ส่องทัศนคติทรงพลังกับ 8 คำตอบของ ‘แอนชิลี’ สู่ยอดจักรวาลไทยปีนี้ที่ #MissUniverseThailand2021
ขอแสดงความยินดีกับ ‘แอน-แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส’ สาวไทย-ออสเตรเลียวัย 22 ปี ผู้คว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand ปีนี้ไปครอง โดยนับว่าเธอคือตำนานบทใหม่ของเวทีนางงามไทยให้พัฒนาก้าวไปอีกขั้น จากการเป็นกระบอกเสียงอันทรงพลังเกี่ยวกับความแตกต่างและมาตรฐานความงามที่เธอยึดมั่นมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงสมัยแบบเป็นนางแบบพลัสไซส์ในวงการแฟชั่นไทยด้วย
นอกจากนี้เธอยังเต็มไปด้วยความสามารถทางกีฬาทั้งวอลเล่ย์บอล บาสเก็ตบอล และซอฟต์บอลที่พ่วงมาพร้อมกับความมั่นใจ ทำให้เธอปรารถในการเป็นแรงบันดาลใจ ที่พร้อมจะผลักดันให้คนทุกคนหันมาทำความเข้าใจ สร้างความภาคภูมิใจในรูปร่างตัวเอง จนเป็นนิยามของคำว่า #RealSizeBeauty ได้ใจแฟนเวทีนางงามไทยและเทศไปไม่น้อย
Mango Zero จึงขอรวบรวม 8 คำตอบ/คำพูดอันทรงพลังที่ได้ฟังแล้วฮึกเหิม ลุกขึ้นตบเข่าฉาด! จากแอนชิลี ผ่านเวที Miss Universe Thailand ปีนี้ เพื่อร่วมฉลองการก้าวขึ้นสู่ยอดจักรวาลนางงามไทย
“แอนอยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาภูมิใจในความแตกต่างและตัวตนที่ไม่เหมือนใคร เพราะรูปร่างที่แท้จริงของเรามีความสวยในแบบของใครของมัน”
แอนพูดประโยคนี้ในช่วงของการแนะนำตัวรอบออดิชั่น เพื่อบ่งบอกถึงตัวตนและยืนยันถึงเหตุผลที่เธอมาประกวดบนเวทีนี้ ด้วยท่าทางที่มั่นใจและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ก็ทำให้เธอเป็นหนึ่งในนางงามที่ดึงดูดใจไม่น้อย
“การใช้ Social media แบบขาดสติอาจทำให้เกิดปัญหา แอนคิดว่าเราควรมีสติคัดกรองถึงผลของคำพูดและการกระทำที่ตามมา เพราะสิ่งเหล่านั้นสร้างผลกระทบให้กับผู้รับสารได้”
หลังจากแนะนำตัวสั้นๆ เธอได้ Keyword สำคัญที่จะสะท้อนไหวพริบของเธอในการตอบคำถาม ซึ่งเธอได้คำว่า ‘สติ’ Mindfulness และเธอก็เชื่อมคำคำนี้เข้ากับรูปแบบการใช้ Social Media ของคนในปัจจุบันนี้ได้ดีจริงๆ
“เนื่องจากไทยกำลังจะเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ มีความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไร?”
