อีเวนต์ดีต่อใจส่งท้ายปี “MINDDAY ภูมิคุ้มใจ PRESENTED BY SHISEIDO” ชวนสร้างภูมิคุ้มใจผ่านวิธีการที่หลากหลายไปด้วยกัน
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่ประสบความสำเร็จสุดๆ โดยเฉพาะในด้านจิตใจ ที่พาเหล่าผู้เข้าร่วมงานร่วมสร้างเกราะป้องกัน ให้กลายภูมิคุ้มใจที่แข็งแกร่ง ซึ่งบอกเลยว่าบรรยกาศภายในงานอบอวลไปด้วยมวลอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งเสียงหัวเราะ ความอิ่มเอมใจ สุขใจ สบายใจ และเศร้าจนต้องหลั่งน้ำตากันตลอดทั้ง 8 Session
และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปินทั้ง 3 ท่าน PONCHET หนุ่มเสียงดี เจ้าของบทเพลง ‘พี่ชอบหนูที่สุดเลย’ รวมถึง QLER เจ้าของเพลงคลั่งรักอย่าง ‘จีบ’ จากค่าย What The Duck และ วี-วิโอเลต วอร์เทีย ที่มาเติมความเบ่งบานให้กับทุกคน
แน่นอนว่า แมงโก้ ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานดีๆ แบบนี้ทั้งที ขอสรุป 3 เกราะสร้างภูมิคุ้มใจ จาก 3 session ที่น่าสนใจฉบับชาวแมงโก้ เพื่อเป็นการส่งต่อเรื่องราวดีๆ สร้างเกราะป้องกันจิตใจที่แข็งแกร่งให้ทุกคนไปพร้อมๆ กัน
เรียนรู้ 5 เรื่องมหัศจรรย์ของชีวิต โดย หลวงพี่โตน-พระมหาจักรธร อตฺถธโร
หลายคนอาจจะแปลกใจที่แมงโก้เลือกหยิบ session นี้ มาเป็นหนึ่งใน session ประทับใจ แต่บอกเลยว่าเนื้อหาที่ได้ฟังกลับเป็นเรื่องราวที่อยากให้ทุกคนได้ฟัง เพราะไม่ว่าใครก็ต้องพบเจอกับเรื่องราวชีวิตดั่งที่หลวงพี่โตนได้กล่าวไว้
บางคนอาจจะพบเจอปัญหาเล็กน้อย บางคนอาจพบเจอปัญหาใหญ่ แต่ทุกปัญหานั้นส่งผลกับทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ การบวชเป็นพระตลอด 9 ปี ของหลวงพี่โตน ทำให้ท่านได้รู้จักวิธีเปลี่ยนชีวิตให้ไปในทางที่ดีขึ้น จากการใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง พร้อมแชร์ 5 เรื่องมหัศจรรย์ของชีวิต ที่ถือเป็นแกนหลักที่ทำให้มุมมองการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป
- สุขภาพ : สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิต หากเรารักและหมั่นให้ความสำคัญอยู่เสมอ สิ่งอื่นๆ ก็จะดีตามมา เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนเวลาการนอนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหลวงพี่โตน ตอนใช้ชีวิตเป็นนักร้อง กับกลายสู่นักแสวงธรรม
- ความสัมพันธ์ : แน่นอนว่าความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้เราสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ เช่นเดียวกับสิ่งที่หลวงพี่โตนได้เรียนรู้ เราต้องการให้เขาทำแบบใด เราก็ต้องรักษาความสัมพันธ์ด้วยการกระทำเช่นนั้น เอาใจเขามาใส่ใจเรา
- คุณภาพจิตใจ : สุขภาพกายดีแล้ว สุขภาพจิตก็ต้องดีด้วยเช่นกัน เพราะความรู้สึกจากภายในเป็นสิ่งที่ห้ามละเลย
- เป้าหมายของชีวิต : หรือสิ่งที่เรียกว่าการสร้างคุณค่าให้กับชีวิต หากเราเห็นคุณค่าทั้งตัวเองและสิ่งที่กระทำ สร้างเป้าหมายชีวิตก็จะทำให้การมีอยู่ของเรานั้นมีความหมาย
- การปล่อยวาง : ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยทันทีหากรู้จักปล่อยวาง สิ่งที่สร้างไม่ใช่สิ่งที่เราเอาไปได้หากสิ้นอายุขัย
“โปรดแสดงความคิดเห็น (ใจ)” โดย ‘เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์’ และ ‘เติ๊ด-ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี’ จาก เทพลีลา
เชื่อว่าเป็น session ที่ใครหลายคนรอคอยอย่างแน่นอน เพราะแค่ชื่อหัวข้อที่จะพูด ก็ถือเป็นเรื่องราวที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันที่โลกโซเชียลนั้นไปไกลเกินกว่าจะควบคุมได้ จากการสร้างประโยชน์ก็กลายเป็นพิษกับตัวเองทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วเราจับต้องหรือระบุตัวตนของพิษนั้นไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
