รู้จัก ‘LAZ iCON’ รายการเด็กฝึกไทย ปั้นไอดอล T-POP หน้าใหม่จุดไฟวงการ นับเป็นอีกก้าวในวงการเพลงไทยที่เปิดกว้างและขยายใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่รายการ T-POP Stage และรายการอีกมากมายที่ให้พื้นที่เหล่าศิลปินหน้าเก่าหน้าใหม่ได้มาร้อง เล่น เต้น ปล่อยของ ประลองเพลงใหม่ หรือแม้แต่ทำให้วงเกิร์ลกรุ๊ปซึ่งแยกทางกันไปในปัจจุบัน ได้หวนกลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อแสดงร่วมกันบนเวที ทำให้ตอนนี้กระแส T-POP กลับมายิ่งใหญ่ด้วยไฟลุกโชนอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นใหม่ชื่อดัง 4EVE หรือเจ้าของเพลงคุ้นหูสุดจะมูเตลู อูว่ะอะอะอะอาาาอย่าง PIXXIE รวมถึงกลุ่มไอดอลชายจากค่าย KS Gang อย่าง 4MIX ที่ได้ขึ้นเวทีโปรโมทกันวนไป ในฐานะดาวดวงใหม่ที่จะยกระดับวงการทีป๊อบไทยให้ไปไกลกว่าเดิม วันนี้ Mango Zero เลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งเวทีแห่งฝัน ที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในช่วงนี้ หลังจากผ่านมาครึ่งทางอย่าง ‘LAZ iCON’ ไอคอนป๊อบ ตัวท็อปเดบิวต์ ที่รวม 35 เด็กฝึกหนุ่มหล่อมาพร้อมความสามารถไว้มากมาย และน่าเสียดายถ้าต้องคัดออกไปถึง 30 คน จนเกิดเป็น #LAZiCONควรเพิ่มสมาชิก ในโลกทวิตเตอร์ ซึ่งรายการนี้คืออะไร เราจะมาทำความรู้จักไปพร้อมกัน ! LAZ iCON คืออะไร? LAZ iCON ไอคอนป๊อบ ตัวท็อปเดบิวต์ เป็นรายการแข่งขันบอยกรุ๊ปสุดยิ่งใหญ่ จากการจับมือของแบรนด์อีคอมเมิร์ซสายนักช้อปไทย Lazada, ช่อง ONE31 และทีมผู้ผลิตรายการชื่อดังจากจีน เพื่อเฟ้นหาศิลปินกลุ่มหน้าใหม่ที่เป็นได้หลากหลายรูปแบบ โดยเป็นรูปแบบรายการแข่งขันเด็กฝึกชายแบบดุเดือด ที่ค่อนข้างโดดเด่นและมีสไตล์ด้วยองค์ประกอบต่างๆมากมายที่ใส่มาในรายการ ทั้งการจัดอันดับในแต่ละสัปดาห์ โจทย์การแข่งขันและกติกาที่ชวนติดตาม ซึ่งงานนี้ก็ได้ดีเจพุฒ – พุฒิชัย เกษตรสิน และซานิ ศิลปินรุ่นพี่ผู้ชนะรายการแข่งขันในตำนานอย่าง Academy Fantasia มาเป็นพิธีกรด้วย ตอนนี้รายการ LAZ iCON ได้เดินทางมาครึ่งทางแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลา ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 20.15 น. ทางแอพ Lazada และช่อง ONE31 เด็กฝึกจากค่าย vs เด็กฝึกอิสระ ในส่วนของผู้เข้าแข่งขันรายการนี้ เป็นการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน 35 คน ที่มีทั้งเด็กฝึกค่ายใหญ่ ค่ายดัง หรือแม้แต่ค่ายหน้าใหม่ก็ได้เข้ามาร่วมแข่งขันกันด้วย และเด็กฝึกอิสระที่ไม่สังกัดที่ใดก็สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม Insight Entertainment LIT Entertainment Star Hunter Entertainment Atime26 GMMTV / GMM Grammy นาดาวบางกอก Exact Scenario iMe Thailand OGME Entertainment Handsome Entertainment Khaosan Entertainment แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ไม่ว่าจะสังกัดค่ายหรืออิสระ เด็กฝึกทุกคนที่มานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มีไฟแห่งฝันและพร้อมจะฝ่าฝันเพื่อให้ฝันเดินทางไปสู่จุดสำเร็จ การรวมตัวของ Iconic 3 ด้าน กรรมการสุดป๊อบ รายการแข่งขัน แน่นอนว่าต้องมีกรรมการ โดยรายการนี้ได้เลือกสรรผู้ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น จากการเป็น Iconic สำคัญในด้านต่างๆ 3 ด้าน อย่าง Iconic ด้านการร้อง ครองตำแหน่งโดย ดา Endorphine ศิลปินหญิงสุดป๊อบ ตัวท็อปของไทยอย่างแท้จริง การันตีด้วยเพลงติดหูในวงการที่ผ่านมานานเกินกว่า 10 ปี ทั้งคืนข้ามปี ภาพลวงตา เพื่อนสนิท และเพลงแห่งการประกาศศักดาความปังอย่าง สองใจ Iconic การเต้น เป็น ชิน ชินวุฒ นักเต้นเท้าไฟ ศิลปินชายขวัญใจวัยรุ่นไทยในตำนานอย่างเพลงของชายปากไม่ตรงกับใจ ไปจนถึงนี่มันหัวใจไม่ใช่กระดาษ ต่อให้เพลงช้าแค่ไหนก็เต้นได้ตามสไตล์ชิน คนสุดท้ายผู้สร้าง Iconic โอม Cocktail นักร้องนำวงดัง น้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลงของศิลปินดังอย่าง Gene Lab ให้มาร่วมสร้างดาวดวงใหม่ ดึงศักยภาพสำคัญให้ออกมาปังปุริเย่ กติกาแข่งขัน การคัดเลือกเข้มข้น สำหรับการแข่งขันจะเป็นเป็นรอบ โดยให้จับกลุ่มครีเอทโชว์ตามโจทย์ที่ทางรายการมอบหมายให้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งผลคะแนนและการจัดอันดับของทั้ง 35 คนจะมาจากการโหวต กรรมการ รวมไปถึง Extra Point ด้วย ซึ่งการแข่งขันจะเริ่มจากวันที่ 9 ตุลา – 11 ธันวา โดยมีไทม์ไลน์คือ คัดเลือกรอบออดิชั่น เข้ารายการ 35 คน การประเมินรอบแรก กับโจทย์ National Pop เพลงป๊อบในประเทศ การประเมินรอบที่ 2 กับโจทย์ World Idol เพลงป๊อบสากล การประเมินรอบที่ 3 กับโจทย์ Original Soundtrack เพลงประกอบละคร ภาพยนตร์ การประเมินรอบที่ 4 กับโจทย์ Trending Music เพลงฮิตติดเทรนด์ จนมาถึงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการคัดออก 10 อันดับ เพื่อไปต่อในสัปดาห์หน้าที่คาดว่าจะทำการคัดออกอีก 10 คน แฟนๆหรือคนที่สนใจก็สามารถส่งกำลังใจโหวตได้ทาง LazLive สานฝันให้คนในใจได้ไปต่อ จาก 35 สู่ 5 คนสุดท้าย เส้นทางท้าทายในฐานะเด็กฝึก การแข่งขันในเวทีนี้ เริ่มต้นหลังจากรอบออดิชั่นที่ 35 คน โดยมีจุดหมายปลายทางที่อยู่ผู้ชนะจำนวน 5 คน ซึ่งจะได้เดบิวต์เป็นบอยกรุ๊ปภายใต้สังกัดค่ายช่องวัน รวมถึงเป็นไอคอนสำคัญของลาซาด้าด้วย แต่ด้วยการโหวต คะแนนความนิยมต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสิน แน่นอนว่าสิ่งนี้สร้างความกดดันให้กับผู้เข้าแข่งขันไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้ในช่วงการคัดออกที่ผ่านมา เราได้เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาเพราะความฝันที่พวกเขาแบกมาไม่มีทางไปต่อบนเวทีนี้ แต่ผู้เข้าแข่งขันบางคนก็ได้พูดสร้างแรงบันดาลใจดีๆว่า “วันนึงที่ประตูบานนึงปิด มันก็จะมีบานนึงเปิดเหมือนกัน” เพื่อเป็นกำลังให้เพื่อนทุกคนยังคงเก็บความฝัน และสู้ต่ออีกครั้งในวันข้างหน้า