ผจญภัยสู่ความเวิ้งว้าง ท่ามกลางมิตรภาพ ความผิดพลาด
และการรู้จักตัวเองบนดวงดาวอันไกลโพ้นไปกับ Lightyear
นับเป็นอีกครั้งที่ Disney และ Pixar ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง สำหรับแอนิเมชันไซไฟแอคชั่นที่สาวก Toy Story ตั้งตารอคอยอย่าง Lightyear เรื่องราวแยกของตัวละครแห่งวลีฮิต “To infinity and beyond” การผจญภัยไปกับภารกิจของสเปซเรนเจอร์ บัซ ไลท์เยียร์
โดยครั้งนี้ ภาพยนตร์ไม่ได้ถ่ายทอดบทบาทของบัซในรูปแบบ ‘ของเล่น’ ของแอนดี้อีกต่อไป แต่เป็นฮีโร่จากหนังเรื่องโปรดที่สร้างแรงบันดาลใจ ผ่านจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์จักรวาลในชุดอวกาศสีขาว-เขียว-ม่วงสุดเท่ที่โดนใจใครหลายๆ คน
ซึ่งผู้ที่มาให้เสียงกัปตันบัซ ไลท์เยียร์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Chris Evans ผู้รับบทกัปตันอเมริกาในจักรวาลมาร์เวล และได้ผู้กำกับ Angus MacLane, นักเขียนบท Pete Docter จากแอนิเมชัน Up / Inside out มาถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่าสเปซเรนเจอร์สุดตื่นตา
บนดาวอันไกลโพ้น และการบันทึกภารกิจสำคัญของบัซ ไลท์เยียร์ ร่วมกับคู่หูคู่ใจอย่าง ‘อลิชา ฮอว์ธอร์น’ ด้วยการทดสอบยานอวกาศรุ่นใหม่และหลอดพลังงานคริสตัลที่จะพาทุกคนกลับไปยังจุดที่จากมา โดยมีเป้าหมายเป็นการทะลุพื้นที่สำคัญอย่างไฮเปอร์สปีดในระยะเวลาบินเพียง 4 นาที แต่นั่นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ความผิดพลาดกลับกลายเป็นการเดินทางข้ามห้วงเวลาที่ 4 นาที ยาวนานเป็น 4 ปีในพริบตา
ด้วยความล้มเหลวที่ยากจะยอมรับ ทำให้บัซจมอยู่กับการพยายามปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะบอกเราผ่านตัวบัซ คือ ‘การพยายามแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด อาจไม่สำคัญเท่ากับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันให้ได้’ ในขณะที่บัซเดินทางกลับมาและจากไป 4 ปี กลายเป็น 40 จาก 40 กลายเป็นเกือบร้อย แม้จะมุ่งไปข้างหน้าเพื่อแก้ไข แต่เมื่อหันมองรอบตัวอีกครั้ง บัซก็ได้สูญเสียอะไรไปหลายอย่าง
“ฉันคือ บัซ ไลท์เยียร์ ฉันแน่มาตลอด”
อย่างไรก็ตาม ก็น่าชื่นชมถึงความพยายาม ที่ไม่ว่าภารกิจจะล้มเหลวสักกี่ครั้ง บัซ ไลท์เยียร์ก็ยังยืดหยัดขึ้นสู้ด้วยความภาคภูมิใจในจิตวิญญาณและชุดของผู้พิทักษ์อวกาศเพื่อคนรอบข้างอยู่เสมอ
แต่! จอมโจรขโมยซีนที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ขอยกให้ ‘ซ็อกซ์’ น้องแมวเหมียว หุ่นยนต์แมวคู่ใจฉลาดล้ำของบัซ ไลท์เยียร์ ที่ออกมาสร้างเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจนทาสแมวอย่างเราๆร้อง ‘เหมียวๆๆๆ’ ไปตามกัน ซึ่งน้อนมีบทบาทสำคัญกับเรื่องราวของหนัง เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของบัซ ไลท์เยียร์เลยทีเดียว
โดยสมาชิกร่วมปฏิบัติการ ได้กลายเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้บัซได้รู้จัก และดึงตัวตนอีกด้านของตัวเองให้ชัดมากยิ่งขึ้น จากผู้ที่มองมุ่งแต่ข้างหน้า ชอบทำอะไรคนเดียว (พูดคนเดียวด้วย5555) กลับมองเห็นคนรอบข้างได้ดียิ่งขึ้น และการขอความช่วยเหลือออกไป ก็ทำให้บัซได้รับมิตรภาพดีๆ ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนในครั้งนี้เป็นบทเรียนที่น่าจดจำ ทำให้การผจญภัยสู่ความเวิ้งว้าง ถูกเติมเต็มด้วยพื้นที่ที่ไม่อ้างว้างอีกต่อไป
อีกทั้งงานภาพและเสียงที่ดีงาม ด้วยคุณภาพแบบฉบับ Disney และ Pixar ทั้งรายละเอียดของชุด ฉาก ไปจนถึงส่วนเล็กๆในยานอวกาศ ก็ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างปราณีตเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบเก็บรายละเอียดของตัวละคร และ Easter Egg ในภาพยนตร์
สรุปแล้ว เรามองว่าภาพยนตร์ Lightyear เป็นอีกหนึ่งแอนิเมชันชั้นดีที่มอบแรงบันดาลใจกับผู้คนทุกเพศ ทุกวัยอีกหนึ่งเรื่องในปีนี้ แม้จะไม่ได้หวือหวาหรือแปลกใหม่จากที่เคยมี แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่อง ‘ความธรรมดา’ ของมนุษย์หรือฮีโร่ที่มีความล้มเหลวและผิดพลาดได้เป็นอย่างดี ในมุมมองที่เราจะเรียนรู้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ และอยู่กับมันได้อย่างไร
มาขึ้นยานอวกาศและพุ่งตัวออกเดินทางผจญภัย ที่มีมากกว่าความมันส์ สะใจ ไปพร้อมกับเหล่าสเปซเรนเจอร์ที่เท่ที่สุดในจักรวาล ‘Lightyear’ รับชมบนจอยักษ์พร้อมกัน 16 มิถุนายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ To infinity and beyond..
ปล.ซ็อกซ์น่ารักมากกกกนะทุกคน น้อนเป็นแมวที่ฉลาดมาก ออกมาทุกฉากขำเกือบทุกฉากเลย เอ็นดูวว
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ Lightyear ได้ที่นี่