แถม session นี้ ยังได้ 2 speaker คุณเหว่งและคุณเติร์ด จาก เทพลีลา ที่ถือเป็นบุคลลที่อยู่ในแสงสปอตไลท์อันเจิดจ้า เพราะเป็นคอนเทนต์ครีเตอร์ที่ถือว่าใครๆ ก็ต้องรู้จัก แต่การท่ามกลางแสงอันเจิดจ้าที่เรียกว่า “บุคคลสาธารณะ” กลับกลายเป็นพิษที่แล่นมาทำร้ายตัวตนไม่มากก็น้อย
ทั้ง 2 ท่าน ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ทักษะที่จำเป็นเพื่อรับมือกับ Toxic Comment และคำวิจารณ์ต่างๆ หยิบยกสิ่งที่มีประโยชน์มาปรับใช้ ละทิ้งสิ่งที่เป็นเนื้อร้าย ส่งผลเสียหากนำมาเก็บไว้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้อย่างแข็งแกร่ง
พร้อมฝากถึงทุกคนที่กำลังประสบปัญหา เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์มากมาย ถ้าหากเราเห็นคุณค่าในตัวเอง ถ้าหากเราเห็นชัดพอว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้แย่เหมือนคำพูดของใคร เราจะเชื่อเองว่ามันไม่จริง และไม่ให้คุณค่ากับพิษร้ายนั้น
ยกตัวอย่าง “เกมต้องห้าม” เราต้องอาศัยความเข้าใจว่าเจตนาในการพูดนั้นเพื่ออะไร ต้องการเล่นสนุก? ต้องการสร้างบรรยกาศ? หรือมีเจตนาอะไรแอลแฝง หากเข้าใจในเจตนารู้ว่ามันเป็นเพียงการสร้างบรรยกาศเพื่อเล่นสนุก เราจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดนั้นเลย
“รักตัวเอง ทำไมมันยากจัง? ” โดย ‘วี-วิโอเลต วอเทียร์’ และ ‘มะเฟือง-เรืองริน อักษรานุเคราะห์’ นักจิตบำบัด
ถือเป็นอีก session ที่ตรงกับคีย์เวิร์ดของงานอย่างแท้จริง กับการสร้างภูมิคุ้มใจ คนเราจะต้องมีการตั้งคำถามอย่างแน่นอนว่า การรักตัวเอง ทำไมมันถึงยากจัง ? ทั้งๆ ที่เราทุกคนรู้ว่าควรรักตัวเอง แต่บางครั้งเราก็กลับละเลยและมองข้ามตัวเองไป จนรู้ตัวอีกทีตัวเราก็บอบช้ำจากการเอาเปรียบตัวเองไปมากแล้ว
ในหัวข้อนี้ คุณวี และคุณมะเฟืองได้แชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่ากว่าจะกลายเป็นตัุวเองในเวอร์ชันนี้ได้ผ่านอะไรมาบ้าง กว่าจะเริ่มรู้ตัวว่ากำลังละเลยตัวเองบางครั้งก็ต้องเสียบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไป อาจจะเป็นสภาพจิตใจ สภาพร่างกาย หรือคนรอบข้าง
เพราะไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้ 100% การที่เรารู้ตัวเองว่าเรามีเจตนาที่ดี และพยายามแสดงเจตนานั้นออกมาตามที่ตั้งใจไว้ได้ มันจะทำให้เราปลดล็อคความกังวลในใจ ต้องยอมให้ตัวเองผิดพลาด และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้น ยอมให้อภัยตัวเองและทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นถือเป็นการรักตัวเองแล้ว
พร้อมแชร์มุมมองของ การรักตัวเอง = เห็นแก่ตัว เพราะว่า “การรักตัวเอง” อยู่ที่มุมมองที่เราตีความออกมา แน่นอนว่าบางครั้งการรักตัวเองอาจจะทำให้บางคนหล่นหายไป แต่นั่นอาจเป็นเพราะว่าแต่ก่อนเราไม่ได้มองเห็นว่าความสัมพันธ์เราได้ถูกเอาเปรียบหรือไม่ บางครั้งการรักตัวเองมันยากเพราะเราเอาตัวเองไปผูกกับคนอื่นมากเกินไป แต่ถ้าหากเราเห็นคุณค่าในตัวเอง ขีดเส้นไว้ชัดเจนว่าการรักตัวเอง ต้องเป็นสิ่งที่ไม่ได้ไปเอาเปรียบใคร ลองเปลี่ยนคีย์เวิร์ดจากคำว่า “รัก” เป็นอย่างอื่นดูก็ได้ บางครั้งอจจะทำให้เรารู้สึกดีกับการรักตัวเองมากขึ้น
นี่เป็นเพียงไม่กี่ session เท่านั้นจากทั้งหมดที่เกิดในงาน MIND DAY เชื่อว่าใครที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ต้องได้รับพลังใจกลับไปไม่มากก็น้อย และสร้างความภูมิคุ้มใจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น