[NEWS] ราชกิจจาฯ ประกาศ ผ่อนคลายมาตรการโควิด สามารถเลือกใส่ได้ตามความสมัครใจมีผลทันที แต่ผู้ติดเชื้อ–เสี่ยงสูง หากอยู่กับคนอื่นให้สวมไว้ก่อน เลือกใส่หน้ากากอนามัยได้แล้ววันนี้! เป็นอีกหนึ่งก้าวของความคืบหน้าในเรื่องโควิด-19 เมื่อเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 46 ให้โรคโควิด-19 คลี่คลายลง มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงเป็นลำดับ จนสามารถผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมถึงให้ประชาชน และผู้ประกอบการได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ โดยใจความสำคัญของการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 มีดังนี้ ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามสถานการณ์ และยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ขยายเวลาการบังคับ ใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค การผ่อนคลายข้อปฏิบัติ ในการสวมหน้ากากอนามัยทั่วราชอาณาจักร การสวมหน้ากากอนามัยให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ ประชาชนสามารถพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงาน นั่นก็คือ สวมหน้ากากอย่างถูกวิธีในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) จึงมีข้อแนะนำให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับ บุคคลอื่นในสถานที่หรือพื้นที่แออัด >> มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ กรณีเป็นผู้เข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อโควิด – 19 หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ และกรณีเป็นผู้ติดเชื้อ โควิด – 19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด – 19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค การผ่อนคลายมาตรการสำหรับการเคลื่อนย้าย และการเดินทางของแรงงานต่างด้าว แนวปฏิบัติการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่เฝ้าระวัง มาตรการเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคในพื้นที่เฝ้าระวัง โดยทั้งนี้ทุกมาตรการสามารถปฏิบัติตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2565 สุดท้ายเราขอฝากไว้อย่างนึงฮะะ ไม่ว่าเราจะเลือกใส่หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัย อยากขอให้ทุกคนเคารพสิทธิ์ของทุกคนกันด้วยนะค้าา ที่มา : sanook