ถึงแม้ว่ากระแส MILO ENERGY CUBE หรือเจ้าไมโลก้อน จะเริ่มซาลงไปแล้ว แต่ในเมื่อทีมงาน Mango Zero เพิ่งมีโอกาสได้ลิ้มลอง ก็ต้องมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน สำหรับสิ่งที่เซอร์ไพรส์มากๆ อย่างแรกเมื่อแกะห่อออกมาก็คือขนาดที่เล็กจิ๋วเท่าขี้มด ซึ่งขอบอกเลยว่าถ้าวัดความคุ้มค่ายังไงก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าอยากจะลองก็โอเคนะถือว่ามิชชั่นคอมพลีท คุยกับคนเขารู้เรื่อง
REVIEW แบบนักฟิสิกส์ (วัดขนาดนั่นแหละ !)
ขนาด : เราได้นำเจ้า MILO CUBE มาเรียงกับของที่มีขายใน 7-11 เพื่อเทียบขนาดให้ทุกคนนึกภาพตามออก ซึ่งถือว่าเล็กมากๆ เพียงแค่ 0.8 ลูกบาศก์เซนติเมตร (กว้างxยาวxสูง = 0.8 x 0.8 x 0.8 เซนติเมตร)
มวลรวม : MILO CUBE มีน้ำหนัก/ ก้อน = 2.75 กรัม (เพราะ 1 ถุง มี 100 ก้อน น้ำหนัก 275 กรัม)
REVIEW แบบนักโภชนาการ
พลังงาน : MILO CUBE 1 ก้อน ให้พลังงานประมาณ 11.0825 แคลอรี่
เทียบกับ MILO 3 in 1 : MILO CUBE 12 ก้อน (2.75 x 12 = 33 กรัม) จะเท่ากับการชงด้วย MILO 3 in 1 หนึ่งซอง (33 กรัม)
REVIEW แบบนักกิน
วิธีการกิน MILO CUBE ?
- จริงๆ แล้วการกินเจ้าไมโลก้อนเลียนแบบมาจากการชงไมโล 3 in 1 เลย ก็คือชงในน้ำร้อนหรือน้ำเย็นเพื่อดื่มนั่นแหละ แต่ทีนี้พอมาอัดเป็นก้อน เราก็รู้สึกว่ามันเหมือนลูกอมหรือช็อกโกแลต เลยมีวิธีการกินเพิ่มอีกอย่างก็คือกินดิบๆ ไปเลย แกะซองแล้วโยนเข้าปาก เคี้ยวๆ สนุกๆ (หรือว่าจะอมจนละลายก็แล้วแต่)
รสชาติล่ะ ?
- รสชาติจริงๆ ไม่ต้องจินตนาการไปไกลว่าจะอร่อยเหมือน ROYCE เพราะอย่างที่บอกว่ามันคือการเอา 3 in 1 มาอัดเป็นก้อน เพราะงั้นรสชาติมันก็จะหนีไปไหนไม่ได้นอกจากรสชาติเดียวกันกับไมโล 3 in 1 แบบผงนี่แหละ ถ้าใครมาบอกว่าอร่อยมาก สุโค่ยสุดๆ ก็ตะโกนในใจได้เลยพร้อมกันว่า … (อื้อนั่นแหละ)
REVIEW แบบนักสำรวจ (อยากรู้ว่ามีขายที่ไหนบ้าง)
ในตอนนี้หลายคนอาจจะเริ่มขี้เกียจกินไมโลก้อนกันแล้ว เพราะรีวิวแต่ละที่ออกมาว่าไม่อร่อยบ้าง ไม่คุ้มบ้าง และเดี๋ยวโดนหลอกบ้าง แต่สำหรับเรา เราคิดว่าเกิดมาทั้งที เอาวะ จะโง่สั่งแพงกว่าปกติมาลองมันก็โอเคปะ??? เพราะงั้นใครที่คิดแบบเดียวกันก็หาซื้อตาม Social ได้เลยจ้าาาา #แต่ ถ้าใครจะได้ไปมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ก็สามารถไปหาซื้อมาลองกันได้
และ และ และะะะะ สำหรับใครที่คิดว่ารอได้ เดี๋ยวก่อนนนน สั่งถูกๆ ดีกว่า ก็รอซื้อกันได้ใน 7-11 นะจ๊ะ เพราะเห็นว่าเดี๋ยวเขาจะนำเข้ามาขายที่ไทยบ้างแหละ
REVIEW แบบนักบัญชี (ราคาเท่าไหร่ ?)
ราคาที่รับได้ไม่ควรเกินเท่าไหร่ ?
- จากในเว็บไซต์ของต่างประเทศ พบว่าราคาตกอยู่ที่ประมาณ 300 บาท ซึ่งคนที่รับมาขายกัน เราเห็นแพงๆ ตั้งแต่ 500 – 800 เลย ถือว่าเป็นราคาที่เอาเปรียบมากเหมือนกัน เพราะงั้นถ้าจะลองซื้อมาก่อน ก็หาเจ้าที่ถูกๆ กันเนอะ