“แอนคิดว่าเราทุกคนจำเป็นต้องได้รับวัคซีน และควรเลือกได้ว่าวัคซีนใดที่เหมาะสำหรับเรา เพราะนั่นคือสิทธิ์และเสรีภาพของเราเอง เพราะถ้าพวกเขาสามารถเลือกวัคซีนที่ดีที่สุดได้ ก็จะสบายใจกับการเปิดประเทศมากขึ้น”
เป็นการตอบคำถามในรอบ Top 5 ซึ่งแต่ละคนจะได้ตอบคำถามที่แตกต่างกันไปต่อหน้ากรรมการ แอนเลือกตอบคำถามนี้ ด้วยการยกตัวอย่างการแก้ปัญหาที่ดีและเหมาะสมที่สุด โดยไม่มีท่าทีลังเลหรือตื่นเต้นแต่อย่างใด เพราะเธอได้พกความมั่นใจมาเพื่อคว้ามง
“ถ้าได้ตำแหน่ง คุณจะสามารถใช้เสียงที่ดังขึ้นเป็นประโยชน์ต่อสังคม สร้างความตระหนักรู้อย่างไร เกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นปัญหาอยู่ทั่วโลก”
“ฉันจะเริ่มด้วยการแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะมันคงเป็นเรื่องยากที่จะเมินเฉยต่อผลที่เห็นอย่างชัดเจน แต่ฉันจะพูดถึงความเป็นกลางด้วย ถ้าคุณเป็นกลางก็เท่ากับคุณอยู่ฝ่ายตรงข้ามนั่นแหละ เรื่องสภาพอากาศก็เช่นกัน”
คำถามในรอบ Top 3 แสดงให้เราเห็นว่าเป็นอีกครั้งที่เธอสามารถตอบออกมาได้อย่างทันที และมั่นใจ ด้วยความเป็นธรรมชาติจากใจของเธอจริงๆ ที่หวังว่าจะสามารถใช้เสียงที่มีสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงนี้ให้เกิดขึ้นได้
“อยากแสดงให้เด็กผู้หญิงที่กำลังจะโตเป็นสาวเห็นว่า พวกเขาสามารถสร้างทางเดินของตัวเองได้ ถึงคุณจะดูแตกต่าง แต่คุณสามารถที่จะภูมิใจในตัวตนและความแตกต่างของตัวเองได้นะ”
เราคิดว่าประโยคจากวิดีโอสัมภาษณ์นี้ เต็มไปด้วยไฟบันดาลใจดีๆ รวมถึงความหวังดีจากแอนชิลี ให้กับเด็กสาวรุ่นถัดไปได้ภูมิใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วความหมายที่สะท้อนออกมาจากประโยคนี้ ไม่ได้ใช้ได้แค่กับเด็กสาว แต่สามารถใช้บอกกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
“สวยแต่อ้วน”
ประโยคที่วนอยู่รอบตัวแอนชิลี สามารถสร้างบาดแผลในใจให้เธอได้ แต่เธอใช้สิ่งที่รักนำทางใจ เปลี่ยนคำวิจารณ์เป็นแรงผลักดันให้หันมาซื่อตรงกับตัวเองและหัวใจได้มากยิ่งขึ้น เรามองว่านี่เป็นอีกหนึ่งสปิริต หนึ่งมุมมองที่น่านับถืออยู่ไม่น้อย
“ฉันมายืนอยู่ตรงนี้เป็นตัวแทนของพวกคุณทุกคน ทุกคนที่เคยรู้สึกแปลกแยก ถูกตัดสินและเจ็บปวดจากมาตรฐานความงามที่กำหนดไว้ ฉันมองเห็นพวกคุณ ฉันได้ยินเสียงของคุณ และฉันมาที่นี่เพื่อพวกคุณ”
เรารู้สึกว่าประโยคนี้ได้เป็นเครื่องการันตี ว่าเธอได้ทำหน้าที่กระบอกเสียงบนเวทีได้ดีถึงที่สุด เพราะแอนไม่ได้ส่งเสียงเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความหลากหลายในโลกที่จำกัดเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังส่งเสียงเรียกคนที่เจ็บปวดจาก ‘การไม่ถูกรับรู้’ ให้ตื่นตัวขึ้นมาด้วยได้ ว่ายังมีคนที่พร้อมจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างและเป็นพลังผลักดันพวกเขา
“เพราะการภูมิใจในตัวตนและรูปร่างคือความงามอย่างแท้จริง”
พร้อมลุกขึ้นตบเข่าฉาดกับประโยคนี้ หลังจากดูวิดีโอ Finalist Selection ของกองนางงาม เพราะเธอได้ฝากทั้งประโยคบอกเล่าและประโยคคำถามไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งจากประโยคนี้มันทำให้เราได้กระเทาะและหันกลับมาถามตัวเองว่า ก่อนที่คนอื่นจะยอมรับให้ความแตกต่างของเรา ตอนนี้เรายอมรับความแตกต่างของตนเองหรือยัง ?
และนี่คือ 8 ประโยคจากผู้หญิงคนนี้ เราหวังว่าทุกคนที่ได้อ่านจะมีกำลังใจและมีไฟในการเรียนรู้ความต่าง สร้างการยอมรับ และภาคภูมิใจในรูปร่างและความงามในแบบของตัวเองกันมากยิ่งขึ้น