัวใช้ชีวิตโดยไม่คำนึงถึงอนาคตว่าถ้าหากตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้วนอยู่ในลูปอีกต่อไป ความวายป่วงมากมายที่ตัวเองสร้างไว้จะเป็นอย่างไร “อยากทำเหี้x อะไรก็ทำพี่ ตื่นมาอีกวัน ใครมันจะไปจำวะ” ประโยคข้างต้นถือเป็นประโยคที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตตัวละครเอิร์ธให้ดิ่งลงเหวเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากเขามีความคิดที่จะปล่อยใจจอยๆ ใช้ชีวิตในลูปแบบไม่ต้องกลัววันข้างหน้า ทุกอย่างที่เขาทำลงไปนั้น ก็เรียกได้ว่าเละเทะกันเลยทีเดียว และเมื่อหลังจากตื่นมาแล้วพบว่า วันนี้ไม่ใช่วันจันทร์อีกต่อไป เรื่องราวของหนังเรื่องนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้นจริงๆ เสียที เอิร์ธ ต้องพบเจอกับเหตุการณ์มากมายที่ตัวเองได้สร้างเรื่องเอาไว้ จนทำให้ไม่เพียงชีวิตของตัวเองที่เปลี่ยนไป แต่มันกับส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง ไม่เว้นแม้เพื่อนสนิทอย่าง “รักษ์” (วิคเตอร์-ชัชชวิศ) และแฟนของเพื่อน กิมจิ (เบล-วริศรา) ก็ด้วยเช่นกัน ดูเผินๆ แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีแก่นเรื่องที่ชัดเจนมากนัก ถ้าเพียงอ่านแค่เรื่องย่อ หรือชมภาพยนตร์ตัวอย่าง ก็อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือตีความไปต่างๆ นาๆ แต่ถ้าหากใครได้ลองเปิดใจดูและซึมซับความเป็นไปของเนื้อเรื่องแล้ว เชื่อว่าคงจะได้ยินคำว่า “เกินความคาดหมาย” ไม่มากก็น้อย เพราะแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับสถานการณ์ที่อาจจะพอคาดเดาได้ แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ หรือขมวดคิ้วเลยแม้ต่อน้อย กลับกัน เราได้เห็นการเล่าเรื่องที่ย่อยง่าย แต่สอดแทรกสิ่งที่เรียกได้ว่า “โดนเส้น” หรือสิ่งที่โดนใจคนดูเอาไว้ ให้ได้ทั้งลุ้น ทั้งสนุก ทั้งฮา ครบถ้วนอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ในส่วนของนักแสดง เรียกได้ว่าแต่ละคนถ่ายทอดบทบาทที่ตัวเองได้รับออกมาอย่างดี โดยเฉพาะตัวละครหลักที่เป็นคนดำเนินเรื่องราวทั้งหมดอย่าง “เอิร์ธ” ที่รับบทโดย “โอบ-โอบนิธิ” ถือว่าเป็นตัวละครที่คนดูยังรู้สึกเหนื่อยแทน ตั้งแต่ยังไม่ติดลูป จนติดอยู่ในลูป และหลังจากหลุดออกมาจากลูปได้ แม้เจ้าตัวเองจะไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับชีวิตของตัวเองก็ตาม แต่เพราะความไม่ทุกข์ร้อนใดๆ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาจะต้องพบเจอเรื่องราวในครั้งนี้ จนทำให้คนที่ไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆ ต้องเริ่มกลับมาคิดบ้างเสียแล้ว ซึ่ง โอบ เองก็ถ่ายทอดมันออกมาได้ดีจนทำให้คาแรกเตอร์ของ เอิร์ธ โดนเส้นคนดูไม่น้อย เมื่อร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ แล้ว เรียกได้ว่าถือเป็น Set List นักแสดงที่ลงตัวจริงๆ สำหรับภาพยนตร์ “สวัสดีวันจันทร์(ส)” เป็นภาพยนตร์จาก “เนรมิตรหนัง ฟิล์ม” ที่ได้ผู้กำกับ “ก่อ-ชาคร” มากำกับให้ในครั้งนี้ พร้อมเหล่านักแสดงที่จะมาสร้างสีสัน เปลี่ยนให้หนังลูปธรรมดา กลายเป็นหนังลูปรูปแบบใหม่ เพิ่มมิติให้กับหนังไทยไปอีกขั้น ใครที่รอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ต้องรออีกต่อไปแล้ว เพราะ “สวัสดีวันจันทร์(ส) Happy Monday(s) เข้าแล้ววันนี้ ! (20 กุมภาพันธ์ 2568) มาร่วมกันเอาใจช่วย (ซ้ำเติม) ชีวิตของ เอิร์ธ หลังจากผ่านพ้นวันจันทร์(ส) ครั้งที่ร้อยไปพร้อมๆ กัน ทุกโรงภาพยนตร์